วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 21, 2566

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จีนเทาในสภา เป็นการอ่านคำพิพากษาประหารชีวิตทางการเมืองรัฐบาลประยุทธ์ต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ


ภาพจาก เพจชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

Paisal Puechmongkol
2 วัน ·
สรุปการอภิปรายทั่วไป 66
1 เป็นการอภิปรายทั่วไป ที่มีลักษณะเป็นประวัติศาสตร์คือ ยิ่งกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
มีลักษณะเหมือนกับการอ่านคำพิพากษาประหารชีวิตทางการเมืองต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศ
2 ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคก้าวไกลได้ทำหน้าที่อย่างชัดเจนสมบูรณ์ มีหลักฐานที่ไม่อาจโต้เถียงได้ เรียกว่าอภิปรายกันแบบเนื้อๆทั้งในส่วนการบริหารราชการแผ่นดินทั่วไป การบริหารกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีการทุจริต ฉ้อฉล บิดเบือนการใช้อำนาจและไม่นำพาต่อความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของราษฎร ทำให้เกิดสภาพรัฐล้มเหลวและการทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองและไม่มีความรับผิดชอบ
3 รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธหรือชี้แจงข้อกล่าวหาเลย คงพูดอยู่ 2 เรื่อง
~ ในสมัยก่อนก็มีเรื่องแบบนี้เท่ากับยอมรับสารภาพ ตามที่ถูกกล่าวหาเพียงแต่อ้างว่าเมื่อก่อนก็มีเรื่องแบบนี้
~ เป็นเรื่องที่เกิดก่อนยึดอำนาจ คือการรับสารภาพว่าไม่รับผิดชอบ
เพราะไม่ว่าเรื่องเกิดเมื่อใด แต่ถ้ามีการทำผิดกฎหมายมีการทุจริตมีการฉ้อฉลเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในรัฐบาลนี้ก็ต้องรับผิดชอบแก้ไข
4 ไม่สามารถชี้แจงและไม่ชี้แจงในเรื่องสำคัญอย่างยิ่งคือ
~ ความเกี่ยวข้องกับ สว. ที่เกี่ยวข้องกับยาการค้าเสพติดข้ามชาติและอาชญากรรมระหว่างประเทศ และการใช้สถานที่ของสว.ดังกล่าวเป็นที่ตั้งพรรค
~ การร่วมธุรกิจระหว่างเครือญาติกับขบวนการค้ายาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ
~ การฮั้วงานของกองทัพที่คนใกล้ชิดเกี่ยวข้องอย่างพิลึกกึกกือ
~ การทุจริตและความเสียหายในการบริหารทั่วไปในกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจ โดยเฉพาะคือการก่อหนี้ และการใช้จ่ายงบประมาณถึง 28 ล้านล้านบาท แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรดีขึ้น
5 เป็นครั้งแรกใน ประวัติศาสตร์การอภิปรายทั่วไป ที่นายกรัฐมนตรีโดดเดี่ยวอย่างยิ่ง ไม่มีนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลปกป้องเลย
มีแต่พวกนั่งดูชนิดสะใจด้วยซ้ำไป
สรุปของสรุปคือ เหมือนนักมวยที่ชกไม่ไหวแล้ว แต่พวกพี่เลี้ยงเชียร์ข้างเวทีให้ชกจนตัวตาย
โดยพวกพี่เลี้ยงนั่งกินเหล้ากินเบียร์กันอย่างสนุกสนาน
#นับถอยหลังการเลือกตั้ง