การเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา ๑๕๒ กรณี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอย่างถูกควรดังบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ประเด็น ‘จงใจ’ ไม่กล่าวคำถวายสัตย์ให้ครบถ้วน
อย่างเดียวไม่พอแล้วสิ
นอกจากดึงดันไม่รับว่าเป็นการผิดพลาด
และแอบอ้างพระราชดำรัส ‘เก่า’
ย้อนหลังว่าทรงให้กำลังใจแล้ว ยังเหลวไหลเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นโล้เป็นพายในการบริหารราชการแผ่นดิน
อย่างเช่นเมื่อพูดถึงภัยแล้ง กลับบอกให้ชาวบ้านขุดบ่อรอไว้
ฝนกำลังจะมา ปุดโถนาโย้ก ถึงแม้ว่าชาวบ้านจะมีปัญญาขุดบ่อเก็บน้ำได้
ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อพายุ ‘โพดุล’ พาฝนมาถล่มนำร่องที่ภาคอีสาน จนจังหวัดร้อยเอ็ดถึงขนาดน้ำท่วมเมือง
ควรแล้วที่มีคนแนะให้พิเคราะห์ข้อเท็จจริง
อย่าสักแต่พูด “ชาวนาชาวไร่จะเอาต้นทุนที่ไหนมาขุดบ่อ” @TL3cDWH1tx6JQ4R ชี้ โดยยกตัวอย่าง “พ่อผาย สร้อยสระกลาง
ปราชญ์ชาวบ้านผู้ขยันเหนือมนุษย์ ใช้จอบเล่มเดียวขุดคนเดียว
ขุดทั้งกลางวันยันกลางคืน” ต้องใช้เวลา ๘ เดือนจึงจะได้บ่อน้ำเพื่อการเกษตรมา ๑
บ่อ
ครั้นมีเสียงโอดครวญว่าการดำรงชีพฝืดเคือง
แม้แต่ข้าวเหนียวก็ยังขึ้นราคา ประยุทธ์กลับบอกว่าได้สวดมนต์ให้แล้ว
แถมแนะเสริมว่าต้องซื่อสัตย์สุจริต จะเอาอะไรกันนักหนา ดูอย่างนายเรืองฤทธิ์
นำโชคอนันต์ชัย พ่อค้าขายข้าวเหนียวเขี่ยวงูนึ่งที่ตลาดเก๊าจาว ลำปาง
พ่อค้าวัย ๖๐ ปีขายข้าวเหนียวนึ่งยันราคาโลละ
๔๐ บาทเอาไว้ ในขณะที่ร้านอื่นต้องขาย ๕๐-๖๐ บาทกันแล้วทั้งนั้น
จากการที่ราคาข้าวเหนียวถีบขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงปรากฏว่าข้าวเหนียวเขี้ยวงูร้าน ‘ลุงหนวด’ ขายดิบขายดีจนเป็นข่าว
แต่แล้ว “มีชาย ๓-๔ คน มาพบ แล้วบอกว่า
เป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพากรพื้นที่ลำปาง เข้ามาจะขอเก็บภาษีย้อนหลัง ๔ ปี
และภาษีป้าย” เสียอีก กรรมของคนทำมาหากิน ไหนจะเจอราคาก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าที่
ซึ่งเป็นต้นทุนเสริมเข้าไป
เสร็จแล้วทางการของรัฐบาล คสช.๒ ว่าไง อธิบดีกรมการค้าภายในให้รอเดือนหน้าเมื่อผลผลิตใหม่ออกตลาด
ยังไม่เห็นอะไรอื่นผิดปกติ ถ้าแบกราคาไม่ไหว “แนะนำให้เลี่ยงข้าวเหนียวและหันมาใช้ข้าวเจ้าแทนไปก่อนในช่วงนี้”
(https://workpointnews.com/2019/08/29/sticky-rice-4/ และ https://www.matichon.co.th/region/news_1647039)
ตรงนี้จึงอยากเสนอฝ่ายค้านว่าไหนๆ
จะได้เปิดอภิปรายทั่วไปนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจแล้ว
น่าจะว่าถึงการบริหารงานแบบถ่มถากขากถุยของประยุทธ์
อย่าได้เอาแต่พูดอวดโอ้สั่งสอนประชาชนจนเคยตัว
ชี้ให้ส่องกระจกดูตนว่า ตลอด ๕
ปีที่เขาเป็นนายกฯ สมัยแรกจากการยึดอำนาจมานั้น ก็มักใช้การพูดแบบนี้เพื่อกลบเกลื่อนผลงานที่ไม่มี
มาคราวนี้พยายามจะอ้างว่าตั้งรัฐบาลโดยผ่านการเลือกตั้ง
ทั้งที่เต็มไปด้วยผลแห่งกลโกงและการดูด
ถึงอย่างนั้นการอ้าง ‘เลือกตั้ง’ ก็ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตอบข้อซักถามในการอภิปรายของฝ่ายค้านอีกต่อไปได้นาน
ประธานสภาผู้แทนฯ แจ้งแล้วว่า “จะต้องมีการอภิปรายก่อนปิดสมัยประชุมรัฐสภาหรือก่อนวันที่ ๑๘ กันยายน”
นายชวน หลีกภัย กล่าวถึงความคืบหน้าในการกำหนดวันอภิปรายทั่วไปว่า
“สภาก็มีความพร้อมแล้ว
แต่รัฐบาลในฐานะที่มีหน้าที่ต้องมาชี้แจงก็ต้องให้เกียรติกัน
โดยขอให้รัฐบาลแจ้งวันมา...ทุกเรื่องต่อจากนี้ไปรัฐบาลจะต้องมาตอบ”
ที่ผ่านมามีการตั้งกระทู้สด
แต่ประยุทธ์อ้างติดโน่นติดนี่ไม่ยอมไปตอบ จึงได้มีการตัดกระทู้ออกไปเพื่อให้กระทู้อื่นได้มีการอภิปรายไม่ต้องเสียเวลารอ
“ต่อจากนี้ไปสภาจะใช้วิธีการประสานงานไป
และรัฐบาลต้องส่งตัวแทนมาตอบกระทู้...หากนายกฯ
ไม่สามารถมาตอบด้วยตัวเอง แต่ในกรณีเปิดอภิปรายตามญัตติของฝ่ายค้าน เชื่อว่านายกฯ จะต้องมา
เพราะนี่เป็นวิถีทางประชาธิปไตย ทุกคนต้องมาทำหน้าที่ของตัวเอง”
แหม่ ทั่นประธานฯ ก็ ถ้านายกฯ เค้าคิดเป็น
คิดได้อย่างนั้นก็ดีสิ บ้านเมืองจะได้ก้าวหน้าทันสิงคโปร์ มาเลย์ เวียตนามเสียที
ไม่ต้องเร่งสงวนอาชีพขอทาน จัดสอบคัดเลือกรับบัตรวณิพกกันเหมือนที่ชัยภูมิกำลังทำ