อันนี้ถือว่า ‘แก้ไม่ตก’ นะฮะทั่นโฆษ ก ทอ. ปฏิบัติการลาดตระเวน ๕ อะไร ฐานบินอยู่โคราช นครสวรรค์ ไปลาดตระเวนอ่าวไทย มิน่าตอนพม่าบินล้ำแดนแม่สอด กว่าจะได้ขึ้นไปสังเกตุการณ์ เขากลับถึงฐานเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่จุดนั้นใกล้กว่าสัตหีบ
พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษก ทอ.ชี้แจงกรณีการใช้ F-16 บินโฉบในงานลอยอังคารอดีต ผบ.ทอ. ว่า “เป็นการบินทดสอบการปฏิบัติการร่วมลาดตระเวนตามวงรอบ” พอเสร็จภารกิจได้เวลาพอดีเป๊ะ ไปบินผ่านงานลอยอังคารบิดา ผบ.ทอ.
แล้วยังถือเป็นการ “กระทำพิธีให้สมเกียรติ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปเตมีย์” บิดาของ พล.อ.อ.นภาเดช ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน เนื่องจากทั่นเป็น “ผู้ริเริ่มในการจัดหา” เครื่องบินเอฟ-๑๖ ให้ทัพอากาศไทย “ทันสมัย” ในยุคสงครามเย็น
ไม่ทราบว่าต่อไปจะมีการทำพิธีแบบนี้ให้สมเกียรติผู้เป็นต้นคิดซื้อเรือเหาะ ‘ไม่ได้บิน’ กับเรือดำน้ำ ‘รอเครื่องยนต์’ ด้วยไหมนี่ แล้วเดี๋ยวถ้ามีพิธีสำหรับเชื้อไขระดับจอมทัพทุกเหล่า คงมิต้องใช้รถถังยิงจุดไฟประชุมเพลิงที่ท้องสนามหลวงนะ
สาม ส.ส.พรรคก้าวไกล ผู้เปิดโปงเรื่องนี้ติงไว้น่าสำเหนียกว่า “ค่าใช้จ่ายในการบินอยู่ที่ ๑ ชั่วโมงละ ๑.๒ แสนบาทต่อลำ” ทำไมกองทัพไทยถึงชอบตำน้ำยาละลายทะเลก็มิทราบได้ อาจเป็นนิสัย ‘เหลิง’ ทั้งอำนาจและมือเติบใช้เงินของประชาชนจนเคยตัวก็ได้
อันที่จริงถ้าทัพอากาศรู้จักใช้สมองซีกที่ไว้คิดปรุโปร่งด้วยเหตุผลละก็ ควรเลือกใช้บริการของทัพเรือ พวกหน่วยซีลเขามีบริการลอยอังคารที่สัตหีบ ราคาสวัสดิการเป็นกันเองสำหรับเพื่อนพ้องกองทัพไทย ซ้ำยังโฆษณาว่ามีอุปกรณ์ครบครันด้วย
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3802752 และ https://facebook.com/100001454030105/posts/02eJeugHcfX)