ส่องฝ่ามือไทย-อินโดฯ #FreeOpas ขอปล่อยตัวลุงเขียนผนังห้องน้ำ คดี 112
ที่มา ประชาไท
Sun, 2015-10-18
หลังจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาศาลทหาร มีนัดสอบคำให้การจำเลยในคดี 112 นายโอภาส (ขอสงวนนามสกุล) วัย 68 ปี จากกรณีเขียนผนังห้องน้ำห้างซีคอนสแควร์ เป็นคดีที่สอง จำเลยรับสารภาพ ศาลพิจารณาคดีลับ พิพากษาจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงเหลือ 1 ปี 6 เดือน โดยให้นับโทษต่อจากคดีแรก ซึ่งก็ได้รับโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือนเช่นเดียวกัน จากกรณีเขียนผนังห้องน้ำที่ห้างเดียวกันแต่คนละชั้น รวมสองคดีจำเลยถูกลงโทษจำคุก 3 ปี ทั้งนี้ กำหนดปล่อยตัวจำเลยในคดีแรก คือ วันที่ 2 ม.ค. 2559 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กทั้งไทยและอินโดนีเซียโพสต์ภาพฝ่ามือโดยมีข้อความว่า “Free Opas” พร้อมติดแฮชแท็ก #FREEOPAS และ #FREE_OPAS เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายโอภาส
Nithiwat Wannasiri ผู้ชวนรณรงค์ฝ่ามือ #FreeOpas โดยความตอนหนึ่งที่เชิญชวนมิตรสหายที่รักในความเท่าเทียมกันเพื่อเชิญชวนร่วมรณรงค์ ระบุว่า ในฐานที่ตนคือ 1 ในผู้ลี้ภัยการเมืองจากประเทศไทยสืบเนื่องจากการต่อต้านรัฐประหารของรัฐบาลทหารปัจจุบัน โดยระบุด้วยว่าอาวุธสำคัญที่สุดรัฐบาลเผด็จการทหารใช้ควบคุมผู้คนคือข้อหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" มาตรา112 โดยล่าสุดมีชายสูงอายุคนหนึ่ง นามว่า "โอภาส" วัย 68 ปี ถูกรัฐบาลทหารคุมขังในข้อหา "เขียนฝาผนังห้องน้ำโจมตีรัฐบาลและพาดพิงพระมหากษัตริย์" ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
Nithiwat ยังกล่าวด้วยว่า ศาลทหารไทยที่ถูกตั้งให้ทำหน้าที่คดีเหล่านี้หลังรัฐประหาร ได้พิพากษาจำคุก 18 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 จนถึงตอนนี้ เป็นเวลา 1 ปีแล้ว โดยไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่วันแรกที่ถูกคุมขัง ซึ่งเรื่องน่าเศร้ากว่านั้น โอภาส ถูกศาลทหารแยกฟ้องมาตรา112 เพิ่มอีกคดีหนึ่ง จากประตูห้องน้ำบานอื่น และอาจจะต้องถูกจำคุกเพิ่มอีก 18 เดือน
ทั้งนี้ใบรับรองแพทย์ถึงโรคในวัยชราของโอภาสกี่แผ่น ก็ไม่สามารถทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารปล่อยตัวหรือพักโทษลุงโอภาสได้ หรือแม้แต่ผู้คนที่ยังอยู่ภายในประเทศ ก็ถูกสภาพกดดันทางสังคมของรัฐบาลทหาร ทำให้พูดถึงหรือรณรงค์เรียกร้องเพื่อช่วยเหลือลุงโอภาสได้อย่างยากลำบาก
“หนึ่งฝ่ามือของคุณ หรือหนึ่งการช่วยเผยแพร่เรื่องราวของคุณให้โลกนี้ได้รับรู้ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเผด็จการทหารไทยที่กระทำกับประชาชนภายในประเทศเสมือนอยู่ในเกาหลีเหนือ อาจจะช่วยให้ลุงโอภาสได้กลับมาใช้ชีวิตในวัยชรานอกคุกนรกที่กรุงเทพอีกครั้ง” Nithiwat กล่าว พร้อมระบุว่า โปรดบอกต่อเรื่องราวเหล่านี้ให้คนที่คุณรู้จักได้รับรู้ หรือใช้ 1 ฝ่ามือของคุณร่วมรณรงค์ไปกับเรา
Nithiwat ยังกล่าวด้วยว่า ศาลทหารไทยที่ถูกตั้งให้ทำหน้าที่คดีเหล่านี้หลังรัฐประหาร ได้พิพากษาจำคุก 18 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2557 จนถึงตอนนี้ เป็นเวลา 1 ปีแล้ว โดยไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่วันแรกที่ถูกคุมขัง ซึ่งเรื่องน่าเศร้ากว่านั้น โอภาส ถูกศาลทหารแยกฟ้องมาตรา112 เพิ่มอีกคดีหนึ่ง จากประตูห้องน้ำบานอื่น และอาจจะต้องถูกจำคุกเพิ่มอีก 18 เดือน
ทั้งนี้ใบรับรองแพทย์ถึงโรคในวัยชราของโอภาสกี่แผ่น ก็ไม่สามารถทำให้รัฐบาลเผด็จการทหารปล่อยตัวหรือพักโทษลุงโอภาสได้ หรือแม้แต่ผู้คนที่ยังอยู่ภายในประเทศ ก็ถูกสภาพกดดันทางสังคมของรัฐบาลทหาร ทำให้พูดถึงหรือรณรงค์เรียกร้องเพื่อช่วยเหลือลุงโอภาสได้อย่างยากลำบาก
“หนึ่งฝ่ามือของคุณ หรือหนึ่งการช่วยเผยแพร่เรื่องราวของคุณให้โลกนี้ได้รับรู้ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเผด็จการทหารไทยที่กระทำกับประชาชนภายในประเทศเสมือนอยู่ในเกาหลีเหนือ อาจจะช่วยให้ลุงโอภาสได้กลับมาใช้ชีวิตในวัยชรานอกคุกนรกที่กรุงเทพอีกครั้ง” Nithiwat กล่าว พร้อมระบุว่า โปรดบอกต่อเรื่องราวเหล่านี้ให้คนที่คุณรู้จักได้รับรู้ หรือใช้ 1 ฝ่ามือของคุณร่วมรณรงค์ไปกับเรา
ooo
แค่เพียงวิจารณ์ ติดคุกแทบตาย
มันม่ายเปนธรรมยกเลิกได้มั๊ย
กฎหมายที่ยอมรับได้ต้องรับใช้มวลชน
สิทธิทุกคนเท่าเทียมกัน
อย่าแบ่งชนชั้นว่าคุณนะทำเหนือคน
#freeopas
112 กดหัวคนไทย112 ใช้คุ้มครองใครประโยชน์อยู่กับใคร แต่ไม่ใช่มหาชน112 เอาเปรียบประชาชน112 เหยียบหัวประชาชนราษฎร...
Posted by นภสร เตชนราวงศ์ on Wednesday, February 26, 2014
