วันพุธ, สิงหาคม 21, 2562

ตลาดสำเพ็งกำลังจะเปลี่ยนไป ร้านค้าทุนน้อยปิดเพียบ ‘ทุนจีน’ ยึดทำเล ขายสินค้าตัดราคาทั้งออนไลน์-หน้าร้าน





‘สำเพ็ง’ ซบหนัก ร้านค้าทุนน้อยปิดเพียบ ‘ทุนจีน’ ยึดทำเล ขายสินค้าตัดราคาทั้งออนไลน์-หน้าร้าน


โดย WANPEN PUTTANONT
6 กรกฎาคม 2562
Bangkok Insight


หลังจากเกิดกระแสข่าวแพร่บนโลกออนไลน์ว่า ตลาดขายส่งเก่าแก่ อย่าง “สำเพ็ง” เงียบเหงาที่สุดในรอบ 50 ปี โดยเฟซบุ๊ก ร้าน ว.เครื่องประดับ พี่ใหญ่ ด้วยความเป็นย่านการค้าเก่าแก่มีชื่อเสียง มีสินค้าหลากหลาย และได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้าที่มาซื้อสินค้าเพื่อไปขายต่อ ทำให้ข่าวนี้สร้างความตื่นตระหนกว่า ตลาดแห่งนี้จะยังคงอยู่ได้ต่อไปหรือไม่ แล้วภาวะเศรษฐกิจเป็นเหตุผลเดียวจริงหรือที่ทำให้ “สำเพ็ง” ซบเซาหนักขนาดนี้

จากการสอบถามพ่อค้าขายเครื่องหนังรายหนึ่งในตลาดสำเพ็ง เขายอมรับว่า สภาพการค้าในสำเพ็งเงียบเหงาลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ 3-4 ปีที่ผ่านมา และตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน ถือว่าเงียบเหงามากที่สุด ส่งผลให้มีร้านค้าหลายร้านที่ทุนไม่มากพอ ต้องทะยอยปิดตัวไปเพราะสู้ค่าเช่าไม่ไหว โดยค่าเช่าที่สำเพ็งถือว่าสูงมาก หรือหลักแสนบาทต่อเดือน

“ผมยังดีที่มีร้านที่เป็นของตัวเองไม่ต้องเสียค่าเช่า รายได้ที่หายไปตกประมาณ 70% ก็ต้องไปขายออนไลน์ช่วยเพื่อประคองตัว ถึงไม่มีกำไรก็ต้องยอมเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้ แต่ถ้าคนเช่าที่ต้องเสียค่าที่จะอยู่ยาก”

พ่อค้ารายนี้ยังบอกอีกว่า เห็นได้ชัดจากคนเดินเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดสำเพ็งลดลง อย่างลูกค้าที่ร้านพอซื้อของไปขายต่อแล้วขายไม่ออก ก็ไม่มาซื้อเพิ่ม กำลังซื้อลูกค้าก็ลดลง โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันนี้แทบไม่มีคนเดินซื้อสินค้าเลย ทำให้รายใหม่ที่ยังไม่มีลูกค้าเดิมอยู่ยาก แต่สำหรับร้านเก่าแก่ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วก็ยังพออยู่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ แม้จะมีร้านค้าปิดตัวไป แต่ก็มีรายใหม่เข้ามาเช่าต่อ โดยเฉพาะคนจีนที่เข้ามาเช่าหน้าร้านมากขึ้น จนกล่าวได้ว่า ตอนนี้ร้านค้าในสำเพ็งมีคนจีนเข้ามาเช่ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเป็นการเข้ามาเช่าเพื่อนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายในราคาถูก ทั้งหน้าร้านและขายออนไลน์ ยิ่งทำให้พ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่ขายของประเภทเดียวกันอยู่ได้ยากขึ้นไปอีก เพราะขายตัดราคาถูกมาก




ขณะที่แม่ค้าร้านจำหน่ายเคสมือถือ และอุปกรณ์อะไหล่ D.I.Y. เคสมือถือ ในตลาดสำเพ็ง บอกว่า ลูกค้าที่เคยมาเดินซื้อของตลาดสำเพ็งหายไปกว่า 90% จากเดิมวันเสาร์-อาทิตย์ที่เบียดกันแน่น และนอกจากคนจะน้อยลงแล้ว ส่วนใหญ่ยังมาเดินดูแต่ไม่ค่อยซื้อสินค้า ซึ่งปีนี้ถือว่าซบเซาหนักมากที่สุด

“ร้านค้าปิดไปเยอะ เพราะค่าเช่าแพง ขายไปก็ไม่พอค่าเช่า เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องขายต่อไป เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ ที่ไหนก็คงแย่เหมือนๆกัน”

แต่อีกเสียงหนึ่งจากแม่ค้าร้านจำหน่ายหมวกขายส่ง บอกว่า ร้านของตัวเองจะต่างออกไป เพราะยังขายได้ มีลูกค้าซื้อไปขายต่อ ถึงยอดขายจะลดลงไปบ้าง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเข้าสู่หน้าฝนที่ถือเป็นโลว์ซีซั่นที่ยอดขายจะลดลงตั้งแต่เข้าพรรษา แล้วจะกลับมาคึกคักอีกครั้งช่วงเดือนสิงหาคมหรือกันยายน

“ข่าวที่เกิดขึ้นว่าตลาดสำเพ็งเหงาหนัก มีผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดพอสมควร เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่อยากมาเดิน ทั้งที่มันไม่ได้เหงาขนาดนั้น น่าจะอยู่ที่ชนิดของสินค้ากับเป็นเพราะหน้าฝน เราไม่อยากให้คนตระหนกตกใจจนไม่อยากมา พ่อค้าแม่ค้าที่มาซื้อไปขาย ยังไงก็ต้องซื้อเพราะเป็นอาชีพเขา ถ้าขายของชนิดนี้แล้วขายไม่ได้ ก็ต้องซื้อลดลงหรือเปลี่ยนไปขายอย่างอื่นเป็นเรื่องปกติ”แม่ค้ารายนี้กล่าว





ทั้งหมดนี้ สะท้อนได้ว่า ภาพของตลาดสำเพ็งจะเปลี่ยนไปแน่นอน นอกจากจะเงียบเหงาลงที่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือหน้าฝนคนไม่เดินก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พ่อค้าแม่ค้าคนจีนที่ทำท่าจะเข้ามายึดทำเลสำเพ็ง เพื่อใช้ชื่อ สำเพ็งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งค้าส่งขึ้นชื่อ เป็นที่รู้จัก แล้วนำสินค้าจากจีนเข้ามาขายตัดราคา ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ต่อไปจะเหลือพ่อค้าแม่ค้าคนไทยยืนหยัดอยู่ได้มากน้อยขนาดไหน