วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 17, 2563

ชวนชม(หากพลาด) อ.โคทม งานเสวนาพรรคการเมืองกับอนาคตประชาธิปไตยไทย




โคทม อารียา เสวนา "พรรคการเมืองกับอนาคตประชาธิปไตยไทย"

Jan 8, 2020

มนุษย์
20.1K subscribers

เสวนา "พรรคการเมืองกับอนาคตประชาธิปไตยไทย" 
ที่มา PITVFANPAGE
...



ชวนสรุปเสวนาพรรคการเมืองกับอนาคตประชาธิปไตยไทยอีกครั้ง!
.
8 มกราคม 2563 ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) มีวงเสวนาในหัวข้อ "พรรคการเมืองกับอนาตประชาธิปไตย" ที่ว่าด้วยความสำคัญของสถาบันพรรคการเมือง ปมปัญหาของรัฐธรรมนูญ และบทบาทขององค์กรที่ใช้อำนาจตุลาการ ซึ่งส่งผลต่ออนาคตประชาธิปไตยไทย
.
รศ.โคทม อารียา อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งและหนึ่งในวิทยากร กล่าวว่า ในอดีตเราเคยกลัวว่า พรรคการเมืองจะถูกครอบงำโดยอำนาจธนาธิปไตย หรือ คนกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจเงินเยอะๆ ต่อมาระบอบประชาธิปไตยมีนามสกุล ทำให้อะไรก็ตามที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไม่จงรักภักดี ก็จะถูกยุบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ยอมให้มีคนที่เห็นต่างทางการเมือง
.
รศ.โคทม อารียา กล่าวว่า ในอดีตเราเคยกลัวว่า พรรคการเมืองจะถูกครอบงำโดยอำนาจธนาธิปไตย หรือ คนกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจเงินเยอะๆ ต่อมาระบอบประชาธิปไตยมีนามสกุล ทำให้อะไรก็ตามที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไม่จงรักภักดี ก็จะถูกยุบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ยอมให้มีคนที่เห็นต่างทางการเมือง
.
รศ.โคทม มองว่า การยุบพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ควรเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กว้าง ควรให้โอกาสการต่อสู้ทางความคิด ทางนโยบาย แล้วให้ประชาชนเป็นผู้เลือกหรือตัดสินใจ ถ้าเราใช้การยุบพรรคการเมืองเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ และจะเป็นการผลักให้คนกลุ่มหนึ่งออกไปจากรัฐสภาทั้งที่การต่อสู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยควรเกิดขึ้นที่นั่น
.
รศ.โคทม กล่าวทิ้งท้ายว่า ปมปัญหาทางการเมืองส่วนหนึ่งเป็นปัญหาจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ยาก เพราะมีเงื่อนไขว่า ต้องได้เสียงจาก ส.ว. ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช. ถึงหนึ่งในสาม และต้องใช้เสียงจาก ส.ส.ฝ่ายค้านอีกอย่างน้อยยี่สิบเปอร์เซ็น แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน ถ้าเสียงประชาชนเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก็ควรจะคล้อยตามเจตจำนงของประชาชน
.
นอกจากนี้ ร.ศ.โคทม ยังกล่าวถึงคดีเงินกู้ โดยระบุว่าในความเห็นของตน เงินกู้ไม่ใช่รายได้เด็ดขาด เพราะเป็นเงินที่ต้องคืน ตนเคยไปตรวจสอบมาว่ามีพรรคการเมืองไหนที่กู้เงินเขามาบ้างหรือไม่ ตนก็ตรวจสอบเจอว่ามีหลายพรรค กู้มาก็ต้องคืน บังเอิญจำนวนกู้ไม่เท่ากัน แต่ถ้าพรรคอนาคตใหม่ผิด พรรคอื่นๆ ก็น่าจะต้องผิดด้วย