Free Prawet Prapanukul
May 16, 2018
แดน 3 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
14 April 2018
สวัสดีครับ xxx
นี่เป็นฉบับเขียนใหม่ครั้งที่ 2 คราวนี้ถูกตีกลับด้วยเหตุผลว่าพาดพิงศาล เอาเหอะ สักวันหนึ่ง เมื่อคุณโดนบ้างกับการถูกใส่ร้าย และมีคนคอยสกัดไม่ให้คุณแก้ต่างอธิบาย หวังว่าคุณจะทำใจรับได้และเชื่อได้แน่ว่าคุณจะโดนเองเข้าบ้างแน่ จะชาติไหนเท่านั้น เอ้อ... อาไม่ต้องจองเวรใครนะครับ xxx แค่ไม่อโหสิให้ก็เกินพอแล้ว ยังไงเขาก็ต้องรับผลกรรมของเขาเองสักวันหนึ่ง
อาแก้รายชื่อญาติเยี่ยมเอา “ย... ม....” เข้าแทน “ส... ต...” รบกวนช่วยส่งข่าวบอกคุณ ย... ด้วยครับ
ก่อนสงกรานต์มีของฝากส่งเข้ามาให้อา คนซื้อชื่อ “ก... พ...” ก่อนของเข้ามา 1 วัน ก็มีเงินเข้าบัญชีของอา 500 บาท ก็น่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะวันฝากเงินเข้าบัญชีกับซื้อของเป็นวันเดียวกัน แต่ชื่อ ก... พ... นี้ อาไม่รู้จัก xxx พอจะสืบได้มั้ยครับว่าเป็นใคร
ตอนนี้พักการเขียนคำแถลงการณ์ แต่ต้องเตรียมการรับมือศาลในวันที่ 8 พฤษภาคม (หลังจากนั้น จะเห็นท่าทีของศาล จึงค่อยปรับแผนสำหรับวันต่อๆ ไป) ข้อสำคัญในวันนั้นต้องมีมวลชนฝ่ายเราอยู่ติดตามคดีของอาจนจบ ต่อให้ศาลสั่งพิจารณาคดีลับ ก็ต้องคอยเฝ้าหน้าห้อง คอยฟังเสียงที่จะดังออกมาจากในห้องเพื่อส่งข่าวสู่สาธารณะ ถ้าถามอาว่าอยากให้รณรงค์เรื่องอะไร ก็คงเป็นเรื่องนี้แหละครับ “อยากให้มวลชนอยู่เป็นสักขีพยาน” ในวันที่ 8-9-10 พฤษภาคม 2561 ครับ
Remember, a kite flies against the wind, not with it. – พึงระลึกว่าว่าวบินต้านลม ไม่ใช่ตามลม
แน่นอนว่า ว่าวที่เชือกขาดถูกลมพัดลอยไปตามลม ย่อมตกลงพื้นและไม่สามารถบินขึ้นได้อีก ว่าวจะมีค่าและบินได้จะต้องบินต้านลมเท่านั้น ชีวิตคนก็เช่นกัน เสรีภาพที่แลกมาด้วยการยอมจำนน คือ เสรีภาพจอมปลอม มันเป็นอิสรภาพที่แลกมาด้วยการคุกเข่าอ้อนวอน การยอมแพ้เพื่อนับวันถูกปล่อยตัว เป็นการบ่อนทำลายตัวตนของตนเอง ชีวิตเช่นนั้นแม้จะมองเห็นแสงสว่างปลายทางอุโมงค์อันยาวไกลไปสู่อิสระภาพ ก็เป็นชีวิตที่ไร้ความหมายเหมือนว่าวลอยตามลม ที่ต้องตกลงบนพื้น สำหรับอา ถ้าอามีชีวิตเช่นนั้น อาคงเฉาตายไปแล้ว
สำนวนคนคุก คำว่า “ตัด” ที่อาค้างไว้ คำนี้ย่อมาจากคำว่า “ตัดสิน” และความหมายก็แคบกว่าคำตัดสินหรือพิพากษา โดยเน้นเฉพาะที่ตัดสินลงโทษเท่านั้น อย่างคำว่า “ตัดเท่าไหร่” หมายถึง “ตัดสินลงโทษเท่าไหร่” บางทีคำนี้ “ตัดเท่าไหร่” ชวนให้หงุดหงิดเหมือนกันเวลาที่มีคนถาม ก็ได้แต่นึกในใจว่า “ก็ไม่ผิด ใครก็ไม่มีสิทธิตัดสินลงโทษ” แต่ทัศนะของคนในนี้ พวกเขาเห็นว่าตัดสินให้จบๆ ไปดีกว่า จบๆ ไปให้เด็ดขาดจะได้ลุ้นอภัยโทษ แล้วก็ชอบถามกันจัง “เหลือ (โทษ) เท่าไหร่” “เมื่อไหร่ออก” พอตอบว่า “ไม่มีกำหนด” ซึ่งก็หมายถึงว่าคดียังไม่จบ ก็ยังอุตส่าห์มีคนหนึ่งออกความเห็นว่า
มันคือการ “ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล”
มันคือการ “คิดว่าความเห็นตัวเองเท่านั้นถูก”
มันคือการคิดว่า “คนอื่นต้องเห็นด้วยกับตนเอง”
น้อยคนที่จะยอมรับความเห็นต่างของคนอื่น
การแสงความนอบน้อมต่อคนที่มียศ เจ้าหน้าที่ตลอดจนทนายความ เช่น เมื่อเดินผ่านก็ก้มตัวเดิน มันคือการยอมรับ “อำนาจ” มันคือ “อำนาจนิยม” มันคือฐานอำนาจชั้นเยี่ยมของเผด็จการ – มีคนบอกว่าเป็นมานานแล้ว และคงจะไปเป็นไปอีกนาน
รัก -
ประเวศ ประภานุกูล