ประเมินมูลค่าการลงทุนของทั้งสองยักษ์ใหญ่ไอทีสหรัฐ ถ้าไปตลอดรอดฝั่งก็ประมาณแห่งละ ๑ แสนล้านบาทไทย สำหรับกูเกิ้ลนั้นคุยไว้แล้ว ว่าครั้งนี้เป้นการต่อยอดสิ่งที่กูเกิ้ลทำอยู่ตลอด ๑๒ ปีที่ผ่านมา ว่า “สนับสนุนการจ้างงาน” ในไทย
ในปี ๒๕๖๕ มีกว่า ๒๕๐,๐๐๐ ตำแหน่ง และ “สร้างผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ภาคธุรกิจไทยกว่า ๔,๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ” หลักใหญ่ก็ในเรื่องระบบ ‘คลาวด์’ พร้อมไปกับการ “สร้างไซเบอร์สเปชที่ปลอดภัย”
โดยเฉพาะการขยายข่ายงาน Google Cloud ของบรรษัท Alphabet เจ้าของกูเกิ้ลในไทยนั้น รู้ธ พอรัท ประธานอัลฟาเบ็ทบอกว่า นอกจากการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ปลอดภัยในไทยแล้ว ยังจะเสริมสร้างทักษะเท็คโนโลยี่ให้แก่ประชาชนด้วย
จะมีการมอบทุนการศึกษาสำหรับการฝึกทักษะทางเทคโนโลยี่ของกูเกิ้ล เพิ่มอีก ๑๒,๐๐๐ ทุน ในโครงการ ‘Smart Skills’ ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ๖๕ เป็นยอดรวมทั้งสิ้น ๓๔,๐๐๐ ทุน กูเกิ้ลยังจะช่วยรัฐบาลไทยวิจัยและพัฒนาระบบ ‘เอไอ’ เช่นเดียวกับไมโครซ้อฟด้วย
สำหรับไมโครซ้อฟนั้น อาห์เหม็ด มาซารี ประธานภาคพื้นเอเซียเป็นเริ่มเข้ามาหาไทยในระหว่างการประชุมเอเปค ที่ซาน ฟรานซิสโกนี้ ด้วยข้อเสนอในการลงทุนเรื่อง Clean energy และ AI Skills “มีการพูดคุยถึงการนำเอไอมาเพิ่ม Productivity (ผลิตผล) ของภาครัฐ”
“ไมโครซอฟท์ เชื่อว่าเอไอจะทำให้นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลสามารถมี Insights (รู้ลึก) ที่มากขึ้นได้และสร้าง Impact (ผลพวง) ให้กับประชาชนได้จริงๆ”
ข่าวนี้น่าจะทำให้ความ ‘เสียชื่อ’ ในนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐาเพลาลงไปได้บ้าง และหวังว่าจะสามารถขับเคลื่อนยกระดับจีดีพีของประเทศให้ถึง ๕% ตามราคาคุยได้ ท่ามกลางเสียงปรามและปรามาสของผู้ชำนาญการทั้งในรัฐบาลและฝ่ายค้าน
เผื่อใครอยากเห็น ศิริกัญญา ตันสกุล ‘บวชชี’ ตามคำท้าของ อดิศร เพียงเกษ จากที่เธอรับปากไว้ทางช่องวันนิวส์ “จีดีพีตกลงจะเป็นเท่าไหร่ เป็น ๔.๔ เป็น ๔.๖ หรือเป็น ๕% สำหรับเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ ถ้ามาถึงแล้วจีดีพีโต ๕% ดิฉันจะไปบวชชี”
(https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1098863 และ https://twitter.com/ktnewsonline/status/1724645435565113548)
