วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 29, 2563

ถ้าตู่ยังไปต่อ นร. นศ. ก็ไม่หยุดยั้ง หลังซ้อมใหญ่วันนี้แล้ว น่าจะมีของจริงชนิดรวมดาวกระจายตามมา


ถ้าตู่ยังไปต่อ นร. นศ. ก็ไม่หยุดยั้ง การชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม ต่อต้านเผด็จการ และเชิดชูประชาธิปไตย ของนักเรียน-นักศึกษา ดำเนินติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้ว หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่

เฉพาะวานนี้ (๒๘ กุมภา) วันเดียว ไทยรัฐรายงานว่ามีการจัด แฟล้สม็อบถึง ๙ แห่ง ทั้งศึกษานารี สตรีนนท์ หอวัง ราชภัฏฯ เทคโนฯ ม.พะเยา ชัยภูมิ และลำปาง ก่อนหน้านี้มีนัดชุมนุมกระจายไปทั่ว นครปฐม จันทบุรี และศรีราชา

โดยวันนี้มีนัด (ซ้อม) ชุมนุมใหญ่ เชิญทุกมหาลัย โรงเรียน และประชาชนทั่วไปร่วม ชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมตั้งแต่ปี ๕๗-๖๑ ชวนทุกคน #คืนสู่เหย้าไม่เอาไอโอ (ชา) ๕ โมงเป็นต้นไปที่หน้าหอประชุมใหญ่เกษตรศาสตร์ บางเขน

ขณะที่ทางการทั้งสถานศึกษาและตำรวจขยายขอบข่ายวิธีการสกัดกั้น นอกจากมีนายตำรวจเข้าไป ‘Harass’ ก้าวล่วงนักศึกษากลางสถานที่ชุมนุม ด้วยการเรียกขอเก็บบัตรประจำตัว แล้วมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามถ่ายภาพ และขู่ว่า

จะส่งรูปให้อาจารย์หักคะแนนความประพฤติบ้าง หรือที่จันทบุรีมีการเปรียบเทียบปรับนักศึกษาถึงสองหมื่นบาท อ้างว่าขออนุญาตช้าไป ไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมงที่กำหนด กระทั่งแถลงขู่ว่าจะดำเนินคดีต่อผู้ปกครอง หากนักเรียนนักศึกษาใช้ข้อความประท้วงหมิ่นเหม่ต่อสถาบันกษัตริย์ก็มี

การนี้ สุณัย ผาสุข แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ ออกมาโต้แย้งว่าตำรวจ “ลุแก่อำนาจกล่าวหาเด็กหมิ่นสถาบันฯ” ในเมื่อข้อความบนป้ายที่นักเรียนรายหนึ่งเขียนชู เอามาจากข้อสอบโอเน็ตสำหรับชั้น ม.๖ ที่ออกโดย สทศ.เอง
 
ข้อ ๓๕.ถามว่าใครคือผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือก ๔ อย่างคือ กษัตริย์ ประชาชน รัฐบาล และรัฐสภา ซึ่งเฉลยว่าคือ ประชาชน


หลังซ้อมใหญ่วันนี้แล้ว น่าจะมีของจริงชนิดรวมดาวกระจายตามมาไม่ช้า เมื่อสถานการณ์การเมืองซาลงไป สถานการณ์เศรษฐกิจที่จอดรอขบวนฯ อยู่ก็จะทะลักออกมา โดยมี ธปท. ย้ำเตือนว่า “เศรษฐกิจไทยจะดิ่งลึกสุดในไตรมาส ๑/๒๕๖๓”

ทั้งนี้เนื่องจาก “โดยเฉพาะตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน ก.พ.เบื้องต้นหายไปแล้วกว่า ๔๕% จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม และผลกระทบให้ภาคการส่งออกชะลอตัว” นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาคเพิ่งแถลง

“หากไม่รวมการส่งออกทองคำ จะขยายตัว -๑.%” (แปลภาษาแบ๊งค์ชาติมาเป็นภาษาไทยพื้นบ้านได้ว่า ติดลบอะ) “การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวต่อเนื่อง” เช่นกัน

“จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่ ๒.% อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัว” เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 รุนแรงขึ้นในประเทศจีน ทางการจีนประกาศระงับการท่องเที่ยวต่างประเทศ


ความห่วงกังวลของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ได้รับการคอนเฟิร์มจากภาคเอกชน เช่น “เครือโรงแรมเซ็นทาราของกลุ่มเซ็นทรัลลดต้นทุน ให้พนักงานลาหยุดมีนาคมโดยไม่จ่ายเงินเดือน” เช่นเดียวกับ “บางกอกแอร์เวย์ส
 
ลดเงินเดือนผู้บริหาระดับสูงทุกตำแหน่งลง ๕๐% ประกาศล่วงหน้าไม่ขึ้นเงินเดือนปีนี้ ให้ลา ๑ เดือนไม่รับเงินเดือน ตัดลดสวัสดิการ เหตุไวรัสโควิด-๑๙ กระทบหนัก” (จากทวี้ต Den Bancha Chumchaivate @bancha333)

แท้จริงนั่นการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มสั่นสะเทือนเศรษฐกิจโลก เห็นได้ชัดจากตลาดหุ้นในสหรัฐและเอเซียตกฮวบ ในอเมริกาตกต่อเนื่องมา ๖ วันแล้ว เป็นดั่งผีซ้ำดั้มพลอยสำหรับไทย นับแต่การค้าขายระดับรากหญ้าทรุดหนักมาหลายปี

คราวนี้ ผู้บริหาระดับสูงได้สัมผัสพิษกันบ้างแล้ว ต่อให้ระดับ เจ้าสัว ยังอูฟูไม่สะทกสะท้าน ลองดูอีกไม่นานระดับผู้จัดการโดนพักงานกันมากขึ้น ไม่ช้าเกินรอบรรยากาศ เป่านกหวีดจะกลับมาเยือน

แต่คราวนี้เปลี่ยนโฉมใหม่ โดยมีคนรุ่นหนุ่มสาวเป็นฐานราก และเป้าหมายไม่เพียงคนตระกูลเดียว แต่จะกระทบไปทั่วทั้งฟากฟ้า