วันอังคาร, สิงหาคม 27, 2562

ยุบไพบูลย์-ยุบอนาคตใหม่ วิชามารแยบยลไปถึงไหน "ฮ่องกงไหมน้อ"


“เราเชื่อว่ามันคิดอย่างนั้น” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทยอ่านเกมการเมือง วิชามารของ คสช.๒ ต่อกรณีที่ กกต.ตัดสินให้พรรคประชาชนปฏิรูป สิ้นสภาพ ตามที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน ต้องการย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐ

กกต.อ้าง พรป.พรรคการเมืองมาตรา ๙๑(๗) ว่าวรรคสุดท้ายระบุ “ให้ถือว่าการสิ้นสภาพของพรรคการเมืองตามมาตรานี้ เป็นการถูกยุบพรรคการเมือง เท่ากับว่านายไพบูลย์จะยังคงสภาพความเป็น ส.ส.อยู่ และต้องดำเนินการหาพรรคใหม่ภายใน ๖๐ วัน นับตั้งแต่วันที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา”

 
ทว่า การจะหาพรรคใหม่ของไพบูลย์จะไม่ได้อย่างใจของตน หาก กกต.เดินตามเกณฑ์ของกฎหมายตามที่อดีต กกต.สมชัย ศรีสุทธิยากร อ่านไว้ เนื่องจากไพบูลย์เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเลือกพรรคตามใจตัวไม่ได้

ทำความเข้าใจหลักเกณฑ์นี้ง่ายๆ ได้ว่าเมื่อพรรคยุบไปก็เอาคะแนนไปคำนวณใหม่ว่าพรรคไหนควรได้เท่าไร พรรคไหนได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มก็ไปอยู่พรรคนั้น

แต่ว่าเกมนี้มีความแยบยลแฝงเร้นเล่ห์กลบางประการอยู่ ในกระแสที่ฝักฝ่าย คสช.โหมกระหน่ำอย่างหนักทั้งกล่าวหาและหาเรื่อง เพื่อที่จะให้เกิดการยุบพรรคอนาคตใหม่อยู่ขณะนี้ จนทำให้หมอชลน่านฟันธงว่า

ผลลัพท์ไม่ได้อยู่ที่ พปชร.ได้ ส.ส.ไพบูลย์เพิ่มไปหนึ่งคน แต่พรรคต่างๆ ฝ่ายรัฐบาลประยุทธ์ ๒ จะได้ ส.ส.เพิ่มกันระนาว จาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๕๐ คนของพรรคอนาคตใหม่ โดยที่เพื่อไทยไม่มีสิทธิได้อยู่แล้วเพราะมี ส.ส.เขตเกินเกณฑ์ได้บัญชีรายชื่อแต่แรก

มาฟังคำอธิบายของ นพ.ชลน่าน ในรายละเอียดเล็กน้อย เขาว่าถ้าอ่านตามการวิเคราะห์ของสมชัย “เมื่อพรรคยุบ กรรมการบริหารพรรคหมด สมาชิกพรรคก็หมด ทุกอย่างถือเป็นศูนย์ ฉะนั้นคะแนน ๔ หมื่น ๕ ที่ (พรรค ปชช.) ได้มา กลายเป็นศูนย์

ฐานคะแนนเดิมที่คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้ ต้องคำนวณใหม่...ตัวเลขไปตกอยู่พรรคไหน ไพบูลย์ต้องย้ายไปอยู่พรรคนั้น เพราะตนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่งั้นจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเกิน เพราะมีได้แค่ ๑๕๐”

เหตุนี้หมอชลน่านบอกว่า “เป็นห่วงพรรคข้างบ้าน มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๕๐ คน ถ้าเกิดมันเล่นไม้นี้ ศาลตัดสินให้ไพบูลย์ย้ายได้ ก็ไปตามที่คำนวณใหม่” พรรคอนาคตใหม่ก็เช่นกัน “หากเกิดยุบปั้งขึ้นมา หนึ่ง ส.ส.เขตพรรคข้างบ้านเรา จะไปอยู่พรรคที่เขาเลือกไว้เองได้ เพราะเขตย้ายได้เลย”

แต่บัญชีรายชื่อ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่จะถูกลบคะแนน ๖ ล้าน ๔ หมื่นออกไป “แจก ส.ส.บัญชีรายชื่อตามที่คำนวณใหม่ เอาง่ายๆ ๑.๕ คูณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคที่มีอยู่...อย่างเสรีรวมไทยมี ๒๐ คน ก็จะได้เพิ่มขึ้นมาอีกราว ๑๕ คน”

เช่นนั้น “๕๐ คนของอนาคตใหม่ก็จะกระจายไปอยู่ตาม พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย เศรษฐกิจใหม่ เราคิดว่ามันคิดอย่างนั้น รวบเอา ส.ส.อนาคตใหม่ไปอยู่ซีกรัฐบาลอย่างน้อย ๔๐ คน”

 
จะแยบยลหรือเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่ฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจ คสช.ต้องจับจ้องอย่างตาไม่กระพริบ โดยเฉพาะทางพรรคอนาคตใหม่ ซึ่ง ณ เวลานี้ในความเห็นของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค

ยอมรับว่ามีเสียงพูดกันหนาหูมาก แม้ในฟากฝั่งฝ่ายค้านเอง “ว่าเราถูกยุบแน่” แต่ “ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่มีคดี อิลลูมินาติ คดีเดียวที่ถูกร้องไปศาลรัฐธรรมนูญ และคดีนี้ก็ไม่มีบทให้ยุบพรรคด้วย” ตัวเขาเชื่อมั่นว่าจะไม่ถูกยุบพรรค

“ในทางกฎหมายก็สู้เต็มที่ แต่ ปากกาไม่ได้อยู่ที่เรา เราไม่ใช่คนตัดสิน”

ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีการเล่นแร่แปรธาตุไปถึงไหน ถึงฮ่องกงไหมน้อ

..................................

Updates 8/28/19

ปิยบุตรชี้แจงเพิ่มเติมกรณี นพ.ชลน่าน วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ




“ถ้าข่าวนี้ออกมาจากพรรคพปชร. สมาชิกก็คงไม่กังวล พอออกจากพรรคเพื่อนบ้าน สมาชิกพรรคผมก็เกิดเสียความเชื่อมั่น มีความหวั่นไหวเพิ่มขึ้น และผมก็ต้องแก้ปัญหาทั้งวัน” ตรงนี้พูดได้ดีอ่ะ “ถ้าเป็นผมจะเดินไปบอกโดยตรงที่พรรค ไม่ใช่การแถลงข่าว” #ปิยบุตร #อนาคตใหม่ #เพื่อไทย

https://twitter.com/FightInProcess/status/1166311801429979137



อย่างไรก็ดี เมื่อบ่ายวันที่ ๒๗ ส.ค. พรรคเพื่อไทยได้แถลงข่าว 'ขอโทษ' ต่อพรรคอนาคตใหม่ นพ.ชลน่านกล่าวในตอนหนึ่งว่า

"ผมในฐานะที่เป็นคนพูดวันนั้นต้องกราบขออภัยจริงๆ ที่ทำให้เกิดความหวั่นไหว แต่ยืนยันว่า สิ่งที่ผมพูดไปเกิดจากความหวังดี ไม่อยากให้พรรคอนค. ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมอุดมการณ์กับเราถูกทำลายด้วยอภินิหารของกฎหมาย"

รายละเอียดทั้งหมด ดูได้ที่ https://www.matichon.co.th/politics/news_1644247