112 และนิติรัฐ
ที่มา ไทยโพสต์
Sunday, October 25, 2015
ผู้ต้องหาเสียชีวิตในเรือนจำทหาร ขณะถูกควบคุมตัวตามความผิดมาตรา 112
แม้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์แถลงว่า ผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย แต่เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศแม้แต่น้อย
เราไม่สามารถห้ามความสงสัยของผู้คนได้ ประชาชนย่อมมีสิทธิ์สงสัย สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศย่อมมีสิทธิ์สงสัย และข้อสงสัยทั้งหลายอาจไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล กระทั่งอาจกระทบกระเทือนไปมากกว่านั้น มีผลต่อเนื่องไปถึงประเทศโดยรวม ทำให้เกิดความเสียหาย
หากผู้คนเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายจริง คำถามก็มีต่อไปว่า กระทรวงยุติธรรมและกองทัพในฐานะผู้ควบคุมผู้ต้องหา ประมาทเลินเล่อ ปล่อยปละละเลยให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีการปรับปรุงแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกหรือไม่ มีการสอบสวนลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ประมาทเลินเล่อหรือไม่
หากผู้คนไม่เชื่อ นั่นเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า เพราะในปีพ.ศ.2558 เราเป็นประเทศที่มีประชากร 70 ล้านคน เราต้องมีนิติรัฐ
ในอดีต สำหรับความผิดในลักษณะนี้ เรามีกฎหมายลงโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต เรามีกระทั่งทรมานให้รับสารภาพ หรือหากพิพากษาแล้วก็ยังมีวิธีประหารที่ทารุณต่างๆ มากมาย ไม่ใช่แค่ใช้ดาบฟันคอ
แต่ทุกอย่างเป็นกฎหมายในขณะนั้น ซึ่งมีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจน มีการประกาศ และมีการลงโทษอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ทำโดยลึกลับ หรือปกปิด
หลายๆ คนอาจสาปแช่ง โกรธแค้น นึกเสียว่าผู้ต้องหาสมควรตาย หรือตายเสียได้ก็ดี เพราะละเมิดแอบอ้างเบื้องสูงไปหากิน
แต่เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้ต้องหาตายจริงตามคำสาปแช่งได้ เพราะศาลยังไม่พิพากษา และแม้ศาลพิพากษาว่ากระทำผิดจริง ก็ต้องมีการลงโทษไปตามข้อบัญญัติกฎหมาย และบทลงโทษสูงสุดตามกฎหมายในความผิดลักษณะนี้นั้นเพียงแค่จำคุก แต่ไม่ถึงขั้นประหารชีวิต
หากใครต้องการให้ผู้กระทำผิดลักษณะนี้ถูกประหารชีวิต เราก็ต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มโทษให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการนิติบัญญัติ และการยอมรับจากสังคมโดยรวม
เราไม่สามารถปล่อยให้ประเทศไม่มีนิติรัฐ และมีการลงโทษผู้ต้องหาตามอำเภอใจโดยใครก็ตาม
คนไทยรักสถาบันฯ เรื่องใดก็ตามที่มีความเกี่ยวเนื่องไปถึงสถาบันฯ นั้น จึงต้องทำด้วยความเหมาะสมและระมัดระวัง
รัฐบาลจึงควรสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง แสดงข้อเท็จจริงให้โปร่งใส และกระทำความจริงให้ปรากฏโดยปราศจากข้อสงสัย ก่อนที่กระแสสังคมจะลุกลามบานปลาย และผู้ไม่หวังดีอาจนำไปบิดเบือนปลุกปั่นขยายผล จนกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงในระยะยาว.