เห็นเขาเม้าท์กันบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันก่อน ว่าทั่นผู้นำต้องเรียกผบ.ทบ.คนใหม่ ไปคุยด่วนบนทำเนียบ
อันเนื่องมาแต่เช้าวันนั้น พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ให้โอวาทกำลังพลค่อนข้างกร้าว
“ขอกำลังพลทุกคนอย่าอยู่ในสังคมหูเบา ขอให้ทุกคนวิเคราะห์ ไตร่ตรองอย่างมีสติ และรับทราบข่าวต่างๆอย่างมีสติ และขอให้ทุกคนเชื่อมั่นผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น ว่าจะนำพาหน่วยไปด้วยความมีเกียรติ ศักดิ์ศรี...
ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ในกองทัพมีทั้งคนเลว คนดี คนไม่ดี
ปัญหาคือ คนไม่ดีไม่รู้ว่าตัวเองทำไม่ดี ก็ขอให้คนที่ปฏิบัติดีมีคุณธรรมได้ช่วยกันตักเตือนให้กลับตัวเป็นคนดี”
ไม่รู้ว่าเรื่องที่ต้องคุยกันด่วนเป็น damage control เกี่ยวกับกิจการทัพฟ้าอ๊ะป่าว ความเก่าครั้งจัดซื้อฝูงบินกริปเปน ๑๒ ลำจากสวีเด็น เมื่อปี ๒๕๕๑ สมัยรัฐบาลขิงแก่
เนื่องจากเมื่อวานมีการยื่นฟ้องร้ององค์การคลังอาวุธป้องกันประเทศแห่งสวีเด็น (FMV) โดยสมาคมสันติภาพและการเจรจาต่อรองของสวีเด็น (SPAS) เพื่อให้ตำรวจสอบสวนความไม่ชอบมาพากลของโครงการจำหน่ายเครื่องบินขับไล่แบบ Jas 39 Gripen ให้กับประเทศไทย
นางแอนนา เอ็ค ประธานสมาคม SPAS ทำการแจ้งความต่อตำรวจเมื่อ ๑๓ ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานเปิดเผยความไม่ชอบมาพากลโดย Black Spot Project เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ว่า
“เจ้าหน้าที่ไทย ๓๗ คนได้รับทุนไปเรียน ณ มหาวิทยาลัยสวีเด็น โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงซื้อขายฝูงบินขับไล่ ‘จ๊าส กริปเปน’
ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ องค์การเอฟเอ็มวีได้ลงนามสัญญาขอซื้อเครื่องบินจ๊าส กริปเปน ๖ ลำ กับระบบเรดาร์ ERIEYE หนึ่งชุด ถึงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓ ก็ลงนามขายเครื่องบินแบบเดียวกันอีก ๖ ลำ พร้อมระบบเรดาร์อีกหนึ่งชุด”
(http://www.svenskafreds.se/spas-reports-fmv-for-suspected-b…)
หน่วยงานจับคอรัปชั่นของสถาบันต่อต้านคอรัปชั่นแห่งชาติเผยว่า หากปรากฏมีสายใยเชื่อมโยงกันระหว่างการให้ทุนการศึกษากับการจัดซื้อฝูงบินขับไล่ของกองทัพอากาศไทย ก็จะเป็นความผิดฐานติดสินบน นางแอนนาเรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีนี้โดยทางการสวีเด็น
รายงานของโครงการแบล้งสป็อตยังเปิดเผยด้วยว่า สถานทูตสวีเด็นในกรุงเทพฯ พยายามหลีกเลี่ยงไม่เอ่ยถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยเพื่อให้การขายฝูงบินขับไล่ราบรื่น
“ข้อเท็จจริงที่ว่าเอกสารการจัดขายฝูงบินขับไล่ถูกจัดให้เป็นเอกสารลับ และมีการลบหมายเลขประจำเครื่อง (serial numbers) ถือได้ว่าเป็นการคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยตรงๆ เลยทีเดียว”
หากองค์การเอฟเอ็มวีประสบความสำเร็จในคดีที่แจ้งความแล้วนี้ ความมัวหมองของคณะทหารที่ปกครองประเทศไทยอยู่ขณะนี้ก็จะยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่
เมื่อนับรวมกับการทุจริตจัดซื้อเครื่องมือตรวจระเบิด จีที-๒๐๐ และการซื้อเรือเหาะ คณะทหารไทยก็จะกลายเป็นพวกฉ้อราษฎร์บังหลวงตัวร้ายยิ่งกว่าที่แล้วๆ มา
เพราะโกงกินไม่ยิ่งหย่อนกว่านักการเมืองที่ตนก่นด่ากล่าวหาว่า “ติดสันดานโกงบ้านโกงเมือง” นั่นแล