ที่มาข่าว ไทยรัฐออนไลน์
24 เม.ย. 2559
ซัดอํานาจ อยู่ในมือ ประชามติ ทํา-ทําไม
“ทักษิณ” สับร่าง รธน. ไม่เป็นประชาธิปไตย ข้องใจทำประชามติเพื่ออะไรมีอำนาจอยู่แล้วประกาศใช้ไปเลย เย้ย คสช.ยิ่งเดินยิ่งช้ำ สั่งทีมงานเครือข่ายเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ “นิคม” ชี้ปิดกั้นห้ามรณรงค์ก็ใช้เลยดีกว่าไม่ต้องทำประชามติ เพื่อไทยเย้ยซ้ำเปลืองเงินเปล่า ไม่ต้องทำเหนียมอายมาถามประชาชน อัดร่าง รธน.ย้อนยุคคนกินข้าวแล้วสั่งให้กลับไปกินแกลบกินเผือก “จาตุรนต์” จี้ กกต.ไปทำความเข้าใจกฎหมายประชามติกับ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ก่อนใครเพื่อน จะได้ไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขตตามอำเภอใจ ด้าน “สุวพันธุ์” อัด “ทักษิณ” ทำสงครามข่าวบิดเบือน เชื่อคนไทยตัดสินได้ใครดีไม่ดี “วันชัย” หนุนนายกฯสุดลิ่มห้ามรณรงค์ประชามติ ฉะ “ทักษิณ” เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ย้อนดูสมัยตัวเองกับน้องสาวมีแต่ความวุ่นวายตลอดเวลา มั่นใจ พท.ดับสูญแน่ ประชาธิปัตย์โต้แทนรัฐ ย้ำข้อมูลจ้างล็อบบี้ยิสต์ โวถอดยศ “ทักษิณ” คือผลงานชิ้นโบแดง “วิษณุ” ท้าลองของรณรงค์ประชามติ เตือนยังมีคำสั่ง คสช. เอาผิดอีกชั้น
หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างดุเดือด สืบเนื่องจากข้อครหาว่าอยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังมีประเด็นโจมตีเรื่องการทำประชามติจากนายทักษิณอีกด้วย
“ทักษิณ” ยุส่งไม่ต้องทำประชามติ
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาอดีต ส.ส. สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งรดน้ำขอพรในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป โดยนายทักษิณบอกกับอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ไปพบให้เดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป ลงพื้นที่พบประชาชนอย่างต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อใด สำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังเดินเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามตินั้น นายทักษิณระบุว่า “ร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนออกมามันผิด ไม่เป็นประชาธิปไตย ในเมื่อมีอำนาจทำอะไรก็ได้ อยากใช้ก็ใช้ไปเลย จะมาขอประชามติทำไม ตอนนี้เขาพยายามสร้างภาพให้ผมเป็นผี และบอกว่าจะมาปราบผี ไปหลอกลวงคนอื่น ไปหลอกลวงชาวบ้านให้หลงเชื่อ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่หมอผีปลอม ตอนนี้คสช.ยิ่งเดินยิ่งช้ำ ปล่อยเขาทำไป แต่เราต้องพร้อมปรับตัวทุกสถานการณ์”
ปิดกั้นมากนักก็ประกาศใช้เลย
นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.บอกไม่ให้รณรงค์ทั้งฝ่ายเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ก่อนการทำประชามติว่า ยิ่งใกล้วันทำประชามติยิ่งมีคนออกมาแสดงความเห็นมากขึ้น ผู้มีอำนาจกดดันเท่าไหร่จะยิ่งเกิดแรงต้าน ต่อไปคนอาจจะถามว่า จะทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญไปทำไม ถ้าไม่ให้รณรงค์ประกาศใช้ไปเลย ดีกว่าปิดกั้นกันแบบนี้ ส่วนกรณีต่างตอบโต้กันของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เพราะต่างคนต่างเชื่อมั่นตัวเอง ถ้าต่างฝ่ายต่างให้เกียรติกัน อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าข้อหานายทักษิณใช้โลกล้อมประเทศคงเป็นแนวคิดเกินเหตุ นายทักษิณจะไปมีอิทธิพลอะไรขนาดนั้น ต่างชาติเขามีมาตรการ มีพันธกรณีที่ตกลงกันไว้เป็นหลักเกณฑ์ แต่ละประเทศเขาจับตาอยู่ ทั้งเรื่องการประมง แรงงานเถื่อน ถ้าจะไม่ให้สถานการณ์รุนแรง บานปลายผู้มีอำนาจต้องไม่แสดงการกระทำ หรือคำพูดต่างๆ ในทางกดดัน ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ยิ่งมีอำนาจมาก หากมีเมตตาผ่อนคลายลงจะได้ความเห็นใจ แต่ถ้ายิ่งมีอำนาจยิ่งข่มขู่คนยิ่งไม่กลัว ไม่ยอม เปิดประตูบ้าง ลดความกดดันลงหน่อย
กินข้าวอยู่ดีๆยัดเยียดให้กินแกลบ
นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้องใจว่าจะมีการทำประชามติไปทำไมให้เปลืองเงินเปลืองทอง ในเมื่อ คสช.ยึดอำนาจมา ไม่ได้อำนาจมาจากประชาชน แล้วจะมาดัดจริตถามความเห็นประชาชนไปเพื่ออะไร อยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย ร่างรัฐธรรมนูญให้มี ส.ว.ลากตั้ง เปิดทางให้มีนายกฯคนนอก เขียนกันแบบย้อนยุคไดโนเสาร์เต่าล้านปี ทั้งๆที่โลกเดินไปไหนต่อไหน ก้าวไปสู่ยุคดิจิตอลแล้ว เปรียบเหมือนคนกินข้าวอยู่ดีๆแล้วมาถามว่าจะกินมันกินเผือก หรือกินแกลบ
“ปึ้ง” เย้ยไม่มีชาวโลกโง่เชื่อ “บิ๊กตู่”
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ว่า การดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาลชุดนี้ต่างชาติให้ความสนใจแทบทุกเรื่อง เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อากัปกิริยาวาจาในการให้สัมภาษณ์ การแสดงออกทางอารมณ์ของนายกฯ ทุกครั้งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทูตของแต่ละประเทศที่อยู่ในไทยหรือองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ที่มีสำนักงานในไทยคงจะส่งข่าวกลับไป
ไม่สามารถหลอกลวงหรือปิดบังความจริงได้ กรณีที่นายกฯ กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์นั้น ฝรั่งคงไม่โง่พอที่จะเชื่อหรือยอมให้ใครจูงจมูกได้ง่ายๆ เขามีวิจารณญาณและใช้เหตุผลในการวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ในบ้านเรา จึงไม่อยากให้รัฐบาลปล่อยไก่จนอับอายขายขี้หน้าต่างชาติ จะทำอะไรควรคิดให้รอบคอบ เปิดใจกว้างรับฟังความเห็นต่าง ไม่ควรทำให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศอึดอัดลำบากใจ ต้องคอยชี้แจงเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอยู่ตลอดเวลา และหวังว่าการแก้ปัญหาประเทศของรัฐบาลจะสัมฤทธิผลด้วยฝีมือตนเองบ้าง เพราะที่ทำมาล้วนแต่เอาของเก่าที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ทำไว้เปลี่ยนชื่อใหม่แค่นั้นเอง
“อ๋อย” ชี้ชัดร่องรอยสืบอำนาจ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ขอเวลา 5 ปี เข้มงวดกฎหมาย ไม่ให้ขัดแย้งว่า อาจจะมีคนส่วนหนึ่งเห็นด้วย แต่ปัญหาคือมันจะไม่ตรงกับที่สัญญาไว้แต่ต้น คืนประชาธิปไตยล่าช้าออกไป และที่ผ่านมา 2 ปีไม่ปรากฏแก้ไขปัญหาบ้านเมืองดีขึ้น เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเดือดร้อน ยังจำกัดสิทธิเสรีภาพ คุกคามตามอำเภอใจ การแก้ปัญหาขาดการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ฉะนั้นการขอเวลา 5 ปี จึงเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เกิดข้อสงสัยสิ่งที่เคยพูดมาตลอดว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ ถามว่าเป็นการขอให้ใคร ถ้าไม่ใช่ขอให้ตัวเอง และคนของตัวเอง ส่งผลทำให้เห็นชัดคำถามพ่วงหนีไม่พ้นการสืบทอดอำนาจ
จี้ กกต.ทำความเข้าใจ 2 ป. ก่อนใคร
นายจาตุรนต์กล่าวว่า พ.ร.บ.การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญยังคลุมเครือ ยังต้องให้ กกต.ออกหลักเกณฑ์ เชื่อว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ พ.ร.บ.นี้ไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้เผยแพร่ความคิดเห็นได้ หมายถึงเดินแจกเอกสาร การเสวนา ใส่เสื้อที่มีเนื้อหาสาระหรือสัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็น่าจะทำได้ แต่ความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ห้ามถึงขั้นไม่ให้ใครทำอะไรได้เลย ดังนั้นทั้ง 2 ท่านนี้คือผู้ที่ กกต.ต้องทำความเข้าใจก่อนใคร เพื่อจะได้ไม่ใช้อำนาจเกินกว่า พ.ร.บ. หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ ส่วนที่นายกฯบอกหากยังขัดแย้งอย่างนี้ การทำประชามติกับการเลือกตั้งอาจมีปัญหานั้น สะท้อนว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าทำไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยต้องอยู่ภายใต้การปกครองที่เป็นเผด็จการแบบนี้ตลอดไปหรืออย่างไร
ชี้แนะนายกฯ หลังโดนคว่ำบาตร
นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “วิธีแก้ไขหากถูกพระสงฆ์คว่ำบาตร” ว่า อ่านข่าวที่รองผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายประชุมและออกมติคว่ำบาตรนายกรัฐมนตรี เหตุปกครองบ้านเมืองไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ กรณีที่สั่งปิดกั้นการเปิดวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนที่ก่อตั้งโดยหลวงตามหาบัว ตนเป็นเด็กวัดเก่าพอมีความรู้อยู่บ้าง จึงขอนำเรื่องนี้มาเป็นกรณีศึกษาเพื่อประโยชน์ทางวิชาการโดยไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น การคว่ำบาตรเป็นการที่พระสงฆ์ลงโทษบุคคลผู้ปรารถนาร้ายต่อพระรัตนตรัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีความผิดอยู่ 8 ประการ หากฆราวาสผู้ใดมีพฤติกรรมดังกล่าว พระสงฆ์จะประชุมกันแล้วประกาศไม่ให้ภิกษุทั้งหลายคบค้าสมาคมด้วย การคว่ำบาตรหมายถึงการไม่รับบิณฑบาต ไม่รับนิมนต์ ไม่รับเครื่องใช้ รวมถึงอาหารคาวหวานที่ผู้นั้นนำมาถวาย
ใช้ทหารทำพิธีแทนพระสงฆ์
นายวัฒนาระบุว่า บุคคลใดก็ตามที่ถูกพระสงฆ์คว่ำบาตรอาจได้รับความเดือดร้อน เพราะหากมีความจำเป็นต้องใช้สงฆ์ในการประกอบพิธีไม่ว่าจะเป็นงานมงคล เช่น ขึ้นบ้านใหม่ หรือทำบุญบ้าน หรืออวมงคล เช่น สวดพระอภิธรรม หรือบังสุกุลญาติจะไม่สามารถนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีได้ สำหรับงานมงคลอาจพอเลื่อนออกไปยกเว้นงานที่เกิดโดยไม่คาดฝัน เช่น งานศพ จึงแนะนำท่านให้รักษาสุขภาพไม่โกรธง่าย เพราะหากเป็นอะไรไปญาติพี่น้องจะไม่สามารถหาพระสงฆ์มาประกอบพิธีให้ได้ ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปคงจะได้รับความเดือดร้อนมากยกเว้นบางอาชีพ เช่น ทหาร เพราะยังมีบุคลากรที่ดูแลด้านกิจการศาสนาในกองทัพเรียกว่าอนุศาสนา– จารย์ ที่อาจทำหน้าที่แทนพระสงฆ์ได้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อคราวพระไปประท้วงทหารมาทำหน้าที่แทน ตามรูปที่โพสต์ให้ดูเป็นตัวอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนาได้โพสต์ภาพประกอบบทความเป็นภาพชายแต่งชุดทหาร นั่งเรียงแถวบนอาสนะมีบาตรคว่ำไว้บนหัว โดยคนหัวแถวถือตาลปัตร และไมโครโฟน คล้ายกำลังประกอบพิธีสงฆ์อยู่ด้วย
.
.
