กลับมาอีกแล้ว การเมืองเข้าลู้ป ‘จองล้าง’ ฝ่ายตรงข้ามด้วยข้อหา ‘ล้มเจ้า’ หลังจากที่สองหญิงลิ่วล้อ คสช. พรทิพย์
โรจนสุนันท์ ส.ว.ตู่ตั้ง และปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ตู่ดูด ออกมาชี้เป้า #อีช่อ สวมชุดไว้ทุกข์ ‘ป๋าเปรม’เข้าสภาสีขาวดำ “เหมือนไม่จงรักภักดี”
ตอนนี้เหล่ากระสือล่าแม่มดกำลังโหมรณรงค์กันห่าใหญ่
ให้ “ปลด พรรณิการ์ วานิช ออกจากการเป็น ส.ส.ด้วยเหตุผล
เธอมีทัศนคติที่เป็นภัยต่อสถาบันฯ” เพจ ‘เชียร์ลุง’ เปิดประเด็นอ้างรัฐธรรมนูญ ๖๐ มาตรา ๒ และ ๖
มีผู้สนับสนุนระดมสาดใส่ไม่ยั้ง ดังเช่น M
Natthawoot Nimprom แนะ “ควรปลดมันออกจากประเทศครับ...มึงมันเกินคำว่าหนักแผ่นดินไปแล้ว
อีรกโลก” โดยมี Niramol Nop ติดติ่งเสริม “ปลดทั้ง ๓ คนค่ะ
รวมพรรคด้วย”
ด้าน มาลัยวรรณ วัฒนสินธุ์
ไปไกลกว่าอีกขั้น “ปลด ถอดถอน จับปรับ ริบทรัพย์ ประหารเจ็ดชั่วโคตร” แล้วยัง “เอาร่างมันโยนให้หมาแทะ”
อีกคนสาดหนัก “พรรคนี้มีทัศนคติเลวร้าย และเป้นอันตรายต่อชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์มากค่ะ” Wichuda Kongnakorn เข้าโหมด
‘ยุบพรรค’
แน่นอน สิ่งที่คนเหล่านั้นขุดมาใส่ความโฆษกพรรคอนาคตใหม่
และก้าวร้าวไปถึงทั้งพรรคเป็นการกล่าวหาอย่างไร้มูล เช่นเดียวกับสิ่งที่ ม.จ.จุลเจิม
ยุคล ได้กระทำมาก่อน แล้วถูกพรรคอนาคตใหม่ฟ้องร้องความผิดในคดีหมิ่นประมาทไว้
ซึ่งทนายของจุลเจิมขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้อง
ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปเป็นวันที่ ๓๐ กรกฎ เวลาบ่ายโมงครึ่ง (https://www.khaosod.co.th/politics/news_2602887 และ https://www.voicetv.co.th/watch/k31v41XMwYDDVA)
ทว่า สิ่งที่มีการขุดขึ้นมากล่าวหา ช่อ
พรรณิการ์ แม้จะแสดงให้เห็นว่าหมิ่นเหม่ แต่ก็สามารถติดลมบนได้รวดเร็วด้วยกระแสโหมกันอย่างรุนแรง
ใครจะว่า ‘น้ำเน่า’ บางคนว่า
“มิน่า ปั่นข่าว ‘ช่อ’ กันใหญ่
นอกจากจะกลบข่าวโจรแย่งสมบัติ
แย่งกระทรวงแล้ว วันนี้คิงพาวเวอร์ นายทุนใหญ่พลังประชารัฐ ก็ประมูลชนะอีก ๓
สนามบิน #Savepannika” (@CrazyRichTH)
จะยึดโยงกันหรือเกี่ยวข้องไหม
แต่ว่าจังหวะจะโกลนมันพอดี “คิงเพาเวอร์...ได้คะแนนอันดับ ๑ งานประมูลดิวตี้ฟรี ๓
สนามบินภูมิภาค ทำให้ได้รับงานจาก บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.ทั้ง ๓ งาน
คือดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ-ดิวตึ้ฟรีสนามบินภูมิภาค-พื้นที่พาณิชย์สุวรรณภูมิ”
มิใย
ข้อคิดจากนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตย “นักการเมือง
เซเล็บและสื่อที่ใช้วิธีสามานย์แบบนี้เพราะได้ความสะใจแรงเชียร์จากแฟนคลับฐานเสียง
คนกลุ่มเดิม เท่าเดิมแต่คลุ้มคลั่งมากขึ้น...
หมดทางสู้ด้วยแนวคิดเหตุผลนโยบายแล้ว
จึงต้องใช้วิธีการแบบนี้” ต่อ “พรรคการเมืองมีฐานคะแนนเสียงหลายล้านคน
ยิ่งมีความนิยมสูงในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่มากมาย คนเหล่านี้จะรู้สึกอย่างไร”
ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ รำพึงบนเฟชบุ๊ค
ต่างวาระ ต่าง platform
คนละเรื่องเดียวกัน ‘พี่อ้อ500 รักลุงตู๋ @aorwiki’
ทวี้ตเนิบๆ หนักแน่น “ปั่นเรื่องคุณช่อมากๆ
เด็กมันไม่เลิกชอบพรรคส้มหรอก มันจะเลิกชอบอีกอย่างแทน ตามนั้นแหละ”
ต่างกรรม โลกเดียวกัน @ivaderer ลงภาพ “ชูรูปแล้วกระทืบคนคือดีงาม? #สลิ่มหนักแผ่นดิน”
เขาถาม ย้ำเข้าไปอีก หรือ
“ชูรูปในหลวงแล้วยิงผู้บริสุทธิ์คือดีงาม” ไม่แน่ใจจะมีใครอยากตอบ
แต่ภาพเหตุการณ์มันชี้เจตนา ‘โหน’ เพื่อใช้ความรุนแรง
แม้นว่า สลักธรรม โตจิราการ
บอก “ต้องยอมรับว่ายุทธวิธีนี้ของเขาได้ผลบางส่วนในการรวมพลังทำลายฝ่ายตรงข้าม”
ประเด็นฝ่ายขวาต่างกับฝั่งซ้าย เพราะ “อย่างไรฝั่งตรงข้ามก็เลวกว่า
ควรจะรวมพลังไปทำลายฝั่งตรงข้ามเสียดีกว่า”
ทว่าสิ่งที่ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ พูดถึงกรณีนี้น่าที่จะเจาะกลางกะลาได้ดีที่สุด
“ไม่ต้องขอร้องว่าอย่าโหนเจ้า ไม่ต้องอ้อนวอนว่าอย่าเอาเจ้ามาแกล้งกัน
ไม่มีประโยชน์ มีสองทางที่รอดคือ แก้ไข-ปฏิรูปกฎหมายหมิ่น
หรืออย่าเอ่ยถึงเจ้าในทางลบอย่างเด็ดขาด...ช้างตัวใหญ่ในห้อง
ไม่มีใครเห็นสักคน” ที่จริงเขาน่าจะเห็นมาแต่ไกลและพยายามเลี่ยงแล้ว หรือประมาณคิดว่าคงจะอยู่ร่วมห้องกันได้
แต่อย่างว่าละ ในสังคมไทย ประเด็น ๑๑๒ นี่ไม่ไปหามัน
มันจะมาหาเราเอง
เพราะมันเป็นกฎหมายปลายเปิดให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือห้ำหั่นกันเองในหมู่พสกนิกรได้
ฉะนี้ เมื่อมีคนเปิดประเด็นขึ้นมา
ตำรวจก็ต้องรีบกระโจนเข้างับทันที “สำนักงานตำรวจสั่ง ๓ หน่วยงานตรวจสอบการใช้โซเชียลของ
‘ช่อ พรรณิการ์’...ย้อนหลัง”
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงว่า
“เราก็ยังตอบไม่ได้ว่าผิดไม่ผิดยังไง
แต่จะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดทั้งอดีตและปัจจุบันมาประกอบ...ไม่ได้แยกแยะว่าใครเป็นใคร
ใครผิดก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย”
หลักฐานเท่าที่มีคนขุดเอามาเป็นเป้า
คือภาพเก่าเมื่อเก้าปีที่แล้ว น.ส.พรรณิการ์ในชุดครุยรับปริญญากับเพื่อนๆ
คนหนึ่งถือรูป ร.๙ เขาชี้มือไปยังภาพด้วยท่าทางฉงน ใต้ภาพมีคำบรรยายว่า “ภาพนี้ไม่ควรมีคำบรรยาย”
แต่คอมเม้นต์ที่ตามมาเป็นหางล้วนด่าทอสาดเสียเทเสีย
เพียงเพราะอ้างว่าเป็นภาพที่ไม่แสดงความจงรักภักดี อีกภาพที่เชื่อว่ามีการแชร์กันมาก
เป็นแค้ปชั่นการสนทนาทางหน้าโซเชียลเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วเช่นกัน
บัญชี ‘Watch Red Shirt ศูนย์ปฏิบัติการณ์ติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง’ เขียนคอมเม้นต์ว่า
“ชัดพอมั้ย กับสิ่งที่เธอคิด หรือว่าพวกเราคิดไปเอง” ต่อบัญชี Pannika Chor
Wanich ที่เขียนว่า “วันเกิด...แล้วไง???”
นั่นเป็นผลงานสไตล์ ‘ไอโอ’ (Information Operation) แน่นอน เพราะเป้าหมายอยู่ที่การกำจัด ๓
กำลังสำคัญของพรรคอนาคตใหม่ออกจากสภา แต่จะจุดติดแค่ไหนเดี๋ยวก็รู้ และจะรวดเร็วกว่าที่ควรเสียด้วย