ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
7h
กัญชา พี้เพื่อชาติ!
.
อนุทินทำเป็นห่วงเด็กเยาวชนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า
.
แต่ทีกัญชาพี้กันทั้งบ้านทั้งเมืองไม่ห่วงหรือไง?
.
แล้วบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชาอะไรมันน่ากลัวมากกว่ากันไม่ทราบ?
.
ประเทศไทยจะกลายเป็น “ศูนย์กลางยาเสพติด” โดยมีสารตั้งต้นจาก “กัญชาโมเดล” ของพรรคภูมิใจไทย
.
จะมีใครปลูกในบ้าน 6 ต้นแล้วเอาไว้ใช้ในการรักษาโรคบ้าง เพราะการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์มีวิธีการปลูกที่แตกต่างกันมาก
.
ส่วนใหญ่ปลูกไว้พี้เอง หรือเอาไปขายให้เด็ก ทำไมไม่ใช้สมองซีกขวาคิด?
.
และที่ นายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย กระทำการได้ถึงขนาดนี้ เพราะ “นายกประยุทธ์” เกรงใจ
ไม่กล้าแตะถึงกำเริบเสิบสาน
.
ต้องพึ่งให้สนับสนุนการอยู่ต่อในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เท่านั้นเอง
.
เดี๋ยวนี้ หาซื้อกัญชาง่ายเสียกว่าซื้อบุหรี่ ทุกที่มีขายกันหมดทุกหัวถนน
.
ถามจริงๆ ว่า คนซื้อจะมีถึงสัก 10 % ไหมที่ใช้รักษาทางการแพทย์ เพราะอีก 90% ใช้พี้กันทั้งนั้น
.
หากรักษาโรคทางการแพทย์จริง ทำไมไม่ไปขายในโรงพยาบาล และให้หมอออกใบสั่งยามาให้เลยล่ะครับ?
.
แต่นี่กลับตั้งรถขายกัญชาทุกหัวมุมถนน ตั้งร้านขายกันทั่วบ้านทั่วเมือง
.
นี่เป็น “นโยบาย” ที่ทำร้ายชาติมากสุดตั้งแต่มีการตั้งพรรคการเมืองมา เพราะออกมาแค่ “กฎกระทรวง” เพื่อไปปลดกัญชาออกจากบัญชี “ยาเสพติด” ใน พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564
.
อีกทั้งยังคิดจะเอาเข้าสภา ให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด
.
การรณรงค์ทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ จึงขอล็อกเป้า “พรรคภูมิใจไทย” ว่า ต้องไม่ให้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
.
คงคิดว่า “นโยบายกัญชา จะทำให้เพิ่มคะแนน ทำจริง ทำได้ ทำจนเด็กเยาวชนติดกัญชา”
.
แล้วยังมาทำพูดดีว่า “ห่วงเด็กเยาวชน” ให้เหม็นขี้ฟัน
.
บอกว่ามีกฎไม่ให้ซื้อ แต่การเข้าถึงง่ายกว่าซื้อบุหรี่ไฟฟ้า
.
รออาทิตย์หน้าถึงคิวกระทรวงสาธารณสุข ได้เจอกันแน่ไอ้หนู
.
โถ ทำเป็นธรรมะธรรมโม รู้จักเอ่ยคำพระ “สัพเพ สัพตา”
.
แต่ไม่ทราบว่า ลูกใครดูดกัญชาทั้งวันจนสมองเพี้ยนหมด
.
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” จริงๆ สาธุ