วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 28, 2566

จับตาสภาประชุมนัดพิเศษ (28 กุมภาพันธ์) รัฐบาลกะยื้อบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันอุ้มหายฯ ผ่าน พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565


บีบีซีไทย - BBC Thai
13h 
กฎหมายทรมานอุ้มหาย กับกล้องบันทึกภาพของตำรวจขณะจับกุม-ควบคุมตัว
.
ในต่างประเทศ อาจจะคุ้นเคยเรื่องกล้องติดตัวตำรวจที่ใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการไขคดี แต่รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยเพิ่งจะมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ใน พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ "พ.ร.บ. ทรมานอุ้มหาย" ที่ตอนนี้ รัฐบาลขอเลื่อนบังคับใช้เนื้อหา 4 มาตรา เรื่องของการบันทึกภาพและเสียงขณะจับกุมตัวออกไป เนื่องจากทางตำรวจอ้างว่า ไม่สามารถจัดซื้อกล้องบันทึกภาพจำนวน 1.71 แสนตัวไม่ทัน จับตาวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) สภาฯ ประชุมนัดพิเศษพิจารณา พ.ร.ก. ที่รัฐบาลเลื่อนใช้ 4 มาตรา ว่าจะออกมาทิศทางใด
.
ทำความรู้จักกฎหมายฉบับนี้ ที่ปกป้องสิทธิผู้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น https://bbc.in/3ZnObG1





.....
พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
16h
[ พรรคก้าวไกล มีมติโหวตคว่ำ พ.ร.ก. ยื้อบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันอุ้มหายฯ - รัฐบาลต้องปกป้องประชาชน อย่าเตะถ่วงอุ้มประยุทธ์ ]
.
กรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในวันพรุ่งนี้ (28 กุมภาพันธ์) ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มีมติโหวตคว่ำ พ.ร.ก. ฉบับนี้ของรัฐบาล และไม่เห็นด้วยกับการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออก พ.ร.ก. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
.
พ.ร.บ. ป้องกันอุ้มหายฯ เป็นกฎหมายที่ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลผลักดันร่วมกันกับภาคประชาสังคม เพื่อคุ้มครองไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิและร่างกายของประชาชนระหว่างถูกควบคุมตัว ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เคยยืนยันต่อ กมธ. ของสภาฯ เองว่า เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้ทันแน่นอน
.
ดังนั้น เมื่อถึงกำหนดที่ พ.ร.บ. ป้องกันอุ้มหายฯ จะต้องบังคับใช้แล้ว การออก พ.ร.ก. เพื่อเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ. ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ จึงรับฟังไม่ได้ และชัดเจนอยู่แล้วโดยไม่ต้องถามศาลรัฐธรรมนูญ ว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ ออกโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะมิได้เป็นกรณีฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างใด
.
พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและผู้กำกับดูแลตำรวจ จึงต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เพราะการอ้างว่าตำรวจไม่พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่มีเวลาเตรียมตัวถึง 120 วัน แท้จริงแล้วสะท้อนตัวตนของ พล.อ. ประยุทธ์ที่ไม่ต้องการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิและชีวิตร่างกายของประชาชน
.
ถ้าพรุ่งนี้ พ.ร.ก. ถูกคว่ำในสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์สมควรต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทันที เพราะไม่มีความชอบธรรมที่จะรักษาการต่อหลังยุบสภาอีกแล้ว
.
นอกจากนี้ ในประเด็นที่มีการเสนอให้ ส.ส. เข้าชื่อต่อประธานสภาฯ เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการออก พ.ร.ก. นั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าไม่ควรยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นอำนาจเต็มของสภาผู้แทนฯ อยู่แล้วที่จะลงมติว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้ออกมาโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
.
ที่สำคัญ การยื่นศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการช่วยเตะถ่วงให้ พ.ร.ก. ที่ออกมาโดยมิชอบ สามารถบังคับใช้ต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาชน และคนที่จะได้ประโยชน์ที่สุดจากการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คือ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมืองใดๆ หากสภาโหวตไม่อนุมัติ พ.ร.ก. ของรัฐบาล
.
ด้วยเหตุนี้ จึงยืนยันว่า ส.ส. ก้าวไกลจะไม่ร่วมยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลอย่าเจตนาทำให้สภาล่มในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งขอให้ลงมติเพื่อคุ้มครองประชาชน มิใช่เพื่อคุ้มครอง พล.อ.ประยุทธ์
.
“ขอให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล อย่าเขียนด้วยมือแต่ลบด้วยเท้า ควรลงมติไม่อนุมัติ พ.ร.ก. ฉบับนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะแสดงตัวให้ชัดเจนว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรืออยู่ข้างผู้นำบ้าอำนาจ และขอเตือนว่าอย่าลักไก่ด้วยการชิงยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตัดตอนไม่ให้มีการลงมติกันในสภา เพราะจะแสดงให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความกล้าหาญและซื่อตรงต่อประชาชนพอที่จะลงมติในสิ่งที่ถูกต้อง แต่เลือกจะปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ และกลัวจะเสียคะแนนนิยมหากต้องโหวตเห็นชอบกับ พ.ร.ก.” ชัยธวัชระบุ