เกือบร้อยปีที่ผ่านมา
เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
ให้เป็นสังคมประชาธิปไตย
เปลี่ยนโครงสร้าง เปลี่ยนรูปแบบ
เปลี่ยนระบอบการปกครอง
โดยสร้างขึ้นเป็นกฎหมายสูงสุดที่เรียกว่ารัฐธรรมนูญ
เพื่อจะก้าวไปสู่
"ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
ทั้งนี้ เราละเลย ข้ามผ่าน ปัจจัยสำคัญที่จะต้องปรับเปลี่ยนตาม
ได้แก่ รูปการจิตสำนึก ด้านลึกของจิตใจ
ซึ่งถูกปลูกฝัง หล่อหลอม ครอบงำผ่านระบบการศึกษา
กล่าวอย่างง่ายๆก็คือ เราไม่มีวัฒนธรรมที่เป็นประชาธิปไตย
เมื่อฝ่ายประชาธิปไตยได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ชนะเข้าไปเป็นรัฐบาล
ก็ไม่ได้รื้อถอนรากเหง้าวัฒนธรรมดั้งเดิมแต่อย่างใด
มันจึงเป็นความย้อนแย้งสวนทาง
ระหว่าง วัฒนธรรมประชาธิปไตย
กับวัฒนธรรมอภิสิทธิ์ชนระบอบเก่า
วัฒนธรรมเป็นเรื่องของจิตใจ ความเชื่อถือศรัทธาที่ฝังลึก
เมื่อบวกเข้ากับ ขนบ ธรรมเนียม ประเพณีอันหลากหลาย
ที่ถูกเหมาชูว่าเป็นไทย
อาการป่วยของสังคมก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
เกือบร้อยปีที่ผ่านมา
วัฒนธรรมไทยจึงเป็นวัฒนธรรมของคนชั้นสูง
ที่หลอกลวงให้คนคนชั้นล่าง
ยอมรับในชะตากรรมของตนเอง
ในจีนจึงเคยมีการปฏิวัติวัฒนธรรมอย่างรุนแรงเกิดขึ้น
ส่วนของเรากระทรวงวัฒนธรรมรับใช้ใครก็เห็นกันอยู่
ไม่ปฏิรูป ไม่ปฏิวัติวัฒนธรรม ประชาธิปไตยคงไปไม่ถึงฝั่ง
Visa Khanthap