วันอังคาร, สิงหาคม 20, 2562

มีเพจ ผุดกิจกรรมไม่ยืนเพลงสรรเสริญหลังโซเชียลแชร์กรณีเมเจอร์สั่ง พนง. เชิญคนไม่ยืนออกจากโรงก่อน โดยนัดหมายทำกิจกรรมในวันที่ 31 ส.ค. 2562 แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กิจกรรมดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นจริงหรือไม่





ผุดกิจกรรมไม่ยืนเพลงสรรเสริญหลังโซเชียลแชร์กรณีเมเจอร์สั่ง พนง. เชิญคนไม่ยืนออกจากโรงก่อน

2019-08-19
ประชาไท


แฟนเพจนักการมีมตั้งกิจกรรมไม่ยืนในโรงหนัง หลังเพจศาสนวิทยาฯ เปิดเรื่องแอดมินเพจเมเจอร์ออกมาตรการเชิญคนไม่ยืนช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมีออกจากโรงหนังก่อน ด้านผู้จัดการสาขาแจงเป็นการชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่งเรื่องให้สำนักงานใหญ่แล้ว ประชาไทเปิดเคสไม่ยืนเพลงสรรเสริญพระบารมีในประวัติศาสตร์พบ 2 รายถูกพิพากษาจำคุกเพราะมีการพูดจาและแสดงกริยาส่อถึงความไม่เคารพ ส่วน 1 เคสนั่งเฉยๆ ช่วงเพลงสรรเสริญ อัยการไม่ส่งฟ้อง


19 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานว่า เฟสบุ๊คแฟนเพจ นักการมีม ได้ตั้งกิจกรรมในเฟสบุ๊ค ชื่อว่า Not Stand at Major Cineplex โดยนัดหมายทำกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 31 ส.ค. 2562 เวลา 10.00 น. ที่โรงหนังเมเจอร์ สยามพารากอน อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า กิจกรรมดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นจริงหรือไม่

สำหรับกิจกรรมนี้ เกิดขึ้นหลังจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat เปิดเผยว่าทาง เมเจอร์มีมาตรการให้พนักงานตรวจเช็คผู้ใช้บริการในช่วงเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนหนังฉาย หากพบว่ามีบุคคลที่ไม่ประสงค์ที่จะยืน จะขอให้ออกจากโรงหนังก่อน แล้วค่อยกลับเข้ามานั่งใหม่ในช่วงที่หนังเริ่มฉาย โดยมีการระบุว่า ยึดตามหลักกฎหมาย

และต่อมามีการเปิดเผยด้วยว่า กาญจนา ผู้จัดการโรงหนังเมเจอร์ สาขาเซ็นทรัลเชียงราย ซึ่งระบุว่ามีการชี้แจงข้อมูลที่บิดเบือนจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอให้ทางเพจศาสนวิทยาฯ ลบโพสต์ก่อนหน้านี้ออก เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมชี้แจงว่าได้ประสานงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานใหญ่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามเวลานี้ 19.00 น. ยังไม่มีการชี้แจงจากทางเมเจอร์ว่า ข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างไร และผู้สื่อข่าวประชาไทได้ติดต่อสอบถามไปยังเพจ Major Group แล้วทั้งขอตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดต่อผู้มีอำนาจในการตอบคำถาม แต่ยังไม่การตอบกลับแต่อย่างใด


อัยการแจงเหตุไม่ฟ้อง ‘โชติศักดิ์’ ไม่ยืนในโรงหนัง ไม่เข้าข่าย “อาฆาตมาดร้าย”

เปิดแฟ้ม 3 คดี ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี และอื่นๆ


ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยไม่แสดงท่าทีหรือพูดจาหยาบคาย อัยการไม่ส่งฟ้อง

สำหรับเรื่องราวของการไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น เคยมีผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วอย่างน้อย 3 ราย โดยศาลพิพากษาลงโทษ 2 ราย และ อัยการไม่ส่งฟ้อง 1 ราย

กรณีแรกเกิดขึ้นในปี 2521 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับ อนุชิต (สงวนนามสกุล) นั้นปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2521 อนุชิต ถูกฟ้องมาตรา 112 เนื่องจากขณะเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี จำเลยได้กล่าวถ้อยคำว่า “เฮ้ย เปิดเพลงอะไรโว้ย ฟังไม่รู้เรื่อง” และจำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่น การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

บริบทของคดีนี้ โจทก์ (อัยการ) ฟ้องว่ามีผู้อภิปรายเรื่องเกี่ยวกับการต่อต้านคอมมิวนิสต์และเรื่องการต่อต้านราคาสินค้าที่บริเวณสนามหลวง เมื่อผู้อภิปรายยุติการอภิปรายและเปิดแผ่นเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี ประชาชนยืนตรงแสดงความเคารพพระมหากษัตริย์ จำเลยได้บังอาจกล่าวถ้อยคำดังกล่าวและไม่ยืนตรง เป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และเป็นการแสดงอาการไม่เคารพนบนอมต่อพระมหากษัตริย์ต่อหน้าประชุมชน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ม.112 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

ส่วนศาลฎีกาพิพากษายืนเช่นกัน โดยวินิจฉัยว่า เพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงที่ใช้บรรเลงในการพระราชพิธีหรือพิธีการต่างๆ เพื่อถวายพระเกียรติและถวายความเคารพแด่องค์พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะคดีนี้ประชาชนที่ไปฟังการอภิปรายย่อมเข้าใจว่า เพลงสรรเสริญพระบารมีที่เปิดขึ้นเป็นการถวายความเคารพแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยองค์ปัจจุบัน จึงได้ยืนตรงทุกคน จำเลยเป็นนักเรียนครูวิทยาลัยครูสวนสุนันทา ย่อมต้องรู้และเข้าใจดีกว่าประชาชนธรรมดาสามัญ การที่จำเลยมิได้ยืนตรงเช่นประชาชนคนอื่นในขณะที่เพลงสรรเสริญพระบารมีเปิดขึ้น ทั้งยังบังอาจกล่าวถ้อยคำว่า “เฮ้ย เปิดเพลงอะไรโว้ย ฟังไม่รู้เรื่อง” เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า จำเลยมีเจตนาที่จะดูหมิ่นพระมหากษัตริย์

ต่อมาในปี 2551 รัชพิณ (สงวนนามสกุล) ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษเนื่องจากในวันที่ 15 มิ.ย.51 เวลากลางวัน ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ รัชโยธิน ขณะเมื่อมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ เธอไม่ลุกขึ้นยืนถวายความเคารพ และได้ยกเท้าทั้งสองข้างพาดเก้าอี้ไปทางจอพอภาพยนตร์ พอเพลงจบก็ยังมีการตะโกนถ้อยคำหยาบคายออกมา

วันที่ 19 ต.ค. ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 112 ให้จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดลงกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีการรอลงอาญาไว้ 2 ปีเนื่องจากมีเหตุว่า จำเลยมีประวัติมีอาการทางจิตและเคยผ่านการรักษาจากโรงพยาบาลจิตเวช

ส่วนอีกคดีหนึ่ง เป็นคดีที่เกิดขึ้นกับ โชติศักดิ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2550 โดยเขาไมยื่นเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนัง อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 ก.ค. 2555 วิศิษฐ์ สุขยุคล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ว่า ในการพิจารณาสำนวนของอัยการ เห็นว่าการกระทำของโชติศักดิ์ เพียงแต่ไม่ได้ลุกขึ้นยืนตรงขณะที่มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรง ภาพยนตร์ เพราะการแสดงความอาฆาตมาดร้ายจะต้องมีการกระทำแสดงให้เห็นด้วย เมื่อไม่ปรากฏพฤติการณ์อันจะมีลักษณะความผิด ในฐานแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ จึงถือว่าไม่เข้าข่ายตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้สรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้องให้อัยการ โดยอัยการได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นที่สั่งไม่ฟ้อง ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำความเห็นแล้ว และผบ.ตร. มีความเห็นพ้องกับพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันยุติไม่ฟ้องคดี
ooo