วันจันทร์, ตุลาคม 05, 2558

เซีย ไทยรัฐ เผยผลการปรับทัศนคติ คสช. ให้ระมัดระวังการนำเสนอมากขึ้น




เซีย ไทยรัฐ เผยผลการปรับทัศนคติ คสช. ให้ระมัดระวังการนำเสนอมากขึ้น

นายศักดา แซ่เอียว หรือ ‘เซีย ไทยรัฐ’ นักเขียนการ์ตูนล้อการเมือง ประจำหน้า 3 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กล่าวกับบีบีซีไทยถึงการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน โดยระบุว่า เดินทางเข้าไปพบเจ้าหน้าที่พร้อมกับบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นายสุนทร ทาซ้าย แต่ไม่ทราบชื่อเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเจรจาด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยชื่อ


“คสช. เห็นว่าการ์ตูนที่เราเขียนผิดข้อเท็จจริงไปบ้าง เพราะเราไม่ข้อมูล เลยเรียกมาเพื่อปรับความเข้าใจและบอกจุดยืนของทาง คสช. ว่าทุกคนทำเพื่อประเทศเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ข้อมูลหรือข่าวสารรูปภาพที่กระทบกระเทือนความเรียบร้อย ก็ให้คุยกัน ให้หาข้อเท็จจริง ผมก็บอกว่าการ์ตูนที่ผมเขียนส่วนใหญ่ก็เอามาจากหนังสือพิมพ์นั่นแหละ แต่ถ้าไม่ถูกใจก็น้อมรับ”

นายศักดากล่าวว่า ปกติแล้วการ์ตูนของเขาจะผ่านการตรวจโดยบรรณาธิการข่าวก่อนทุกรูป ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างสบายใจว่ามีการตรวจสอบแล้ว แต่จากนี้ก็คงจะต้องระมัดระวังในการเสนอมากขึ้น ต้องหาข้อมูลระมัดระวังไมให้กระทบกระเทือน ในส่วนความปลอดภัยนั้น นายศักดากล่าวว่าไม่กังวล เพราะไม่มีเจตนาร้ายและหลังจากการปรับทัศนคติแล้ว ทาง คสช. ก็ยังไม่มีการวางมาตรการในการทำงาน หรือการทำสัญญาบังคับใดๆ เพียงแต่แจ้งว่าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคณะกรรมการที่คอยตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอยู่

“ไม่กังวล เราเป็นสื่อมวลชน สิ่งที่เราเสนอไปเราก็อยู่บนข้อเท็จจริง เราหวังดี เราไม่ได้คิดร้าย ไม่ได้เป็นผู้นำการต่อต้านอะไร”

นายศักดาระบุว่า การเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อปรับทัศนคติเป็นการเฉพาะเจาะจงรายบุคคลครั้งนี้ถือเป็นแรก ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรมปรองดอง หลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 สองสัปดาห์ ซึ่งครั้งนั้นเป็นการตักเตือนให้ร่วมกิจกรรมปรองดอง อย่าเขียนการ์ตูนต่อต้าน

“นี่เป็นครั้งแรกที่ตรงไปที่งานว่าเราบิดเบือน ผิดไปจากข้อเท็จจริงแต่ผมยืนยันว่าที่เขียนไปนี้เป็นไปตามข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หวังว่าคณะกรรมการตรวจสอบจะไปตรวจสอบข้อมูลดูว่าผมเขียนตามข่าวที่ปรากฏชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนก็อาจจะมีการฟ้องร้อง ถ้าเมตตาก็อาจจะไม่” นายศักดากล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณ ภาพจากคุณอนุธีร์ เดชเทวพร

ที่มา 


บีบีซีไทย - BBC Thai