วันเสาร์, ตุลาคม 17, 2558

ถ้าสาวชาวบ้านไปถีบสาวท้องแก่เมียนายพล แล้วขอโทษ เค้าจะยอมสงบศึกหรือป่าว???




ตร.เรียกเมียนายพล-สาวท้อง สงบศึกขอโทษกันเเละกัน หลังวิวาทปมเปิดประตูชนเบนซ์

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จากรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพและข้อความอ้างว่า สาวตั้งครรภ์รายหนึ่งถูกหญิงวัยกลางคนทำร้ายร่างกายด้วยการถีบเข้าที่ท้องอย่างแรง ทำให้หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน ถึงกับปวดท้องและต้องพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กอาการ โดยเหตุเกิดบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ส่วนสาเหตุนั้น มาจากเรื่องลูกชายวัย 2 ขวบ ของสาวตั้งครรภ์ไปเปิดประตูรถไปกระแทกรถเบนซ์ป้ายแดงของหญิงกลางคน สร้างความไม่พอใจจนหญิงกลางคนต้องต่อว่าคู่กรณีรุนแรง กระทั่งพอเรื่องบานปลายหญิงเจ้าของรถเบนซ์ก็โทรศัพท์เรียกให้สามี ซึ่งเป็นนายทหารยศ "พลเรือตรี" มาช่วยเหลือ จนกลายเป็นกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 ก.ย. เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำความดี และ พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ตัวแทนจากกองทัพเรือ ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อเป็นตัวแทนในการเจรจาไกล่เกลี่ยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือ น.ส.มาลิณี วรรักษ์ธนานันท์ อายุ 35 ปี หญิงสาวตั้งครรภร์, นางอริษา ปัญญากิตติวัฒน์ อายุ 43 ปี ภรรยานายทหาร และนายจีระชัย กังวานก้องสกุล สามีของ น.ส.มาลิณี เข้าพบกับ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ เพื่อไกล่เกลี่ยเจรจากับทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งนำกระเช้าดอกไม้นำมามอบ เพื่อเป็นการขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ร.ต.สมชาย กล่าวว่า ในวันนี้ตนเป็นตัวแทนของกองทัพเรือ เพื่อเดินทางเข้ามาไกล่เกลี่ยกับทางคู่กรณี ซึ่งขณะนี้ทั้งสองฝ่ายนั้นได้ไกล่เกลี่ยพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) โดยจะไม่มีการฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีความแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับทั้งสองฝ่ายด้วย

ด้าน นางอริษา กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ปรากฏผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น ค่อนข้างที่จะรุนแรง หลังจากที่มีกระแสข่าวลงไปนั้น ทำให้ตน และครอบครัวมีผลกระทบตามมาหลายๆ อย่าง โดยขณะเกิดเหตุนั้น ตนยอมรับว่าเป็นการทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจริง เพราะด้วยอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายที่พาไป จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ตามข่าวที่ลงเฟซบุ๊กนั้นเป็นการนำเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย

ขณะที่ น.ส.มาลิณี กล่าวว่า หลังจากที่ตนพร้อมสามีได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่ รพ.คามิลเลียน เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ผลการตรวจร่างกายออกมา พบว่ามีอาการดีขึ้นตามลำดับ ส่วนเด็กในครรภ์ 4 เดือนนั้นปลอดภัยดี ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจครรภ์อย่างละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ด้าน นายจีระชัย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น หากไม่เห็นใจทางภรรยาของตน ก็ขอให้เห็นใจกับเด็กในท้องที่ไม่รู้เรื่องด้วย เนื่องจากเด็กในท้องไม่สามารถพูดได้ถึงอาการเจ็บปวดตรงไหนอย่างไร และเนื่องด้วยคู่กรณีเป็นเพศเดียวกัน จึงน่าจะเห็นใจผู้หญิงด้วยกันบ้าง

ทาง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางฝ่ายสามีของ นางอริษา ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ ด้วยเครื่องแต่งกายของทหารเรือเต็มยศมาข่มขู่คู่กรณีนั้น เท่าที่พูดคุยกับ นางอริษา ทราบว่า เนื่องจากวันดังกล่าวมีการแต่งตั้งเพื่อรับตำแหน่งจาก ผบ.ทร. เพียงเท่านั้น ไม่ใช่การแต่งเครื่องแบบมาทำการข่มขู่คู่กรณีแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.วิรดล กล่าวว่า สำหรับทางเจ้าหน้าที่นั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งคดีทำร้ายร่างกายกันในคดีนี้ ไม่สามารถยอมความกันได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ได้ ทั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างขอโทษกันก่อนแยกย้าย