เดี๋ยวนี้แนวทางการศึกษาของชาติกำหนดโดยกระทรวงมหาดไทยแล้วละ จะเป็นเพราะรัฐมนตรีว่าการศึกษาเป็นตำรวจ ซ้ำเป็นลูกหม้อพรรคเดียวกับรัฐมนตรีมหาดไทยหรือเปล่า ทำให้ยุคนี้ มท.เป็นผู้บงการ ศธ. ไม่แน่ใจ
เมื่อ ๑๗ พฤศจิกา เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย ไปเยี่ยมกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อ “มอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นประธานการประชุม การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ”
ทรัพยากรมนุษย์ที่จะสร้างนี้ ต้องมี “คุณภาพของคน” ตามเสป็คที่กระทรวงมหาดไทยวางไว้ให้ นั่นคือ “ไม่ใช่เพียงมีความรู้ความสามารถ มีงานทำ มีรายได้เท่านั้น แต่ต้องมีคุณภาพครบวงจร คือมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี มีจริยธรรม
มีจิตสำนึกรักชาติ มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ” ในความหมายของ รมว.มหาดไทยด้วย ทั่นจึงสั่งการ “ให้สอนวิชาประวัติศาสตร์ จริยธรรม และหน้าที่พลเมือง...รู้รากเหง้า วัฒนธรรมค่านิยมที่ดี”
อนุทินสั่งต่อด้วยว่า “จากนี้เป็นต้นไปเราจะช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชน...เพื่อทำให้อนาคตของชาติ มีความศิวิไลซ์และภาคภูมิใจในวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่มีประเทศไทยมา” พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ก็ขานรับ
“กระทรวงศึกษาธิการตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” จึงมุ่งมั่นทำงานร่วมกันกับอีก ๓ กระทรวง (มหาดไทย แรงงาน และอุดมศึกษา) “เพื่อปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย เข้าใจความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ”
ทางกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเด้งรับนโยบายทันควัน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ “ยืนยันว่าในเรื่องของการปลุกจิตสำนึกการรักชาติ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่” แล้วยังสั่งการ “ให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด
ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการการศึกษาจังหวัด ต้องให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย”ท้ายสุดทั้งสี่กระทรวง “ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทย” ไว้เป็นหลักประกันด้วย