วันศุกร์, กรกฎาคม 06, 2561

4 ข้อเสนอล่อใจ! ให้"เนรคุณ" ทิ้งพรรคเพื่อไทย ดูด ส.ส.อีสาน - มติชนสุดสัปดาห์





เปิดหมดเปลือก! ข้อมูลดูด ส.ส.อีสานเพื่อไทยให้ทิ้งพรรค


มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน - 5 กรกฎาคม 2561
รายงานพิเศษ
โดย พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์



“เราเชื่อมั่นในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาว่าคนอีสานมองคำว่า “เนรคุณ” เป็นคำที่รุนแรงมาก! ไม่ว่าประเพณีภายในครอบครัวหรือในสังคมระดับตำบล-หมู่บ้านก็ตาม เขาจะเกลียดคำนี้มากที่สุด เพราะฉะนั้น ในการเมืองครั้งหน้าปัจจัยตรงนี้ถือว่าสำคัญ เราจะต้องพูดจาให้พี่น้องประชาชนรับฟังข้อเท็จจริง และเราก็จะไม่ประมาท ท่ามกลางกระแสการบุกการดูดหรือชิงตัวที่ยังไม่หยุดนิ่ง ยังคงมีอีกเข้าใจว่าเดี๋ยวคงจะมีการเปิดตัวอีก”

นี่คือเสียงสะท้อนจากประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แกนนำ ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อกระแสการดูดที่รุนแรงและต่อเนื่อง

ประยุทธ์เล่าว่า เป็นเรื่องที่ร้อนแรงมานานแล้ว เนื่องจากอีสานเป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย เป็นพื้นที่ที่มีกระแสของพรรคอยู่มาก พูดแบบตรงไปตรงมาว่าครั้งนี้ร้อนมากกว่าครั้งไหนๆ นี่คือพื้นที่กระสุนตก ทุกพรรคมุ่งหน้าที่จะเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งชิงพื้นที่นี้ จึงเป็นครั้งที่เราจะต้องใช้ความรอบคอบและระมัดระวังอย่างสูง

ตั้งแต่ผมเล่นการเมืองมาในชีวิตถึงวันนี้รวมแล้ว 43 ปี ผมไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ใดร้อนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน ในอดีตตลาดการเมืองอาจจะมีพรรคการเมืองไม่มากมาแย่งชิง มีการดึงตัวกันบ้างเล็กน้อย

แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มีบ้านมากขึ้นในการดึงคนไปอยู่ แม้ว่าบ้านบางหลังนั้นจะมีเพียงแค่เสาเข็ม ยังไม่มีห้อง ยังไม่ยกเสา แต่เล่นจูงคนเข้าไปอยู่แล้ว หิ้วกระเป๋าไปแล้ว โดยที่บ้านหน้าตาจะเป็นอย่างไร มีกี่ห้องก็ยังไม่รู้

หากจะเปรียบเป็นการแข่งขันกีฬา นี่เล่นมาล่อซื้อตัวนักกีฬาถึงขอบสนาม เพียงแค่เปลี่ยนสีเสื้อก็ลงเล่นได้เลย ครั้งนี้เป็นการเมืองที่พิสดารที่สุด จากการตระเวนพบปะเพื่อนฝูงในพื้นที่ช่วงที่ผ่านมาพบว่าใน 20 จังหวัดไม่มีจังหวัดไหนถูกยกเว้นการดูด ทำให้เราก็ต้องมาพิจารณาตัวเองเหมือนกัน ในขณะที่เพื่อนเราเดินออกไปจากพรรคก่อนที่เราจะไปตำหนิติเตียนเขา เราก็มองว่าการที่เขาจะกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนทางพรรคเราเองก็ต้องคัดเลือกคนที่ดีที่สุดมาลงสนามนำเสนอให้กับพี่น้องประชาชน

เพราะถ้าหากชาวบ้านคิดว่าเป็นคนเนรคุณก็จะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดในพื้นที่อีสานผมพูดแบบตรงไปตรงมาเพราะว่าคนอีสานเขาถือมากเขามีสุภาษิตสอนใจที่เข้มข้นเขามีจารีต

: ปรับแผนสู้อย่างไร

ขณะเดียวกันแผนที่เราจะปรับ คือการหันมาดูตัวเองของพรรค ต้องมีความรอบคอบ ในการเรียนรู้ข้อบกพร่องของตัวเอง เพื่อปรับปรุงตัว หรืออาจมีปัจจัยอื่นใดมาโน้มน้าวเพื่อดึงบุคคลเหล่านั้นไป

ทำให้นาทีนี้เราพูดไม่ได้เลยว่า นาย ก. นาย ข. จากจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ยังอยู่กับเราแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ยังใช้คำนี้ไม่ได้! ถ้าใครพูดคำนี้ถือว่าประมาท เพราะคนที่เดินออกไปอาจจะเดินกลับมาก็ได้ แต่คนที่นั่งอยู่เฉยๆ นั่งอยู่ข้างๆ นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันอาจจะเดินหนีจากเราไปดื้อๆ ก็ได้ ต้องระวัง

นาทีสุดท้ายเท่านั้นถึงจะรู้

ผมใช้ประสบการณ์ในฐานะที่ผมเคยเป็นเลขาธิการของพรรคกิจสังคมมาก่อนมามอง ผมเคยทำหน้าที่ในการออกใบรับรองที่จะส่งตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ถึงวันจริงแล้วไม่มารับก็มีมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว





: 4 ปัจจัยดูด ส.ส.พรรคเพื่อไทย

ปัจจัยที่ทำให้มีคนเปลี่ยนขั้วเราต้องเปิดอกพูดคุยกันไม่อ้อมค้อม พูดอย่างตรงไปตรงมา ผมไม่กลัวอยู่แล้ว

ปัจจัยแรก เขาจะจับสัญชาตญาณของคนทุกคนว่า “มีความรักตัวเอง” เขาก็เอาคดีความที่เกี่ยวข้อง ถ้าสมมุติว่าใครมีคดีติดตัว เขาก็จะทำละเอียด เขาจะเจาะไปที่จุดนั้นก่อน เพราะจะเป็นจุดอ่อนของคนที่รักตัวเอง รักลูกรักเมีย รักครอบครัว วงศ์ตระกูล ถ้ามีอันที่จะต้องโดนคดีล้มเสียหายตายเสียจาก หรือติดคุกไป ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลจะพังพินาศลง ครอบครัวเดือดร้อน ก็เลยมีใครสักคนบอกขึ้นมาว่าถ้ามาอยู่กับผมแล้วผมรับรองในส่วนนี้ให้ ผิดตรงนั้นจะกลายเป็นถูก ทำให้เขาตัดสินใจง่ายก็ไปนี่คือส่วนแรก

ปัจจัยที่ 2 ที่มาจูงใจ สมมุติว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจะให้สิทธิตามใจคุณ คุณชี้เลยว่าอยากแบ่งอำเภอไหน ตำบลไหนเพื่อเอาไปรวมอยู่ ผมจะแบ่งให้ ผู้ว่าราชการหรือนายอำเภอคุณอยากได้ใคร ผู้การตำรวจหรือผู้กำกับสถานีตำรวจคุณอยากได้ใคร ข้าราชการคุณอยากได้ใครที่จะเข้ามาช่วยในการเลือกตั้งขอให้บอกมา ถ้าอย่างนี้มันจะเห็นชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าผมคิดว่าปัญหาจะเกิดขึ้นมากมาย การต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาคงเป็นเรื่องที่ลำบาก

ปัจจัยที่ 3 “เงิน” อย่าปฏิเสธเลย เพราะเงินมันมีความสำคัญ เขาก็เสนอว่าถ้าคุณมาอยู่กับผม คุณจะได้ก้อนนี้ไปก่อน เงินเดือนอีกเดือนละเท่านี้ พอเลือกตั้งก็จะได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ 5 ล้าน 10 ล้านนะครับ ครั้งนี้สะพัดถึง 30 ล้านขึ้นไป! บางคนถูกโน้มน้าวหนัก เขาบอกว่าเมื่อคุณก้าวขาออกจากพรรคเพื่อไทยจะได้รับความเห็นใจมากขึ้นเพราะจะต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วงก็จะได้เงินมากขึ้นเป็นพิเศษก็จะเพิ่มเป็น 10 เท่า 15 เท่า เจอแบบนี้ใจคนมันมีหวั่นไหวแน่นอน!





ผมยืนยันได้ว่ามันมีจริงๆ กรณีแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่านักการเมืองทุกคนมีอุดมการณ์ แต่ปัจจัยแวดล้อมที่เข้ามาเกี่ยวข้องมันทำให้การตัดสินใจเกิดความยุ่งยากสับสนเหมือนกัน

ปัจจัยที่ 4 ระบุเลยคนมีสี ทหาร, ตำรวจและฝ่ายปกครองเข้าไปเกลี้ยกล่อมเขามีเทคนิคในการพูดจูงใจ เช่น หากอยู่กับผม ปลอดภัยทุกอย่าง ผมการันตีให้ แล้วใบเหลืองใบแดงไม่ต้องพูดถึง แต่คุณจะเลือกอยู่แบบเดิม “ตัวใครตัวมันนะ” คำว่าตัวใครตัวมัน หมายความว่าถึงคำขู่ใช่หรือไม่? แล้วบางคนก็ใช้คำว่า “ผมไม่รับรอง” ซึ่งหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้คำแบบนี้ มันหมายความว่าอะไรได้บ้าง มันหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินใช่หรือไม่? เราก็ต้องคิดพิจารณา ใครๆ ก็แปลความหมายออก นี่มันคือปัญหาที่เกิดขึ้นในการเมืองการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

: คุยกับคนที่ยังอยู่อย่างไร?

ตัวผมเองก็ยอมรับว่าช่วงนี้ก็ไม่ได้พักผ่อน เดินทางไปกินข้าว พบปะพี่น้อง ผมก็ถามเขาตรงๆ ว่ายังมีปัญหาที่คาใจอยู่ไหมคืออะไร และเราก็จะชี้แจงให้เขาฟัง หลายจังหวัดเขาก็เล่าให้เราฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเขา เราก็อธิบายด้วยเหตุด้วยผลว่าจะต่อสู้กันอย่างไร ถ้าเขารับฟังเขาก็อยู่ ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์จากบัญชีที่เขาต้องการ ผมรู้แล้วว่ามีใครบ้างในกลุ่มเป้าหมาย อาจจะมีหลุดไป 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เราก็พยายามที่จะโน้มน้าว

เท่าที่ผมลงพื้นที่พบเพื่อนๆ ผมมั่นใจว่าคนที่แปรปรวนรวนเรเริ่มหยุดนิ่ง โดยการตัดสินใจของเขาไม่ใช่ว่าเกิดจากฝ่ายเรา เขาไปตัดสินใจของเขาเอง แต่ก็ยังมีตัวแปรอีกหลายประการก่อนจะถึงวันเลือกตั้งที่ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้มากหรือน้อยอีก แต่เราพยายามชี้แจงเต็มที่

: เจอชาวบ้านเขาถามอะไร?

เวลาที่ผมอยู่ในพื้นที่ ชาวบ้านจะถามผมว่าประเด็นแรกที่ร้อนแรงที่สุด จะถามบ่อยที่สุดคือจะเลือกตั้งเมื่อไหร่? ผมก็ตอบไปว่ายังตอบไม่ได้ ก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ เพราะว่าเขาเกิดความสับสนในคำว่าโรดแม็ป

ประเด็นต่อมาในเรื่องของความรู้สึก ชาวบ้านเขาจะบอกเราตรงๆ ว่าเขารักใครเกลียดใคร ใครโผล่มาในโทรทัศน์เขาจะปิดหนี เขาจะเล่าให้เราฟังแบบเปิดเผยทั้งหมด เขาเปิดอกคุยกับเรา ส่วนมากเราจะเป็นผู้รับฟังเวลาอยู่กับชาวบ้าน

: เพื่อไทยยังใช่อันดับ 1 อยู่หรือไม่ในอีสาน?

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมก็ยังมั่นใจว่าเพื่อไทยยังเป็นอันดับหนึ่งในภาคอีสาน และผมจะทุ่มเททั้งชีวิตของผมและโอกาสเท่าที่มี ด้วยความสามารถเท่าที่ทำได้ในขณะนี้ แม้ว่าเราจะยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้เต็มที่ แต่จากการที่ผมไปกินข้าวเยี่ยมยามถามไถ่ชาวบ้าน ผมยังมีความมั่นใจว่าในพื้นที่อีสานพรรคเพื่อไทยผมมั่นใจว่าเรายังเป็นอันดับ 1 อยู่





สุดท้ายนี้ผมอยากจะเห็นนักการเมืองมีจุดยืนและมีอุดมการณ์ ถ้านักการเมืองมีอุดมการณ์และเข้าไปเป็นตัวแทนของชาวบ้านได้ ทำหน้าที่ได้ แต่ถ้าเราได้นักการเมืองที่ไร้อุดมการณ์ไร้จุดยืนชาวบ้านคงผิดหวัง ประชาธิปไตยเราต้องอาศัยตัวแทน แต่ถ้าตัวแทนที่เราเลือกมายังเห็นแก่ตัวเอาตัวรอด ไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่ควรจะเป็นไป

ผมคิดว่าคนเหล่านั้นควรหยุด แล้วควรให้คนที่ยึดมั่น ชาวบ้านมั่นใจได้เข้าไปทําหน้าที่!

ooo