ทำไปทำมาข่าวลวงที่ว่าประยุทธ์รวย ๒,๔๐๐
ล้านนั่น อาจกลายเป็นเฟคนิวส์ที่น่าติดตามไปเสียฉิบ จำไม่ได้ (ขออภัยนะ) ว่าใครตั้งคำถามไว้
ถ้าไม่จริงแล้วจริงๆ ล่ะรวยเท่าไหร่ ตรงนี้แหละน่าคิด ตัวเลขชั่งมัน สำคัญมีการ ‘ซุกกิ๊ก’ อย่างธรรมนัส หรือ ‘หย่าเมียหักหนี้’
อย่างสุทินบ้างไหม
(ประเด็น ‘ซุกกิ๊ก’ กับ ‘หย่าเมีย’
ขอความกรุณาย้อนไปอ่าน ‘ไทยอีนิวส์’ ที่
https://thaienews.blogspot.com/2019/08/blog-post_119.html ไม่อยากเล่าซ้ำยืดยาด)
เพจ tawatnews.com/ เขาบอกว่า “โผล่แล้ว ทรัพย์สินนายกฯ ๕ เดือนพุ่งปรี๊ด ทะลุสองพันล้าน
ยังไม่ทราบที่มา” อ้างว่านั่นได้มาจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช.เป็นรายสุดท้ายของ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดย “นำหลักฐานจำนวน ๔๓ ใบ เป็นโฉนดที่ดินพร้อมทรัพย์สินอื่นๆ
และหลักฐานมายื่นแสดงต่อ ปปช. เมื่อ ๑๒:๐๐ น.
ที่ผ่านมานี้ (ข่าวตีพิมพ์ “AUG232019”) อ้างอีกว่า
ปปช.ตรวจแล้วได้ตัวเลข ๒,๔๐๐ ล้าน มากกว่าเมื่อ ๕ เดือนที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นมีแค่
๑๐๐ ล้าน
ลงละเอียดเข้าไปอีกว่าส่วนเพิ่ม “เป็นโฉนดที่ดินย่านรัชดา
ทองหล่อ และพระราม ๙ มูลค่ามากที่สุดคือ ๙๕ ล้านบาท” แถม “ทรัพย์สินอื่นๆ
จะเป็นพวกประดับประจำตัว แหวน เครื่องราง นาฬิกาหรู Radiomir
Panerai Seiko Patek Philippe”
ไม่รู้นะ ลิ้งค์นี้เขาว่างั้น https://news.tawatnews.com/AN8N3Efvsww
ถ้ามันลวงจริง พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ต้องรีบจัดการปิดซะ ไม่งั้นเสียหน้า
รมว.ฝ่ายปราบเฟคนิวส์
ไหนๆ ก็ผ่านด่านการเป็นอดีต
กปปส.ที่ไม่รวยเกินไปนักมาได้ รวมกับน้องนุสบามีทรัพย์แค่ ๑๙๔ ล้านกว่าๆ
เทียบณัฏฐพลกับทยา ทีปสุวรรณ สองพันกว่าล้านไม่ติด
คนทั้งหลายเชื่อว่าข่าวนั้นต้องเฟคนิวส์แน่ๆ
เพราะประยุทธ์และทีม ‘หน้าเก่า’ รัฐมนตรี คสช. ได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช.
ด้วยการตีความกฎหมายปราบคอรัปชั่นใหม่ มาตรา ๑๐๕ ให้รัฐมนตรี ๗ คนหลุดบ่วงความยุ่งยากที่จะเกิดกับทั้งผู้แจ้งและผู้รับแจ้ง
“สมัยก่อนระยะเวลาเพียง ๑ ปี
เข้าตำแหน่งนี้ออกตำแหน่งนั้น กลายเป็นยื่นบัญชีฯ โดยไม่จำเป็น
หลายบัญชีเป็นภาระทั้งผู้ยื่น เป็นภาระทั้งผู้ตรวจ” เลขาฯ ปปช. วรวิทย์ สุขบุญ อ้างไว้เมื่อปลายกรกฎาคมที่ผ่านมา
ซึ่งตามปกติมีกำหนดภายใน ๑๔ ก.ย.๖๒
เหตุที่ยกเว้นให้ ๗ คน เนื่องเพราะประยุทธ์
ประวิตร วงษ์สุวรรณ อนุพงษ์ เผ่าจินดา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ วิษณุ เครืองาม ดอน
ปรมัตถ์วินัย และชัยชาญ ช้างมงคล ไม่ได้เป็น ส.ส. แม้นว่าวิษณุทำเก๋
ให้สัมภาษณ์เมื่อ ๓๑ ก.ค.ว่า
“ถึงอย่างไรตนก็ยื่นอยู่ดี
ขณะนี้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายใน ๑-๒ วันนี้จะไปยื่นต่อ
ป.ป.ช. และทราบว่า ๖ คนที่เหลือซึ่งอยู่ในข่ายก็พร้อมจะยื่นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ไม่จำเป็นต้องยื่นก็ตาม”
แต่จนบัดนี้ก็ไม่ปรากฏข่าวไม่ ‘เฟค’
ใดๆ ว่าใครบ้างยื่นกันไว้อย่างไร
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_215870 และ https://www.prachachat.net/politics/news-356940)
โดยเฉพาะมีคำถามที่
ปปช.ยังไม่ได้ตอบกรณีที่ประยุทธ์และอีก ๖ รัฐมนตรี สมัครใจยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน
ตามการอ้างของประยุทธ์เองที่ว่า “ถ้ายื่นไว้ก็ดี เป็นหลักฐาน” ซึ่ง ‘ประชาชาติ’ เสริมว่า “โชว์ความโปร่งใส-สร้างบรรทัดฐานธรรมาภิบาล”
แล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ
ถ้าเกิดมีสิ่งผิดปกติในรายการของคนใดคนหนึ่ง
จะมีการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยความผิดในกรณี “ปกปิดทรัพย์สิน-หนี้สิน หรือแสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ”
อยู่หรือไม่ หรือจะให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ รอกันไปจนกว่าจะเลือกตั้งใหม่อีกหน
ความอึมครึมของการบังคับใช้กฎหมายโดย ปปช.
และ/หรือองค์กรอื่นที่อาจเข้ามาเกี่ยวข้อง (ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.) ทำให้ประยุทธ์และ
๖ รัฐมนตรีที่ได้รับยกเว้นไม่แจ้งทรัพย์สิน
ควรที่จะเร่งเปิดเผยความบริสุทธิ์กันเสียก่อน
ขออนุญาตรื้อฟื้นนำประโยคคล้าสสิคที่ประชากรสายสลิ่มชอบใช้กันมา
เดี๋ยวนี้เงียบๆ กันไป มาใช้กระตุ้นต่อมความดีของ ๗ รัฐมนตรี คสช.๒ ตรงนี้หน่อยว่า “ถ้าไม่ผิดแล้วกลัวอะไร”