ไข่แมวชีส
3h
ทะลุวัง แจ้ง #ตะวันแบม เลือดเป็นกรดสูง แพทย์แนะต้องกลับไปรักษาที่ รพ.ทันที แต่ทั้งสองคนปฏิเสธ ขออดอาหารที่เดิมจนกว่าทุกคนได้ประกัน
คำชี้แจงกรณีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม)
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566
ในวันที่ 24 ถึง 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ทนายความของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์หรือตะวัน และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์หรือแบม ได้เข้าพบกับทั้งคู่ ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา หรือลานอากงสนามหลวง เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง เพื่อเข้าเยี่ยม ปรึกษาคดีความ และประเมินสถานการณ์สภาพร่างกายของทั้งคู่ สืบเนื่องจากการที่ทั้งคู่ได้ทำจดหมายปฏิเสธการรับการรักษา ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566ดังที่ได้ปรากฏต่อสาธารณชนแล้วนั้น
ทนายความของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์หรือตะวัน และนางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์หรือแบมขอชี้แจงต่อสาธารณชนทุกท่านดังต่อไปนี้
จากการพูดคุย ทั้งคู่มีอาการเหนื่อยล้าและเพลียมากอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังโต้ตอบได้ มีสติรู้ตัวดี
จากการสอบถามอาการ ได้ทราบว่าขณะนี้ทั้งคู่ได้ถอดสายน้ำเกลือที่ใช้ให้สารน้ำจากโรงพยาบาธรรมศาสตร์แล้ว และในขณะนี้ต้องใช้วิธีการจิบสารน้ำเพื่อพยุงชีวิต เนื่องจากการเจาะสายน้ำเกลือขณะอยู่บนถนนเพื่อให้สารน้ำมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ แต่หากไม่ได้สารน้ำดังกล่าว ก็จะทำให้ทั้งคู่มีอาการเข้าขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุจากการขาดเกลือแร่บางตัว ภาวะเลือดเป็นกรด ไตวาย ฯลฯ
ทั้งคู่อธิบายว่าในขณะที่ร่างกายเกิดอาการวิกฤตที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์นั้น เธอทั้งสองต้องรับสารน้ำเพื่อป้องกันการเสียชีวิต โดยทั้งสองคนได้รับสารน้ำทางหลอดเลือด ซึ่งได้มีการคำนวณค่าพลังงานที่เหมาะสมสำหรับสภาวะที่ต้องเฝ้าระวังเรื่อง Refeeding syndrome ซึ่งสภาวะนี้เป็นผลที่เกิด
มาจากการที่พวกเธออดอาหารอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน ทำให้ในตอนนี้ชีวิตของทั้งสองคนจะมีความเสี่ยงไม่ว่าจะได้รับพลังงานที่มากหรือน้อยเกินไป
ตะวันและแบมแจ้งว่า ทั้งสองคนยังมีเจตจำนงที่จะอดอาหารและน้ำเพื่อต่อสู้อยู่ และไม่มีความประสงค์ที่จะหยุดและกลับมารักษาร่างกายกับแพทย์แต่อย่างใด จนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเธอจะได้รับการรับฟังจากศาล โดยพวกเธอยืนยันว่าการจิบสารน้ำเช่นว่า เป็นเพียงแค่การทำให้มีชีวิตต่อสู้ได้ต่อไปแต่ไม่ได้เป็นการทำให้สุขภาพดี
จากการสอบถามผู้ดูแลพบว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ ในขณะนี้ เนื่องจากการอดอาหารและน้ำมาเป็นเวลานาน ตะวันและแบมไม่สามารถจิบของเหลวได้เท่าไร และการทำเช่นนั้นทำให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน และการที่ไม่สามารถจิบน้ำได้มากพอนั้นทำให้ทั้งสองคนจะเกิดอาการร่างกายขาดน้ำ เหนื่อยล้า เลือดเป็นกรด และไตวายได้ในที่สุด ในวันแรกของการจิบสารน้ำ ตะวันและแบมจิบน้ำได้ประมาณหนึ่งในสามของที่แพทย์ได้แนะนำไว้เท่านั้น และมีอาการหน้ามีด ตาลาย เวียนหัว ขาอ่อนแรงปวดท้องและทุกข์ทรมานอยู่ตลอดเวลา
ตะวันและแบม ได้กล่าวกับทนายความว่า พวกเธอมีกำลังใจดีเยี่ยม และพวกเธอยังพยายามมองหาหนทางในการยกระดับการต่อสู้อยู่ เพื่อจะสามารถยกระดับต่อไปได้หากศาลไม่รับฟังและตอบสนองต่อ
ข้อเรียกร้อง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่า พวกตนจะยกระดับการต่อสู้อย่างไร แต่ขอรอฟังคำสั่งศาลก่อน ซึ่ง
คาดว่าน่าจะออกในวันสองวันนี้ แต่หากยังไม่มีคำสั่งใด พวกเธอก็จะจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปและจะทำการตัดสินใจร่วมกัน
ตะวันได้ยืนยันว่า "ตอนที่พวกหนูคิดแผนการนี้ขึ้นมา พวกเราจินตนาการจุดจบไว้แค่สองทาง"
ส่วนแบมเล่าว่าเธอรู้สึกแปลกใจ ที่การเดินทางมาถึงไม่มีผู้ขัดขวาง และได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เป็นอย่างดี
ทั้งคู่ขอขอบคุณเพื่อนพี่น้อง พี่ป้น้าอาทุกคนที่มาให้กำลังใจอยู่รอบๆ เต็นท์ รวมถึงขอขอบคุณทุกคนที่มาคอยดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบรียบร้อยซึ่งทำให้พวกเธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นและขอขอบคุณสังคมและทุกๆ คนที่มาร่วมยืนหยุดขัง ที่ลานอากง หรือลานหน้าศาลฎีกา สนามหลวงเพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้มีกำลังใจในการที่จะสู้ต่อไปเพื่อให้ประเทศไทยมีสิทธิของผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาอย่างแท้จริง
"หนูรู้สึกว่าเดี๋ยววันจันทร์มาถึง พวกเขาก็จะต้องเข้ามาทำงานผ่านประตูตรงนี้ที่เราสองคนนอนอยู่ เขาอาจจะทำเป็นไม่เห็นหนูก็ได้ แต่หนูก็ยังอยู่ตรงนี้ พวกเรายังอยู่ตรงนี้" แบมกล่าว
ที่มา
https://www.facebook.com/100061863948793/posts/566734835398643/?mibextid=cr9u03
#ตะวันแบม
#ยกเลิก112
#ปล่อยนักโทษการเมือง