ผมเชื่อและพูดมาตลอดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกมือสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจ
ถ้าเป็นจริงเงื่อนไขเรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะไม่มีทางได้รับการตอบสนองในสาระสำคัญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่มอำนาจฝ่ายอนุรักษ์นิยม เพื่อทำให้การเมืองในระบบไม่มีเสถียรภาพ สภาเป็นเบี้ยหัวแตก เกิดความขัดแย้ง รัฐบาลเลือกตั้งติดกับดักแก้ปัญหาประเทศไม่ได้
วิถีอำนาจแบบคสช.ไม่สามารถเข้มแข็งไปกว่านี้ เพราะขัดกับพัฒนาการที่เป็นจริงของสังคม การดำรงอยู่จึงต้องทำให้วิถีเลือกตั้งอ่อนแอ ไร้ความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชน
เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจ ประชาธิปัตย์จะเอาพลังที่ไหนไปกำหนดให้พลังประชารัฐซึ่งเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดลงมือแก้ เงื่อนไขนี้จึงเป็นเพียงจารึกบนผืนทรายที่หาคนรับผิดชอบไม่ได้
กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญที่คาดหวังได้จริงต้องอาศัยพลังของประชาชนทุกฝ่ายที่เห็นความจริง และยอมรับร่วมกันว่าปล่อยให้บ้านเมืองเดินไปแบบนี้ไม่ได้ ผลักดันให้รัฐสภาดำเนินการ
เราจะไม่พูดถึงการแก้เป็นบางเรื่องบางมาตรา เพราะทั้งฉบับมีความเชื่อมโยงสอดรับกัน เหมือนที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ หรือนายไพบูลย์ นิติตะวัน เริ่มออกมาอ้างว่าแม้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็มีช่องกฏหมายให้ไปต่อได้
ต้องคิดถึงการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใต้ช่องทางที่กฎหมายเปิดไว้ ถึงจะยากมาก แต่ถ้าให้เชื่อว่าประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐจะริเริ่มเรื่องนี้ ผมขอตั้งความหวังไว้กับประชาชนและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยดีกว่า
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
