วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 24, 2563

หึ หึ ‘เฮียป้อม’ ยันฟ้อง ‘ช่อ’ แน่ๆ แต่ว่าถามศาลสวิสหรือยัง


หึ หึ เฮียป้อม ยันฟ้อง ช่อ แน่ๆ ที่อภิปรายนอกสภาว่ารัฐบาล ไอทู้บ มีเอี่ยวคดีทุจริตยักยอกเงินในมาเลเซีย อันทำให้นายกฯ นาจิบ ราซัค เข้าซังเตโดน ๔๒ คดี และพรรคอัมโนหมดอำนาจไปโดยพลัน

แต่ ไม่แน่ ตรงที่เฮียเค้า “บอกไม่รู้ ได้ข้อมูลจาก ตม. มาได้ยังไง”

ข้อกล่าวหาที่ พรรณิการ์ วานิช นำมาเปิดเผย หนึ่งคือกรณีตัวการสำคัญเปิดโปงการคอรัปชั่นครั้งมโหฬารของมาเลเซีย ศาลไทยตัดสินจำคุก ๖ ปี ในข้อหา พยายามกรรโชกทรัพย์ลดโทษกึ่งหนึ่งเพราะรับสารภาพ แล้วท้ายที่สุดได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวในปลายปี ๒๕๕๙

ช่อบอกว่าคดีนี้ ผิดปกติ มากมาย “เธอได้รับข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมทั้งจากภรรยาของนายฆุสโต (Xavier Justo) โดยตรง ที่ทำให้เชื่อได้ว่าเขาถูกบีบให้รับสารภาพ...ว่าเขากุเรื่องทุจริต 1MDB ขึ้นเพื่อใส่ร้ายนายนาจิบ ราซัค”
 
ซาเวียร์ ฆุสโต เป็นชาวสวิส “เป็นผู้ให้ข้อมูลเอกสารกว่า ๒ แสนหน้าแก่ผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงเรื่องนี้ จนมีรายละเอียดว่ามีการโอนเงิน ๖๘๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากกองทุนเพื่อการลงทุน 1MDB) เข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของนายนาจิบเมื่อปี ๒๕๕๖”

ความไม่ปกติอยู่ที่ ทางการสวิสเซอแลนด์ได้ขอไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปรับโทษต่อที่ประเทศบ้านเกิด แต่ไทย (โดยรัฐมนตรียุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา) อ้างว่าส่งไม่ได้เพราะขัดกับกฎหมายไทย นั่นคือเหลือการถูกจำคุกไม่ถึงปี

แต่นางลอร่า ภรรยาของซาเวียร์ บอกว่า “ดิฉันช็อคต่อการตัดสินของทางการไทยอย่างนั้น...ไม่เข้าใจว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรที่เก็บตัวสามีดิฉันไว้” สื่อออนไลน์ ไฟแน้นเชียลไทม์ เปิดเผยเมื่อปลายกันยายน ๒๕๕๙

รายงานข่าวบอกว่า ทั้งๆ ที่ทางการสวิสได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ไทยส่งตัวตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน มากกว่า ๑ เดือนก่อนที่ไทยจะลดโทษให้แก่นายฆุสโต แล้วเอามาอ้างว่าส่งตัวไม่ได้เพราะกฎหมายห้าม แม้จะมีการสั่งห้ามซาเวียร์เข้าประเทศไทยเป็นเวลา ๑๐๐ ปีด้วย

อีกกรณีที่ ช่อ นำมาปูดเกี่ยวกับคดีอื้อฉาวของมาเลเซียนี้ ก็คือการปล่อยให้นายโลว์ เต็ก โจ หรือ โจ โลว์ ตัวการสำคัญในการโอนเงินก้อนโตครั้งนั้น เดินทางเข้าออกประเทศไทยอย่างลอยนวลถึง ๕ ครั้ง ระหว่างเดือนตุลา ๕๙ ถึงพฤษภา ๖๑ ทั้งที่ตำรวจสากลออกหมายจับอยู่

แถม “คนสนิทของนายโจ โลว์ อีกสองคน คือ ตังเคงฉี และ จัสมิน ลู ต่างใช้ไทยเป็นที่กบดาน โดยมีนักธุรกิจไทย (ช่อเรียกชื่อย่อว่า พ.)...ให้ความช่วยเหลือ เธอบอกด้วยว่ามีข้อมูลว่านายตังเคงฉีไปกบดานในบ้านของ คนมีสี ที่เขาใหญ่เมื่อปลายปี ๒๕๖๒”

ทั้งหมดนี่ ช่อ “เชื่อว่ามีกลุ่มบุคคลที่เป็น พันธมิตรมืด อยู่เบื้องหลังความพยายามในการปิดปากพยานคือนายฆุสโต และการให้ความช่วยเหลือ-ให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหาคนสำคัญคือนายโจ โลว์และคนสนิท”
 
ซึ่งไฟแน้นเชียลไทม์ระบุว่าการลดโทษและไม่ยอมส่งตัวนายฆุสโตให้ทางการสวิส เกิดหลังจากนายกฯ ราจิบไปเยือนประเทศไทย (อย่างไรก็ดีเรื่องราจิบไปไทยนี้ ได้มีการปฏิเสธจาก เต็งกู ซาริฟฝัดดิน เลขานายกฯ มาเลย์ ว่าไม่มีการพูดถึงเรื่องนายฆุสโตสักนิด)


ที่เฮียป้อมบอกว่าจะฟ้องช่อโดย “ไม่รู้ได้ข้อมูลมายังไง” แล้วเอาโฆษกรัฐบาลมายันเสียอีกว่า “ไม่มี ไม่จริง” น่ะ โปรเฟสเซ่อโฆษกก็ยืนยันโดยไม่มีน้ำหนักอะไรสักนิด ชี้แจงแบบไอโอ ทบ.ไม่มีผิดว่า “เป็นการกล่าวหาให้ร้ายทำให้สังคมสับสน...กำลังพิจารณาจะดำเนินคดีทางกฎหมาย”

มีคนทักด้วยความปรารถนาดี ว่า “หลักฐานได้รับการรับรองจากศาลสวิส” นะครับ เช่นเดียวกับหลักฐานในคดียาเสพติดของออสเตรเลีย ที่ฝ่ายค้านเตรียมพร้อมไว้เพียบเพื่ออภิปรายรัฐมนตรีช่วยฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า

และเรื่องรัฐบาลตู่เอื้อนายกมาเลย์ที่โดนคดีคอรัปชั่นนี้ ไม่ใช่จู่ๆ พอโดน ตลก.รัฐธรรมนูญตัดสิทธิ ส.ส.แล้วช่อจะปั้นขึ้นมาได้ทันทีเมื่อไหร่ เธอแจ้งว่าเตรียมการมาหลายเดือนเพื่อจะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่ ๒๔ กุมภานี้

พรรณิการ์บอกว่านี่เป็นประเด็นที่เธอได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อภิปราย ครั้น ตลก. ชิงยุบพรรคก่อนวันอภิปรายเพียงไม่กี่วัน ก็เลยต้องเอามาอภิปรายนอกสภาแทน เพราะเป็นเรื่องระดับนานาชาติ “ที่เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ปกปิดข้อเท็จจริง”

และนอกเหนือจากให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหาแล้ว ยังบิดผันกระบวนการยุติธรรมในประเทศ และขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของต่างประเทศ บ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีกับชาติพันธมิตร อย่างสวิสเซอแลนด์ด้วย

มีคนวิจารณ์ว่า อนค.เอาเรื่อง มิดี ของรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ มาอภิปรายนอกสภาอย่างนี้ ได้ เนื้อหาเต็มที่กว่าอภิปรายในสภา ที่ไหนจะโดนตัวป่วนของรัฐบาลคอยประท้วง แล้วยังจะถูก ประธานฯคอยถึงคอยดึง อีกต่างหาก