วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 26, 2561

เขื่อนลาวแตก มีผู้สูญหายหลายร้อย คนกว่าครึ่งหมื่นทางตอนใต้ของประเทศไร้ที่อยู่อาศัย 21 องค์กรเรียกร้องทุนไทย รับผิดชอบเขื่อนลาวแตก





21 องค์กรเรียกร้องทุนไทย รับผิดชอบเขื่อนลาวแตก


26 กรกฎาคม 2561
กรุงเทพธุรกิจ


เมื่อวันที่ 25 ก.ค.61 แถลงการณ์จากเครือข่ายประชาสังคมไทย เรียกร้องความรับผิดชอบต่อผู้ลงทุนไทยในต่างประเทศ กรณีความสูญเสียจากเขื่อนในลาวแตก

พวกเราในฐานะประชาชนไทยอันประกอบด้วย เครือข่ายองค์กรชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง องค์กรพัฒนาเอกชน นักสิต นักศึกษา และนักวิชาการ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความเสียหายจากภาวะเขื่อนเซน้ำน้อยแตกในประเทศลาว ตั้งแต่สองวันที่ผ่านมา ในฐานะเพื่อนมนุษย์ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อการสูญเสียของประชาชนชาวลาวครั้งยิ่งใหญ่นี้ และขอเรียกร้องถามความรับผิดชอบของผู้ลงทุนไทยในเหตุการณ์เขื่อนเซน้ำน้อยแตก ในฐานะผู้ลงทุนโครงการ และธนาคารไทยที่ให้เงินกู้สำหรับโครงการนี้ แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงครั้งนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องสูญเสียชีวิต ที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน พื้นที่เกษตรกรรม และมีผลกระทบทางร่างกายและจิตใจจากการสูญเสียครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบโดยเร็วที่สุด ตามหลักการมาตรฐานและสิทธิมนุษยชนสากล

จากเหตุการณ์เขื่อนเซน้ำน้อยแตกที่แขวงอัตตะปือ สปป. ลาว ได้ส่งเสียงเรียกร้องให้เกิดความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงจากผู้ลงทุนไทย โครงการเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย กำลังการผลิต 410 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่แขวงจำปาสักและอัตตะปือ สปป. ลาว เป็นโครงการที่บริษัทไทยถือหุ้น 25% และผู้ลงทุนสัญชาติเกาหลีใต้ ทั้งนี้ เขื่อนจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2562 นี้ โดยที่พลังงาน 90% จะส่งมาขายให้กับประเทศไทย และมี 4 ธนาคารของไทยที่ร่วมลงทุนผ่านเงินกู้ในโครงการนี้

เขื่อนเซน้ำน้อย เริ่มแตกตั้งแต่กลางคืนของวันจันทร์ (23 กรกฎาคม 2561) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 6 หมู่บ้าน และประชาชนกว่า 6,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย มีผู้สูญหายอย่างน้อย 200 คน และพบว่าเสียชีวิตแล้ว 50 คน เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทดังกล่าว แถลงว่า เขื่อนคันดินเกิดรอยแตกร้าวหลังจากมีพายุฝนอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุให้ปริมาณน้ำมหาศาลไหลออกจากอ่างเก็บน้ำ และยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการผลิตไฟฟ้าตามกำหนดการ แทนที่จะแสดงความห่วงใยหรือแถลงถึงมาตรการช่วยเหลือหลังเขื่อนแตก แต่บริษัทกลับเงียบกริบในประเด็นเหล่านี้

เขื่อนคันดินที่แตกในครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงกระบวนการก่อสร้างต่อมาตรฐานระดับโลกด้านความปลอดภัยของเขื่อน ตามหลักการและแนวทางของคณะกรรมการเขื่อนโลก ซึ่งหลักการดังกล่าวเสนอว่า ควรมีการพัฒนากลไกเพื่อให้การชดใช้ค่าเสียหายหรือการชดเชยย้อนหลังสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากเขื่อนที่มีอยู่แล้วตลอดจนฟื้นฟูความเสียหาย การขาดกระบวนการที่สอดคล้องต่อมาตรฐานในการสร้างเขื่อนระดับโลกของเขื่อนเซน้ำน้อยนี้ เป็นผลให้เกิดการสูญเสียชีวิตและสูญหายของประชาชนกว่า 6,000 คน

เราขอเรียกร้องให้ผู้ลงทุนไทยในต่างประเทศเรียนรู้ว่า ความปลอดภัยของเขื่อน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง จากกรณีเขื่อนเซน้ำน้อย รวมถึงการประเมินผลกระทบเชิงลึกต่อเขื่อนที่สร้างไปแล้วก่อนที่จะมีการดำเนินการในโครงการใหม่บนแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา

เราขอเรียกร้องให้ บริษัทไทย แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการเร่งชดเชยและเยียวยาชุมชนจากการสูญเสียครั้งนี้ และบริษัทต้องให้ชุมชนได้เข้าถึงกระบวนการพูดคุยเกี่ยวการชดเชยและเยียวยาอย่างเหมาะสมและเร็วที่สุด

ooo




https://www.facebook.com/waymagazine/photos/a.374982256455.167538.129528621455/10155454271071456/?type=3&theater


ชะตากรรมของ สปป.ลาว สู่การเป็น 'แบตเตอรี่แห่งเอเชีย' ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้จำนวนมหาศาล อีกทั้งต้องแบกรับความเสี่ยงจากหายนะที่ไม่คาดฝัน

หากจะว่าไปแล้ว ความวิบัติที่เกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาในลาว ใช่เพียงแค่รัฐบาลเจ้าของประเทศเท่านั้นที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ หากยังแปดเปื้อนไปด้วยรอยนิ้วมือของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย ทั้งนักลงทุนและผู้มีส่วนให้การสนับสนุนทางการเงินทั้งหลายอย่างไม่อาจปฏิเสธ

#เขื่อนลาวแตก #เขื่อนเซเปียนเซน้ำน้อย

https://waymagazine.org/dam_lao/