วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 25, 2566

"นี่ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กูชนะแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์น่ะ แต่พอเป็นประเทศนี้เท่านั้นล่ะ ต้องมานั่งภาวนาฟ้าดินแบบนี้แทน เศร้าดี" เรื่องเล่าจาก มิตรสหายที่ต่อสู้เรื่องคราฟต์เบียร์


Em Raccoon'sParty is feeling sad.
10h

“ตอนจบการสืบพยานเสร็จ ผู้พิพากษาเดินออกไปปุ๊บ อัยการก็เดินมาบอกว่า นี่ขอพูดเป็นการส่วนตัวเลยนะ ว่าสงสารจำเลย(ผม)มาก
เอ้า แล้วทำไมท่านแม่งขยี้ผมรัวๆเลยวะ แม่งซักไล่ต้อนกะเอาตายเลย 55555
เลยมายืนคุยกับท่านอัยการพักใหญ่เลย สรุปท่านก็คิดว่ากฏหมายแม่งมีความผิดปกติอยู่จริงๆ แต่ท่านก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องทำตามหน้าที่ไป
เออ ประเทศนี้แม่งตลกมาก ขนาดฝ่ายอัยการรัฐก็รู้นะว่ากฏหมายแม่งเพี้ยน แต่ต้องมานั่งเถียงกัน ซักกันในห้องพิจารณา แบบเอาเป็นเอาตาย แม่งโคตร absurd ชิบหาย ท่านอัยการก็เห็นใจ ฝากบอกว่าต้องแก้กฏหมายให้ได้ (ยื่นแก้แล้วครับ รอคิวอยู่ )
ตอนสืบพยานแม่งก็ตลกดี น่าจะเป็นคดีแรกของประเทศไทย ที่มีการพูดคำว่าคราฟต์เบียร์ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ ทั้งฝั่งรัฐไม่มีความรู้เรื่องนี้สักราย(แอบเศร้านะ แม่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่เข้าใจอะไร แต่ต้องมาพยายามเอากูเข้าคุกเพราะเรื่องนี้อีก) ขนาดอ่านชื่อ equilibrium แม่งก็ยังอ่านไม่ออกเลย คำว่า dank แม่งหมายความว่าอะไร เขาก็ไม่รู้อีก
ตอนสารวัตรสืบสวน(ที่เคยสอบสวนกู)ขึ้นมาให้การ มีอยู่จังหวะนึง แกก็พูดออกมาตรงๆกลางศาลว่า นี่เป็นกฏหมายปิดปาก 55555 จังหวะนรกมาก ถึงขั้นอัยการทำหน้าเหวอ ผู้พิพากษาทำหน้างง ตลกชิบหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังรู้ว่าแม่งเป็นกฏหมายวิปริต (แกก็คงเบื่อ เพราะทุกคดีของ สคอ ต้องมาที่ สน. นนทบุรีที่แกอยู่)
absurd มั้ยล่ะ อัยการก็รู้ ตำรวจก็เซ็ง แต่ก็ต้องมาเล่นงานกู ระบบแม่งมีปัญหาจริงๆ
ส่วนฝั่งโจทก์อีก 2 คน ขอไม่พูดถึงนะ ทั้งสคอ กับไอ้ อจ ตัวเหี้ยคนเดิม แม่งคือปรสิตที่แดกผลประโยชน์จาก พรบ เหี้ยๆนี้อยู่
ฝั่งผมขอสู้ใน 2 ประเด็น คือ 1.ผมไม่มีเจตนาด้านการค้าใดๆเลย และเป็นคนที่มีความรู้เรื่องนี้จริงๆ ขุดเอาทุกวุฒิที่เคยสอบมา เอารูปงานประกวดเบียร์ที่เคยตัดสินมา มาแสดงให้ศาลเห็น
นี่เลยต้องมานั่งอธิบายให้ศาลฟังว่าคราฟต์เบียร์คืออะไร ทำไมมันต้องถูกพูดได้ ทำไมการสร้างวัฒนธรรมการดื่มเป็นเรื่องจำเป็น เอาเรื่อง stout กับ porter มาอธิบายอีก ศาลท่านก็บอกให้ช่วยแปลเป็นไทยหน่อย (ก็มันไม่มีภาษาไทยบัญญัติไว้ครับท่าน )
บอกเลยว่านี่เป็นการใช้พลังงานในการพูดเรื่องเบียร์มากที่สุดในชีวิตแล้ว เหนื่อยมาก และพูดในสิ่งที่อยากพูดกับศาลไปหมดแล้ว ผมขอยืนยันกับศาลจนถึงที่สุดว่าสิ่งที่ผมทำคือการประเมินค่างานศิลปะ เช่นเดียวกับการพูดถึงดนตรี ภาพยนตร์ อาหาร บทกวี มนุษย์ต่างจากสัตว์ประเภทอื่นตรงที่เรามีหัวใจที่ซึมซับความงามของศิลปะได้ และการพูดถึงความสุขที่ได้จากการดื่มแอลกอฮอล์ มันไม่ควรเป็นอาชญากรรมใดๆทั้งนั้น
ก็พูดไปประมานนี้ (มาคิดอีกที แม่งกูก็เศร้านะ ประเทศเหี้ยอะไร มาจับคนพูดเรื่องเบียร์ในเชิงศิลปะวะ) ก็หวังว่าศาลท่านจะรับฟังนะครับ ผมใช้พลังเท่าที่มีไปจนหมดแล้ว
ประเด็นถัดมาที่สู้คือ 2. ในเชิง technical การโพสผ่านเฟชบุค มันไม่ได้มีต้นกำเนิดจากในราชอาณาจักร แต่มันผ่านต้นทางจากต่างประเทศ ซึ่งจะอยู่ในข้อยกเว้นวรรค 3
อันนี้ต้องขอบคุณผู้เชี่ยวชาญ พี่ศักดิ์ (แกเป็นผู้เชี่ยวชาญไอที ที่ใช้ชื่อในวงการว่า ลุงอ้วนแดง) ที่มาช่วยขึ้นให้การด้วยครับ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงจริงๆ ตอนจบการสืบพยาน พี่เขาก็มาให้กำลังใจ บอกว่าตอนแรกที่มานึกว่าเป็นคดีอาญาซีเรียสจริงจัง มารู้ตอนขึ้นให้การนี่ล่ะ ว่าแม่งเป็นคดีคนโพสเรื่องเบียร์ 5555 แกเลยบอกว่าไอ้ห่า ประเทศนี้มันเหี้ยจริงๆ
แล้วแกก็มายืนคุยกับผม/ทนาย/อัยการ ว่าเป็นคดีที่ไร้สาระจริงๆ คนที่มีความสามารถเขาถึงไม่อยากอยู่ประเทศนี้ก็เพราะแบบนี้ ประเทศมันไม่พัฒนาก็เพราะมีกฏหมายเหี้ยๆ (เอ้า พี่แม่งของขึ้นเฉยเลย 555)
หลังจากนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ ผมสู้เท่าที่จะสู้ได้ ผมทำทุกวิถีทางไปหมดแล้ว ทั้งรวมชื่อขอแก้กม.ก็ทำแล้ว ยื่นแก้กม.ก็ทำแล้ว ยื่นคำร้องกับกฤษฏีกาก็ทำแล้ว จนมาถึงการสู้ในศาล ก็ขอยืนยันในเสรีภาพของทุกคนจนถึงวินาทีสุดท้าย ทำหมดทุกทางแล้วจ้า ก็ได้แต่หวังว่าท่านผู้พิพากษาจะมีหัวใจเป็นธรรมและเข้าใจผมนะครับ
นี่ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กูชนะแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์น่ะ แต่พอเป็นประเทศนี้เท่านั้นล่ะ ต้องมานั่งภาวนาฟ้าดินแบบนี้แทน เศร้าดี
ศาลนัดฟังคำพิพากษา 21 เมษายน 9 โมงเช้า ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ถ้าแพ้ก็จะขออุทธรณ์ต่อ จะสู้ถึงขั้นฏีกาต่อ เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว 5555 ใครว่างก็มาช่วยลุ้นกันได้ ถ้าแพ้จะได้ช่วยเดินเรื่องประกันตัวกูด้วย 5555”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง
#ผมชอบเบียร์