เมื่อวานมีมติ ครม.ที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับชาวบ้านเราทุกคน คือ มติที่จะดึงเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน
เดิมเงินสะสมของท้องถิ่น มีกฎหมายกำกับการใช้ที่ค่อนข้างเคร่งครัดและควบคุม จะสามารถเอามาใช้ได้ก็ในกรณีมีเหตุภัยพิบัติฉุกเฉินต้องใช้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน หรือ เป็นเงินสำรองที่ให้สำรองยืมมาใช้จ่ายเบี้ยคนพิการ คนสูงอายุ เวลางบประมาณยังไม่มา แต่ถ้างบประมาณมาก็ต้องเอามาชดใช้เงินสะสมคืน
เงินก้อนนี้จะใช้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
รัฐบาล คสช.เคยออก พรบ.ล้วงเงินสะสมท้องถิ่นมาใช้แล้วรอบหนึ่ง ด้วยข้ออ้างว่า กระตุ้นเศรษฐกิจนี่แหละ รอบนั้นเอาเงินสะสมมาทำโครงการต่างๆไป 150,000 ล้านบาท
ผลการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอย่างไร เราท่านก็คงเห็นกันอยู่
ส่วนรอบนี้เงินสะสมของท้องถิ่นทั้งประเทศตอนนี้มีอยู่ราวๆ 6 แสนล้านบาท ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลนี้จะเอาไปกระตุ้นการลงทุนแบบไหน และให้ใครเป็นคนใช้เงินเพื่อกระตุ้นการลงทุน
เงินนี้เป็นเงินที่ท้องถิ่นบริหารเงินทั้งจากงบประมาณ ทั้งจากรายได้ของท้องถิ่นที่เก็บจากชาวบ้านในแต่ละท้องถิ่น ทั้งจากภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีหอพัก ภาษีบำรุงท้องที่ ท้องถิ่นบริหารแล้วเหลือเก็บสะสม มันเป็นเงินของท้องถิ่น เป็นเงินของชาวบ้านในแต่ละท้องที่ คนที่ใช้เงินก็ควรเป็นแต่ละท้องถิ่นเอง
ถ้าจะปลดล็อคให้ใช้ก็ควรให้ท้องถิ่นเป็นคนใช้ ไม่ใช่ให้ส่วนกลางแบบมหาดไทยมาล้วงไปแล้วอ้างว่า ไปกระตุ้นการลงทุน แล้วไปจ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนทิ้งก้อนกรวดลงทะเลเหมือนคราวก่อนที่ล้วงใช้ไปแล้วแสนห้าหมื่นล้าน
และถ้ามีมติ ครม.จะล้วงเงินอีกแบบนี้ ครม.ที่ถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ แน่ใจได้อย่างไรว่า มติ ครม.จะไม่เป็นโมฆะ และถ้า อปท.ใดไม่เห็นด้วย ไม่ทำตาม แล้วร้องศาลรัฐธรรมนูญ ร้องศาลปกครองขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้นตามมา
ไม่ได้ชี้ช่องให้ อปท.แต่บอกว่า ควรร้องแบบตรงๆไปเลย
Thuethan Prasobchoke