วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 11, 2566

⚠️อัพเดท! เก็ท-ต้อม-แบงค์ “ฝืนตื่นประท้วง” วันที่ 3 จนใต้ตาคล้ำ แบงค์อ้วกปนเลือด ส่วนต้อม-เก็ทมีหูแว่ว เห็นภาพหลอน เผยผู้ต้องขังเรือนจำชายมากกว่า 30 คน ร่วมประท้วง-อารยะขัดขืนด้วย


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
1d

อัพเดท! เก็ท-ต้อม-แบงค์ “ฝืนตื่นประท้วง” วันที่ 3 จนใต้ตาคล้ำ แบงค์อ้วกปนเลือด ส่วนต้อม-เก็ทมีหูแว่ว เห็นภาพหลอน เผยผู้ต้องขังเรือนจำชายมากกว่า 30 คน ร่วมประท้วง-อารยะขัดขืนด้วย
.
วันนี้ (9 ก.พ. 2566) ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยม “เก็ท” โสภณ, “ต้อม” จตุพล และแบงค์ ณัฐพล ซึ่งทำการ “ฝืนตื่นประท้วง” (ประท้วงด้วยการไม่นอนหลับ: protest by self-deprivation of sleep) มาตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 ก.พ. 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
.
1. สนับสนุนข้อเรียกร้องของตะวัน แบม และสิทธิโชค
2. ให้ศาลสร้างหลักประกันว่าจะไม่มีผู้ต้องขังในคดีการเมืองคนใดถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรมอีกในอนาคต
3. ศาลต้องมีความเป็นอิสระในการพิจารณาคดีและอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ต้องไม่วางตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนหรือผู้ถูกดำเนินคดีเสียเอง โดยเฉพาะในการพิจารณาคดีมาตรา 112, การดำเนินคดีกับประชาชนในฐานความผิดละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาล เป็นต้น
4. ยุติการดำเนินคดีการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน
.
จากการเข้าเยี่ยมวันนี้ เป็นการฝืนตื่นประท้วงเข้าสู่วันที่ 3 ของทั้งสามคนแล้ว ทนายความสังเกตว่า ทั้งเก็ท ต้อม และแบงค์มีสภาพภายนอกโทรมและน่าเป็นกังวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยทั้งสามใต้ตาดำคล้ำ มีอาการมึนงง คิดและตอบสนองช้ากว่าปกติมาก โดยเก็ทเล่าว่าพวกเขาจะมีวูบคล้ายกับหลับในกันบ้าง ครั้งละ 5-10 นาที โดยจะพยายามช่วยกันดู หากใครเริ่มวูบไป คนอื่นที่เหลือก็จะพยายามเรียกสติกลับคืนมาด้วยการดีดนิ้ว
.
วิธีที่ทั้งสามคนใช้ฝืนตัวเองให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
.
1. ดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละ 4 แก้ว มากที่สุดประมาณ 8 แก้ว โดยแต่ละแก้วจะใช้กาแฟดำชงถึง 5 ช้อน น้ำตาล 2 ช้อน ให้มีความเข้มข้นของคาเฟอีกมากๆ เข้าไว้
2. ใช้เวลากับการอ่านหนังสือ
3. พยายามช่วยกันดึงสติกันและกัน ด้วยกันเขย่าตัว ดีดนิ้วเรียก และพุดคุยกัน
4. ล้างหน้า อาบน้ำ โดยต้อมกับแบงค์อาบน้ำบ่อยมากจนกลัวว่าจะป่วยเป็นไข้
5. นั่งสมาธิและเดินจงกลมเป็นเวลาสั้นๆ ประมาณ 5-6 นาที
6. พยายามเล่นเกมส์สร้างความสนุกสนาน เช่น ต่อเพลง
.
อาการล่าสุดของ “เก็ท-โสภณ”
.
1. พูดช้าลง ต้องใช้เวลาในการประมวลผลทางความคิด
2. รู้สึกปวดและเวียนหัว
3. มีอาการมือสั่น
4. คลื่นไส้เล็กน้อย
5. ช่วงตี 2-3 ได้ยินเสียงดังลักษณะ “ตึ้งๆ” เป็นระยะ ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการหูแว่วหรือไม่
.
อาการล่าสุดของ “แบงค์-ณัฐพล”
.
1. เมื่อคืน (8 ก.พ.) อาเจียนหลายครั้ง และครั้งที่ 4-5 มีเลือดปนออกมาด้วย
2. กินข้าวไม่ลงตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวาน เช้าวันนี้ยังไม่ได้กินอะไร เพราะกินไม่ลง แม้จะรู้สึกหิวก็ตาม
3. ปวดหัวหน่วงๆ ตลอดทั้งวัน
4. แบงค์หยุดทานยาจิตเวชที่แพทย์จ่ายให้แล้ว เนื่องจากจะทำให้รู้สึกง่วงมาก ยาดังกล่าวแพทย์ได้จ่ายให้แบงค์หลังเขาถูกวินิจฉัยว่ามีอาการเข้าข่ายภาวะซึมเศร้า ซึ่งจะมีอาการนอนไม่หลับ ย้ำคิดย้ำทำ คิดอยากทำร้ายตัวเอง รู้สึกหดหู่ ทานอาหารได้น้อยลง เป็นต้น
.
อาการล่าสุดของ “ต้อม” จตุพล
.
1. อาเจียน
2. เวียนหัว
3. หูแว่วได้ยินเสียงแปลกๆ อยู่บ่อยครั้ง เป็นเสียงคล้ายโซ่ตรวนถูกลากกับพื้นหรือเสียดสีกระทบกันเสียงดังเป็นระยะๆ
4. มีอาการคล้ายเห็นภาพหลอนเป็นเงาคนอยู่ในห้องขัง หรือมีคนมายืนหน้าประตูห้องขัง แต่คนอื่นไม่เห็นเหมือนกันกับเขาเลย
.
.
ทั้งสามคนยืนยันที่จะ “ฝืนตื่นประท้วง” ไปจนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเขาจะได้รับการตอบรับ หรือผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกคนได้รับสิทธิประกันตัวทั้งหมดทุกคน
.
ทั้งสามคนยังเล่าอีกว่า ขณะนี้เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เกิด #การประท้วง ของผู้ต้องขังเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและสิทธิในการต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรมกระจายอยู่ทั่วทั้งเรือนจำ โดยเป็นการประท้วงและแสดงออกด้วยการอารยะขัดขืนในหลายวิธีต่างกันไป โดยการประท้วงหลักๆ นั้น ได้แก่ การอดอาหารประท้วง, การอดนอนประท้วง, ไม่กินยาประจำตัว และอารยะขัดขืนด้วยการไม่เข้าร่วมกิจกรรมของเรือนจำ
.
#ฝืนตื่นประท้วง #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ #อารยะขัดขืน #ผู้ต้องขัง #ประท้วง