โดนอภิปรายแฉ ‘ไอโอ’ กอ.รมน.ยังไม่ทันจบ ‘เผ่น’ ออกจากสภาฯ กลับซะแล้ว (ไม่ใช่คุณ) ประยุทธ์ยังมีหน้าเถียงข้างๆ คูๆ “ผมก็ไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว”
ส่วนที่ตอบเป็นคุ้งเป็นแควยิ่งกว่าเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ก็ ‘ยศถาบรรดาศักดิ์’ นั่นละ
“ในส่วนของทหาร ตำรวจ
ทั้งหลายที่เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณมาด้วยกัน รับพระราชทานยศมาด้วยกัน
ก็กรุณารักษาศักดิ์ศรีของตนเองไว้ด้วย” ประยุทธ์พูดผ่านปากกาของ วาสนา นาน่วม
ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็น ‘เรื่องใหญ่’
ที่งามหน้าสุดๆ ก็จาก ส.ส.อนาคตใหม่
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร มีทั้งคลิปเสียง ภาพ เอกสาร
บานเบอะว่ากองทัพจัดสรรงบประมาณผ่าน ‘กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน’ ไม่เพียง “บั่นทอนบรรยากาศการเจรจาเพื่อสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้”
ด้วยการโจมตีนักการเมือง นักสิทธิมนุษยชน
นักวิชาการ บุคคลากรเด่นทางสื่อ ผ่านทางเว็บไซ้ท์ เฟคนิวส์ และ
เพจอวตารทางสื่อสังคม เข้าไปปั่นป่วนวงสนทนาออนไลน์ของฝ่ายประชาธิปไตย ขโมยภาพ
ตัดต่อ สวมรอย สุดแต่จะขุดค้นหาวิชามารเอามาเป็นปฏิบัติการได้
น่าเวทนาก็ตรงที่บุคคลากรเหล่านี้
ได้รับค่าจ้างค่าแรงไม่มากนัก ส่วนมากครั้งละ ๑๐๐ บาทเพราะมีจำนวนคนนับพัน
กระนั้นยังไม่วายพบหน่วยอื่นได้มากกว่าถึงครั้งละ ๓๐๐ บาท
ทำให้วิจารณ์กันว่าพวกพลรบไซเบอร์ก็โดนยักยอกค่าแรง และถูก ‘อม’ ส่วนต่างเงินทอนเหมือนกัน
จะจะ แจ้งแจ้งที่วิโรจน์เปิดโปง “เอกสารลับ
๓ ฉบับ ลงวันที่ ๒๕ เม.ย.๒๕๖๒ เกี่ยวกับการเข้าอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมกับคณะทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร”
มีทั้งการซักซ้อมวิธีการเป็นรายวัน เสี้ยมสอนการสร้างบัญชีโซเชียลปลอม
(ชมกันได้อย่างละเอียดจาก ‘ยูทู้บ’ ขอบใจ สลักธรรม โตจิราการ
กรุณาเอาลิ้งค์มาเผยแพร่ ตอน ๑ ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=uOtvdk3d41k กับตอนสองก็นี่ https://www.youtube.com/watch?v=3GU7IbEIycM)
ทั้งนี้เอกสารบางชิ้นระบุบุคคลที่รับผิดชอบภาคสนามยศพลโท
สังกัด กอ.รมน.โดยตรง ฉะนั้นการอ้างแก้ตัวก่อนได้ฟังของจริงว่า “ผมเองก็โดนซะเยอะเลยในนั้น
เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน” จึงเป็นการเถือกแถที่ทำให้ตัวเองหมดค่าสิ้นเชิง
มิหนำซ้ำต่อการที่ข้อมูลเปิดโปงเป็นของจริง
พวกนักรบประชาธิปไตยบนไซเบอร์จึงพากันนำเอา ‘คิวอาร์โค้ด’ ของกลุ่มบุคคลากรไอโอไปแทรกเข้าบรรดาเพจ
‘เฟคนิวส์’ ของทหาร จนถึงขั้นยึดครองและเปลี่ยนโฉมกลับตาลปัตรจากที่เคย
‘อวยประยุทธ์’ ไปฉิบ
จึงน่าคิดในข้อคำนึงของ อานนท์ นำภา
ที่ว่า “รัฐบาลเละขนาดนี้ เจ้าของคอกคงอยากเปลี่ยนผู้เล่นเร็วๆ นี้
จะเปลี่ยนในหรือนอกกติกาเท่านั้นแหละ”
โดยเฉพาะจากกรณีที่เว็บ pulony.blogspot.com
โจมตีฝ่ายเห็นต่างในพื้นที่ชายแดนใต้นั้นถือว่า “ยุยงปลุกปั่น
สร้างความแตกแยก ทำลายความรักและความสามัคคีของประชาชน” ดังข้อกล่าวโทษ “คอยเสี้ยมโจมตีนักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้”
สองรายที่โดนหนักจากปฏิบัติการไอโอนี้
ได้แก่ อังคณา นีลไพจิตร และพรเพ็ญ ก้องขจรเกียรติ
ซึ่งรณรงค์เพื่อความยุติธรรมในพื้นที่มาเป็นเวลานับสิบปี ชี้ถึงความพยายามปกปิดอะไรหลายอย่าง
รวมทั้งการถลุงงบประมาณเกือบ ๓ แสนล้านบาท
เพียงเพื่อขุนทหารบางส่วน ขณะที่ความเสียหายคนตายเกือบ
๗ พัน ล้วนอยู่ภายใต้การกำกับของประยุทธ์ทั้งนั้นนัลแต่เป็น ผบ.ทบ.ในปี ๔๙
เรื่อยมาจนยึดอำนาจในปี ๕๗ และเป็นนายกรัฐมนตรีเรื่อยมาถึงขณะนี้
ซึ่งมีผู้รับผิดชอบโดยตรง คือ ผบ.ทบ.
ฉะนั้นการอภิปรายพาดพิง พล.อ.อภิรัชต์
คงสมพงษ์ จึงเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ ทว่า อนิจจาประธานสภาฯ ชวน หลีกภัย สั่งห้าม
ส.ส.พูดอภิปรายกระทบกระทั่ง “อ้างว่าเป็นคนนอก” ทำเอา จาตุรนต์ @chaturon (ฉายแสง) ต้องสะกิด
“ทำไมจะพูดไม่ได้
ก็ผบ.ทบ.อยู่ใต้บังคับบัญชาประยุทธ์โดยตรง มีดโกนกำลังปกป้องประยุทธ์โดยไม่ชอบ #ประชุมสภา
#อภิปรายไม่ไว้วางใจ”