พอชักจะไม่ได้อย่างใจก็ออกลาย ‘ฉุน’ อีก
คนอย่างนี้เหมาะหรือที่จะให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกเล่า เก่งจริงก็ไปอย่าง
อ้างพูดมาแล้ว ๕ ปี แต่หาสาระไม่ได้
ซ้ำพูดแล้วไม่ทำถ้าไม่ใช่ได้ประโยชน์แก่ตนและพวกพ้อง
ประยุทธ์ตอบนักข่าวด้วยน้ำเสียงดุดันเมื่อถูกถามว่าวันที่
๕ นี้จะไปแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมร่วมสองสภาหรือไม่ “แสดงมา ๕ ปีแล้วยังไม่พออีกหรือ” ลุงตู๊บของสองอี๊ ‘มอลลี่และสินจัย’ บอกให้ไปอ่านกฎหมายเอาเอง
เพราะเป็นเรื่องของสภา ตนไม่เกี่ยว
“คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย
ซึ่งการแสดงวิสัยทัศน์สามารถทำได้” ตอบตามสไตล์ ‘รอรับรายงาน’ ของทั่นประธานสภามือเก่าคนใหม่ แต่ก็จะเปิดให้
ส.ส.อภิปรายกันอย่างเต็มที่ก่อนที่จะมีการลงคะแนนโหวตตัวนายกฯ
“ไม่เป็นไร ใช้เวลาได้อย่างเต็มที่
ไม่มีลิมิตจะใช้เวลากี่วันก็ได้” ชวน หลีกภัย ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีจะมีสมาชิกสภาจ่อถกกันในเรื่องที่มาของ
สว.อย่างไม่ยั้ง แต่กระนั้นรูปการณ์วันที่ ๕ น่าจะเป็นอย่างที่ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ทำนาย
“เชื่อว่า พปชร.จะเสนอชื่อประยุทธ์ไปก่อน
บวกกับเสียง สว.๒๕๐ คน แล้วใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นอำนาจต่อรอง”
ซึ่งก็ยังยืนกรานยึดกระทรวงเกรดเอไว้ โดยให้พรรคร่วม ‘กินน้ำใต้ศอก’ กันไป “เพราะพวกเขาเชื่อว่าถึงตอนนั้น
บรรดาพรรคอื่น ๆ จะต้องตาลีตาเหลือกแย่งกันวิ่งเข้ามา” เองแหละ
มันสอดคล้องกับข่าวที่ว่าเพราะมีการต่อรอง
แย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกันวุ่นวาย ทั้งในส่วนของพรรคร่วมและมุ้งต่างๆ
ภายในพลังประชารัฐ (ดูดเอามาร้อยพ่อพันแม่ก็อย่างนี้ จะบ่นอะไร) สองหัวโจก คสช.
เฮียตือกับลุงตู๊บได้เข้าไปกระชับพื้นที่เป็นผู้คัดตัวรัฐมนตรีเอง
แผนงานตอนนี้ที่
คสช.สั่งมาให้จัดการโหวตนายกรัฐมนตรีไปก่อน ก่อให้เกิดอาการ ไม่สุรบถ (ปลื้ม)
เหมือนชื่อผู้ช่วยประธานสภา ในหมู่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่บ่งชัดว่าแตกเป็นสองเสี่ยง
พวกงูเห่า กปปส. รวมทั้ง ‘อี๊ติ่ง’ มัลลิกา บุญมีตระกูล
ช่วยกันดันสุดๆ “ร่วมรัฐบาลกับลุงค่ะ !! ไม่มีอย่างอื่นประเทศต้องเดินหน้า นายกฯ มาจากรัฐธรรมนูญ
ประชาธิปัตย์ก็นักเลงพอ คบได้ใจถึง”
ส่วน ‘อี๊นก’ สินจัย
เปล่งพานิช กำลังวุ่นอยู่กับ “สติค่ะสติ” หลังจากโดนโซเชียลถล่มที่ไปพูดปราศรัยในรายการ
The Face Thailand
ที่สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยของยูเอ็นจัดระดมทุน เลยไม่มีเวลาย้ำวาทกรรมซ่าหลิ่ม “ไปให้สุดแล้วหยุดที่ลุงตู่”
อีก
(https://www.voicetv.co.th/read/_ygXpcnnsio,
https://www.posttoday.com/politic/news/590996 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/1583076gXkdBYI9ChE)
ด้าน ปชป.ซีกที่ไม่พอใจ ดีลแบบเอาเปรียบของ
พปชร. เนื่องจาก “เงื่อนไขต่างๆ ที่ไปเจรจามา แต่คนที่มาคุยไม่ได้มีอำนาจเต็ม
จึงทำให้มีปัญหา มีการเปลี่ยนแปลง” ดังที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
หัวหน้าพรรคแจ้งกับกรรมการบริหาร
ทางเป็นไปได้ในการโหวตวันที่ ๕ “เมื่อพรรคพลังประชารัฐ
ยังไม่มีคำตอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนี้ในการโหวตเลือกนายกฯ
นั้นก็อาจจะโหวตงดออกเสียง” ทั้งเตรียมการรอรับการแหกมติพรรคของกลุ่มงูเห่าด้วย
การนี้ สาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคพูดชัดว่าจะจัดการกับกลุ่มงูเห่าอย่างไร
“หากมีผู้ไม่เคารพมติพรรคก็จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับต่อไป
ดังนั้นจึงตอบไม่ได้ว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่” ต้องรอมติที่ประชุมวันที่ ๔
มิถุนา
“ช่วงแรกเสียงส่วนใหญ่อยากให้ร่วมรัฐบาล
แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่าไม่ต้องการร่วมมากกว่า” การที่ ปชป.จะยอมเป็น ‘ฝ่ายค้านอิสระ’ ตามแรงกดดันของกลุ่ม
‘นิวเด็ม’ ยังเป็นไปได้เช่นกัน
เหตุผลของฟากที่อาจจะไม่เอาประยุทธ์ ง่ายๆ
สั้นๆ ดังคำของ เทพไท เสนพงศ์ ที่ว่าถ้าให้ ‘ไอทู้บ’ อยู่ต่ออีก ๔ ปีละก็ “มีแจกบัตรขอทานแน่” ส.ส.นครศรีธรรมราช
บ่นว่าสถานการณ์ขณะนี้ ปชป.ตกอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
เขาแนะให้ ปชป.ใช้ทางออก ‘ขั้วที่สาม’ ในการตั้งรัฐบาล โดยเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี “ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ
รัฐบาลคนกลาง หรือรัฐบาลที่ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ โดยมีฝ่ายค้านเป็นพรรคเพื่อไทย”
(https://www.dailynews.co.th/politics/712736, https://www.khaosod.co.th/politics/news_2578430 และ https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_198697)
เช่นนี้การดึงดันตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยของประยุทธ์
ตั้งได้ แต่อยู่ไม่นานแน่ ด่านแรกเจอ พรบ.งบประมาณรายจ่ายปี ๖๓ เข้าต้องยุ่งแน่
จะสังเกตุได้ว่าช่วงหัวต่อระยะสั้นๆ นี่รัฐบาล คสช.เร่งอนุมัติจ่ายเงินโครงการเอื้อลิ่วล้อและเจ้าสัวอย่างรัวๆ
วิเคราะห์กันว่า “หากฝั่งรัฐบาลเสียท่า
เสียงไม่พอผ่านร่างกฎหมายการเงินฉบับนี้ นายกฯ ต้องรับผิดชอบด้วยการ ‘ลาออก’ หรือ ‘ยุบสภา’ แต่ดูแล้วหวยน่าจะออก ‘ยุบสภา’
แล้วเลือกตั้งใหม่มากกว่า” ดังนั้นจึงมีเตรียมการ “แต่งตัวรอยุบสภา เลือกตั้งใหม่”
กันแล้ว
พรรค ทษช. ที่ไม่ได้สอบตกอย่างใด แต่ ‘ตกสวรรค์’ ถูกหักขาตั้งแต่ยังไม่ทันลงแข่ง
ยังมีนักการเมือง ‘น้ำดี’ ที่ไม่ถูกตัดสิทธิเหลืออยู่หลายคนหลังเหตุพลิกผัน
๘ กุมภา ๖๒ แหล่งข่าววงในของ ‘มติชน’ แย้มว่าจะมีการจดจัดตั้งพรรคใหม่เป็นนกฟีนิกซ์คืนชีพ
ชูนักการเมืองสายประชาธิปไตยอย่าง จาตุรนต์
ฉายแสง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และประภัสร์ จงสงวน ลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่อาจจะมาเร็ววัน
ภายใต้ชื่อใหม่แบบไม่ลับลวงพรางว่า
‘พรรควิสัยทัศน์ใหม่’ เหมาะเจาะพอดีกับสิ่งที่เผด็จการประยุทธ์ไม่อยากแสดง
