วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 11, 2566

มีการปลูกฝังความเชื่อให้กับประชาชนว่า ตระกูลคิมเป็นผู้สืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่จะปกครองประเทศได้ แม้ผู้นำคนต่อไปจะเป็นสตรีก็ตาม - พ่อเก่ง ลูกก็ต้องเก่งด้วยสิ 😭😭😭 คล้ายๆแถวนี้



เกาหลีเหนือ : ลูกสาวคิม จอง-อึนฉายแววเป็นทายาท สืบทอดตำแหน่งผู้นำโสมแดง

จีน แม็กเคนซีย์
ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซล
10 กุมภาพันธ์ 2023

เมื่อคืนวันพุธที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปที่ทรงแสนยานุภาพจำนวนมากได้ออกมาอวดโฉมใจกลางกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ ในพิธีสวนสนามเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี การก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี

แต่ทว่าสิ่งที่คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของโสมแดงต้องการจะอวดศักดาให้โลกได้เห็นในงานนี้ ไม่ได้มีเพียงแต่ขีปนาวุธเท่านั้น เพราะข้างกายเขายังมีเด็กหญิงในชุดดำปรากฏตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยร่วมชมการสวนสนามกับท่านผู้นำอย่างใกล้ชิด

เด็กหญิงผู้นี้คือคิม จู-แอ บุตรคนที่สองของคิม จอง-อึน คาดกันว่าเธอมีอายุประมาณ 10 ขวบ และนับเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่เธอปรากฏตัวในงานพิธีสำคัญในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

ตลอดระยะเวลาสั้น ๆ นี้ การปรากฏตัวของคิม จู-แอได้แสดงให้สาธารณชนเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงเกี่ยวกับสถานะของเธอ ซึ่งปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงว่า เด็กหญิงผู้นี้อาจถูกเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในอนาคต

คิม จู-แอ ปรากฏตัวในที่สาธารณะครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ย. ของปีที่แล้ว ระหว่างการทดสอบยิงปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) สร้างความฮือฮาให้กับบรรดานักวิจารณ์ข่าวการเมืองเป็นอย่างมาก



อย่างไรก็ตาม บุคลิกและการแต่งกายของเธอในครั้งนั้นยังดูเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา ทำให้มีผู้เห็นต่างว่านี่อาจไม่ใช่การเปิดตัวผู้นำสูงสุดคนต่อไปของเกาหลีเหนือ แต่เป็นเพียงแค่การเผยภาพลักษณ์ “พ่อที่แสนดี” ของคิม จอง-อึน หรืออาจเป็นการสื่อสารกับชาวโลกว่า เขาและครอบครัวจะยังคงครองอำนาจต่อไปด้วยการพัฒนาขีปนาวุธอย่างไม่สิ้นสุด

เสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่อง คิม-จูแอ คือว่าที่ผู้นำโสมแดงกลับมาอีกครั้ง เมื่อเธอเข้าร่วมงานเลี้ยงผู้นำเหล่าทัพในคืนก่อนพิธีสวนสนาม คราวนี้เด็กหญิงแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำ ทั้งรวบผมเก็บไว้ด้านหลังเหมือนผู้ใหญ่ที่ออกงานอย่างเป็นทางการ

ตำแหน่งที่นั่งของเธอยังทำให้ผู้คนตกตะลึง เพราะหนูน้อยนั่งเก้าอี้ตรงกลางระหว่างพ่อและแม่ รายล้อมไปด้วยบรรดานายพลคนสำคัญของกองทัพประชาชนเกาหลี

ถ้อยคำที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือใช้บรรยายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ธรรมดา โดยเปลี่ยนจากคำว่า “บุตรสาวผู้เป็นที่รัก” ของท่านผู้นำ มาเป็นคำว่า “บุตรสาวที่เคารพ” ซึ่งตามปกติแล้วคำนี้สงวนไว้ใช้กับผู้มีสถานะสูงส่งเป็นพิเศษเท่านั้น เช่นในตอนที่มีการรับรองคิมจองอึนในฐานะผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ สื่อได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า “สหายที่เคารพ” เมื่อกล่าวถึงเขาในทันที



ผู้คนพากันประหลาดใจ เมื่อคิมจูแอได้รับเกียรติให้นั่งตรงกลางระหว่างที่นั่งของพ่อและแม่ ในงานเลี้ยงบรรดาผู้นำกองทัพ

นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา เกาหลีเหนือถูกปกครองด้วยคนตระกูลคิมถึง 3 รุ่นติดต่อกัน มีการปลูกฝังความเชื่อให้กับประชาชนว่าตระกูลคิมเป็นผู้สืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหมายความว่ามีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่จะปกครองประเทศได้ โดยคิมจองอึนเองก็ย่อมต้องการจะส่งต่ออำนาจให้ผู้สืบทอดรุ่นที่ 4 อย่างราบรื่นเช่นกัน

นักวิจารณ์บางรายมีคำถามว่า แม้ คิม จู-แอ จะถูกเลือกให้เป็นผู้นำคนต่อไปอย่างแน่นอนแล้วก็ตาม แต่เหตุใดจึงต้องเร่งรีบเปิดตัวเธอต่อสาธารณชนในขณะที่ยังเด็กอยู่มาก ส่วน คิม-จองอึน เองก็เพิ่งอายุได้เพียง 39 ปีเท่านั้น

ในอดีตบิดาของคิม-จองอึน เคยเปิดตัวเขาในฐานะผู้นำคนต่อไป เมื่อเขามีอายุได้เพียง 8 ขวบ แต่นั่นก็เป็นการเผยข้อมูลลับในวงแคบกับบรรดาผู้นำทางทหารเท่านั้น เรื่องที่เขาถูกเลือกให้เป็นว่าที่ผู้นำสูงสุด ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนก่อนบิดาของเขาถึงแก่อสัญกรรมเพียง 1 ปี

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวคิมจองอึนในฐานะผู้สืบทอดอย่างกระชั้นชิด ทำให้การเปลี่ยนผ่านถ่ายโอนอำนาจการปกครองประเทศเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก จนเขาต้องลงมือปราบปรามผู้ต่อต้านอย่างไร้ความปราณี เพื่อสร้างฐานอำนาจให้เป็นปึกแผ่น

ด้วยเหตุนี้ คิม จอง-อึนจึงอาจต้องการแผ้วถางหนทางสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดให้กับบุตรสาว เพื่อให้เธอสืบทอดอำนาจไปจากเขาได้อย่างง่ายดายไร้อุปสรรค โดยมีฐานอำนาจที่มั่นคงแข็งแกร่งแล้วในเวลาที่ต้องขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำแทนบิดา

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าสุขภาพของคิม จอง-อึนนั้นไม่สู้ดีนัก และเขาอาจครองตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือต่อไปได้ไม่นานเท่ากับที่คนส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ จึงต้องรีบเปิดตัวบุตรสาวผู้ได้รับการวางตัวเป็นทายาททางการเมืองโดยเร็ว

เหตุผลอีกประการหนึ่งที่ต้องเผยตัวเด็กหญิงคิม จู-แอในตอนนี้เพราะพ่อของเธออาจคิดว่าต้องใช้เวลานานในการทำให้ผู้คนในสังคมปิตาธิปไตยยอมรับผู้นำเพศหญิง เกาหลีเหนือนั้นไม่เคยมีสตรีเป็นผู้นำมาก่อน แม้จะมีผู้หญิงตระกูลคิมครองตำแหน่งในระดับสูงมาบ้างก็ตาม อย่างเช่นคิม โย-จอง น้องสาวของผู้นำคนปัจจุบัน

เจมส์ เฟร็ตเวลล์ นักวิเคราะห์จากเอ็นเคนิวส์ (NK News) มองว่าการที่เกาหลีเหนือจะมีผู้นำหญิงในอนาคต มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย แม้ว่าคิม จอง-อึนจะต้องพยายามอย่างมาก เพื่อสร้างการยอมรับในหมู่ชนชั้นนำ กองทัพ และประชาชนก็ตาม

“แม้สังคมของที่นั่นจะถือว่าชายเป็นใหญ่ แต่ก็ยังเป็นสังคมที่ถือว่าตระกูลคิมเป็นใหญ่ด้วย สายเลือดของคิม จู-แอนั้นเพียงพอที่จะทำให้เธอเป็นผู้นำได้ มันจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากกว่า หากคนนอกตระกูลคิมก้าวขึ้นมาครองอำนาจแทน” เฟร็ตเวลล์กล่าว