‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’ ประชาธิปัตย์ร่วมสืบทอดอำนาจ คสช. ตั้งรัฐบาลพลังประชารัฐ

ตานี้แฟนคลับประชาธิปัตย์มั่นใจยิ่งๆ ขึ้นไปอีกแล้วว่า อยู่พรรคนี้อย่างไรเสีย ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’ เก่งวาทกรรม แต่ทำอีกอย่างเสมอ

ไม่ใช่ว่าก๊วนงูเห่า กปปส. ๒๗ ส.ส. แข็งกว่าเท่านั้นนะ หลังจาก อิสระ สมชัย หัวหน้าทีมงูเห่า กปปส. เอาจริงว่าจะ “ลั่นต่อให้พรรคมีมติไม่หนุนประยุทธ์ก็จะยกพลไปร่วมรัฐบาลแน่ๆ ชี้การที่ชวนได้เป็นประธานสภาคือสาเหตุที่ประชาธิปัตย์ต้องสนับสนุนรัฐบาล”

 

ทว่าแก่นกลางของพรรค ๖๑ เสียงท่วมท้น นั่นต่างหากที่ติดมั่นกับดีลมากกว่าหลักอุดมการณ์ “มติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเสียงข้างมาก ๖๑ ต่อ ๑๖ เสียง งดออกเสียง ๒ เสียง บัตรเสีย ๑ ใบ

ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)” ข่าวอิศราบ่งถึงความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เท่ากับว่าขณะนี้จะได้รัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช. ๒๕๔ เสียงในสภาผู้แทนราษฎร

ที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า “ทำให้ประเทศมีรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร” และ “และให้สภาพการเมืองในขณะนี้ หลุดพ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งการมีรัฐบาลจะเป็นการปิดสวิตซ์ สว. และหยุดอำนาจ คสช.”

(https://www.dailynews.co.th/politics/712944 และ https://www.isranews.org/isranews-scoop/77192-infographicc-77192.html)

อ๊ะ อย่าเพิ่งงงๆ กับวาทกรรมแบบ ปชป. นี้นะ ที่ว่าการตัดสินใจร่วมมือกับการสืบทอดอำนาจ คสช. เป้นการหยุดอำนาจ คสช.ได้อย่างไร ต้องใช้ตรรกะศรีธนญชัยเข้าขย่ม แบบว่า “ถ้าสู้เขาไม่ได้ ก็เข้าไปร่วมมันซะเลย” ถึงจะต้องกินน้ำใต้ศอกสักหน่อยก็เอา

ในเมื่อ หลังจากต่อกันรองกันมาจนขนลุกขนชัน ปชป.อยากได้ศึกษาฯ กับมหาดไทย แต่ คสช.และ พปชร.ไม่ยอมปล่อย ไหนจะพี่ๆ ที่ร่วมกันยึดอำนาจมา ไหนจะลิ่วล้อนักกลุ่มก๊วนการเมืองที่ดูดไว้ ออดอ้อนกันกระจองอแง

ลงเอย ปชป. ได้แค่ คสช.ยอมรับนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ก็เอาวะ แถมยังมี “คำมั่นว่าจะนำนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ไปบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล” อีกด้วยละ ส่วนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกันรายได้เกษตรกร

และ “ถ้ามีการทำผิดเงื่อนไข พรรคประชาธิปัตย์ขอสงวนสิทธิ์ที่จะถอนตัวในการเข้าร่วมรัฐบาล” ในภายหลังนั่นประเด็นย่อย อยู่กันนานไปแล้วก็รักกันเอง ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรครบยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีเลยเชียว

อนาคตเฉิดฉายอย่างนั้น ๑๖ เสียงฝ่ายที่แพ้โหวตก็คงจะไม่เศร้าสร้อยอะไร ดูแต่ตัวเอ้ตัวเอกที่ประกาศไว้ตอนแรกว่าไม่เอาประยุทธ์ นี่พอมติออกมาให้เอากับประยุทธ์ นักข่าวถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

อย่างนี้จะต้องลาออกจากพรรคไหม เขาตอบ “สั้นๆ ว่า ‘ออกได้ไงละครับ’ พร้อมหัวเราะ” (@Thairath_News) มิใยที่จะมีเสียงขึ้งโกรธอยู่ประปราย 'วรา จันทร์มณี' ผู้ชนะเลิศการประกวดคำขวัญ ๕๐ ปี พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี ๒๕๓๘ ยื่นจดหมายเปิดผนึก

เพื่อเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ คสช. หากพรรคฯ ตระบัดสัตย์ จะนำโล่และเงินรางวัลกลับมาคืน” ไม่เป็นไร คืนมาก็เอาไปให้คนอื่นได้ มั้ง

ทางด้านฝ่ายที่หัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมให้ คสช.สืบทอดอำนาจ ๗ พรรคสัตยาบัน ดูยังมั่นคงกับการแข่งขันจนนาฑีสุดท้าย ด้วย ๒๔๖ เสียงแข็งขัน เพราะถึงอย่างไรก็รัฐบาลปริ่มน้ำอยู่ดี ยิ่งถ้าหักออก ๓ ที่นั่งอย่างที่ ‘Thaikorn Polsuwan‏ @Thaikorn1’ อ้าง ยิ่งปริ่มเข้าไปใหญ่

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงประกาศจะไปแสดงวิสัยทัศน์พร้อมรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในประชุมร่วมสองสภาวันนี้ คงได้อภิปรายกันมันหยดให้รู้กันไปว่าใครจริงใจ ใคร ‘ดีแต่พูด’

 

ขณะเดียวกันพรรคอนาคตใหม่ของเขาก็เดินหน้าต่อสู่เพื่อสิทธิและความเที่ยงธรรมทางกฎหมาย ด้วยการนำหลักฐานยื่นคำร้องให้ทำการสอบสวนกรณีมี ส.ส. ๓๐ คนในพรรคอื่นๆ ที่ถือหุ้นสื่อ อันเป็นความผิดชัดแจ้งกว่าคดีที่ธนาธรโดนรับฟ้อง

“ถามกลับทำไมสั่งห้าม 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' หัวหน้าพรรคฯ เข้าสภาเพียงรายเดียว” (@weeranan)