นางพะเยาว์ อัคฮาดแต่งตั้งนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมเป็นที่ปรึกษากฎหมาย
ที่มา เวป http://robertamsterdam.com/thai/?p=1266
26 ตุลาคม, 2015
สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สขอแจ้งให้ทราบว่าทางสำนักงานได้รับการแต่งตั้งจากนักรณรงค์เรียกร้องสิทธิมนุษยชนไทย นางพะเยาว์ อัคฮาด ให้เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายโดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งจะมีผลในทันที
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ระหว่างการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างโหดเหี้ยมและรุนแรงของกองทัพไทยภายใต้คำสั่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุตรสาวนางพะเยาว์ – นางสาวกมลเกด อัคฮาด หรือ “พยาบาลเกด” ซึ่งทำหน้าที่อาสาพยาบาลภายในวัดปทุมวนาราม บริเวณซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นสถานที่ปลอดภัย – ถูกกองทัพไทยยิงเสียชีวิตพร้อมกับพลเรือนมือเปล่าอีกหลายราย
นับแต่นั้น การสอบสวนซึ่งมีขึ้นหลายครั้งไม่เพียงแต่สรุปว่าการสังหารดังกล่าวกระทำโดยกองทัพไทยเท่านั้น แต่ยังไม่มีหลักฐานใดระบุว่าบุคคลในวัดปทุมมีอาวุธ นางสาวกมลเกดใส่ชุดเครื่องแบบที่สามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่าเป็นอาสาพยาบาลและถูกยิงหลายครั้งด้วยกระสุนความเร็วสูงของกองทัพ
แม้ว่าจะมีการเริ่มดำเนินการทางกฎหมายต่อนายอภิสิทธิ์กรณีความตายที่มิชอบด้วยกฎหมายของนางสาวกมลเกดในปี 2556 นับตั้งแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคมปี 2557 กระบวนการนี้ได้สะดุดหยุดลง ปัจจุบันไม่มีการเคลื่อนไหวของรูปแบบการรับผิดทางอาญาใดต่อการสังหารสังหารหมู่ประชาชนปี 2553 ซึ่งรวมถึงการสังหารนางสาวกมลเกดด้วย
สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนางพะเยาว์ในระดับนานาชาติและจะดำเนินการค้นหากระบวนการเพื่อนำกลุ่มคนที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของบุตรสาวของนางพะเยาว์มาลงโทษ
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ผู้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สกล่าวว่า
“เรารู้สึกเป็นเกียรติและพิเศษอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนของบุคคลผู้ยึดมั่นความยุติธรรมและความรับผิดทางอาญาเช่นนางพะเยาว์ เราจะดำเนินการทุกวิถีทางที่เราสามารถทำได้ต่อไปเพื่อนำกลุ่มฆาตกรที่สังหารนางสาวกมลเกดมารับผิดและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ รวมถึงการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อันเลวร้ายในเดือนพฤษภาคมปี 2553 ด้วย”
26 ตุลาคม, 2015
สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สขอแจ้งให้ทราบว่าทางสำนักงานได้รับการแต่งตั้งจากนักรณรงค์เรียกร้องสิทธิมนุษยชนไทย นางพะเยาว์ อัคฮาด ให้เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายโดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งจะมีผลในทันที
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ระหว่างการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างโหดเหี้ยมและรุนแรงของกองทัพไทยภายใต้คำสั่งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บุตรสาวนางพะเยาว์ – นางสาวกมลเกด อัคฮาด หรือ “พยาบาลเกด” ซึ่งทำหน้าที่อาสาพยาบาลภายในวัดปทุมวนาราม บริเวณซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นสถานที่ปลอดภัย – ถูกกองทัพไทยยิงเสียชีวิตพร้อมกับพลเรือนมือเปล่าอีกหลายราย
นับแต่นั้น การสอบสวนซึ่งมีขึ้นหลายครั้งไม่เพียงแต่สรุปว่าการสังหารดังกล่าวกระทำโดยกองทัพไทยเท่านั้น แต่ยังไม่มีหลักฐานใดระบุว่าบุคคลในวัดปทุมมีอาวุธ นางสาวกมลเกดใส่ชุดเครื่องแบบที่สามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่าเป็นอาสาพยาบาลและถูกยิงหลายครั้งด้วยกระสุนความเร็วสูงของกองทัพ
แม้ว่าจะมีการเริ่มดำเนินการทางกฎหมายต่อนายอภิสิทธิ์กรณีความตายที่มิชอบด้วยกฎหมายของนางสาวกมลเกดในปี 2556 นับตั้งแต่รัฐประหารเดือนพฤษภาคมปี 2557 กระบวนการนี้ได้สะดุดหยุดลง ปัจจุบันไม่มีการเคลื่อนไหวของรูปแบบการรับผิดทางอาญาใดต่อการสังหารสังหารหมู่ประชาชนปี 2553 ซึ่งรวมถึงการสังหารนางสาวกมลเกดด้วย
สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของนางพะเยาว์ในระดับนานาชาติและจะดำเนินการค้นหากระบวนการเพื่อนำกลุ่มคนที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของบุตรสาวของนางพะเยาว์มาลงโทษ
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ผู้ก่อตั้งสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมแอนด์พาร์ทเนอร์สกล่าวว่า
“เรารู้สึกเป็นเกียรติและพิเศษอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนของบุคคลผู้ยึดมั่นความยุติธรรมและความรับผิดทางอาญาเช่นนางพะเยาว์ เราจะดำเนินการทุกวิถีทางที่เราสามารถทำได้ต่อไปเพื่อนำกลุ่มฆาตกรที่สังหารนางสาวกมลเกดมารับผิดและเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ รวมถึงการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อันเลวร้ายในเดือนพฤษภาคมปี 2553 ด้วย”