การที่ทหารไปปล้นหรือข่มขืนพอถือเป็นเรื่องส่วนตัวได้ แต่การที่อาวุธถูกปล้นเอาไปฆ่าประชาชนคือความบกพร่องของหน่วยงานภายใต้ความรับผิดชอบ ประชาชนถามหาความรับผิดชอบตรงนี้ครับท่าน ผบ. ทบ. ถ้าจะไม่ลาออกแสดงความรับผิดชอบก็บอกมาตรงๆ เลิกแถ เลิกบีบน้ำตา เห็นแล้วจะอ้วกครับ pic.twitter.com/vFGWpMEtYT— watanamuangsook (@watanamuangsook) February 11, 2020
...
เมื่อคุณพูด เราจะฟัง แต่เมื่อคุณชี้แจง แสดงหลักฐานและลงมือกระทำ เราจึงจะเชื่อ
อยากรู้ว่า ตั้งแต่วินาที ที่คนร้าย บุกเข้าในค่ายทหาร (เวลาประมาณ 15.30น.) ยิงทหารยาม ขนอาวุธออกจากคลัง ขโมยรถทหาร ขับออกจากค่าย ไปยิงคนที่วัด (วัดอยู่ห่างไป 14 กม ) ต่อด้วย ขับรถเข้าเมืองโคราช และเข้าไปในห้าง (เวลาประมาณ 18.00น. ระยะทางอีก 6กม ) รวมระยะทางที่คนร้าย ขับรถทหาร ไปตามเส้นทาง ประมาณ 20กม
และนับเวลารวม ตั้งแต่บุกปล้นอาวุธที่ค่าย จนขับรถเข้าห้าง เป็นเวลา 2 ชั่งโมงครึ่ง
ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อสถานการณ์เลวร้าย เริ่มต้นที่ในห้าง การตอบโต้เริ่มเป็นระบบมากขึ้น ที่นำโดยทีมตำรวจ และทุกหน่วยงานที่เกี่วข้อง
แต่
อยากรู้ว่า เฉพาะใน ช่วงแรกๆ 2ชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่ที่ค่ายทหาร จนถึงวัดและ หน้าห้าง กำลังพลภายใต้การนำของกองทัพบก ได้ทำอะไรกันบ้าง โดยเฉพาะขณะถูกคนร้ายปล้นและหลังจากนั้นทันที ทหารในค่าย ตอบโต้ทันทีไหม ได้ระดมกำลังออกไล่ล่าทันทีหรือไม่
อย่าบอกนะว่า เป็นหน้าที่ตำรวจ เพราะเรื่องแบบนี้ แม้แต่ประชาชน หากเกิดหตุโดนทำร้ายเฉพาะหน้า ยังตอบโต้เลย ตัวอย่างเช่น โดนคนร้ายกระชากสร้อย ชิงโทรศัพท์ เขายังวิ่งไล่ตามคนร้ายเลย แต่ค่ายทหารทั้งค่าย มีทหารอยู่กันเป็นร้อยพร้อมสรรพาวุธครบ โดนคนร้ายบุก ปล้นทั้งอาวุธสงครามและรถยนต์และทำร้ายทหาร ไม่มีเลยหรือที่ ทหารในค่าย จะระดมกำลัง ตอบโต้ทันทีและหนักหน่วงตั้งแต่แรก
เพราะหาก ทหารในกองพันนั้น โดยทหารในค่าย ที่ประชาชนคิดกันว่าย่อมต้องมีแผนงาน มีความสามารถและอาวุธหนักไม่ต่างจากคนร้าย หากได้มีการตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่นาทีและหลายๆนาทีแรก อาจสามารถ หยุดคนร้าย ก่อนจะไปถึงวัดด้วยซ้ำ
ความสูญเสียจะไม่มากมายถึงเพียงนี้แน่นอน
หรือนี่ แสดงชี้ว่า กองทัพไทย ไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ทหารคิด
น้ำตาแตก ที่ปราศจากคำอธิบายและ ไม่มีความรับผิดชอบ จึงเป็นแค่ละคร ปลอบประโลมใจตนเองและผู้ใต้บังคับบัญชา
ไม่มีคุณค่าต่อประชาชน
Pongsak Phusitsakul
...
กรณีmass shooting ยิงกราดที่โคราช เป็นปัญหาใหญ่มาก หากไม่ยอมรับความจริง ไม่สรุปย่างจริงจังรอบด้าน เพื่อสร้างระบบและมาตรการป้องกัน เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก
ผมอยู่ในประเทศที่เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า กลุ่มก่อการร้าย (ซึ่งผมไม่ชอบคำเรียกนี้) ปฏิบัติการอย่างมีแผน หลายครั้ง บางครั้งมีคนถูกยิงตาย และระเบิด 85 คน แต่กองกำลังรักษาความปลอดภัยหรือตำรวจสามารถปราบปรามยุติสถานการณ์ภายใน1-2 ชั่วโมง แสดงถึงประสิทธิภาพสูง
กรณีโคราช ผู้ก่อเหตุคนเดียวใช้เวลา 17 ชั่วโมง สะท้อนความไม่มีแผน มีระบบ ไร้ประสิทธิภาพของทหารและตำรวจ ซึ่งมิใช่มุ่งวิสามัญฆาตกรรม
บางคนบอก จะเอาอะไรกับกองทัพที่ไม่เคยรบมากว่า 200ปี และมีแต่นายทหารตีกอล์ฟ เป็นผู้บังคับบัญชา ที่ผ่านมา ทำได้แต่รัฐประหาร และปราบปรามประชาชนสองมือเปล่า เท่านั้น
Jaran Ditapichai
...
เชิญชวนทุกคนร่วมกันสวมชุดดำ พร้อมดอกไม้และเทียน ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช และเรียกร้องความรับผิดชอบจากกองทัพ— Lookkate Chonthicha (@LookkateChonth1) February 11, 2020
18.00 น. พฤหัสที่ 13 ก.พ. 63
ณ สกายวอล์ค หอศิลป์ กทม
ความรับผิดชอบเริ่มต้นง่ายๆด้วยการที่ ผบ.ทบ.ควรหยุดพูดพล่อยๆ ไร้ความรับผิดชอบ#อีแดงพ่อไม่รัก pic.twitter.com/ScLCXqLYvW