วันศุกร์, กรกฎาคม 20, 2561

โอเค ตกลงที่ว่าดูดๆ นี่น่ะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ดูดเหมือนกันหมดถ้วนหน้า เพื่อการปรองดอง

รอปรองดองมาตั้งสี่ปีกว่า เพิ่งจะเห็นแสงรำไรก็ตอน สามมิตร ดูดดะนี่ละ ไม่เชื่อ ดูพาดหัว แนวหน้า ก็ได้ “กปปส. ก็ไม่เว้น! 'สามมิตร' โชว์พลังดูดศิษย์เอก 'พุทธะอิสระ' ลั่นเดินหน้าสลายสีเสื้อ”

เรื่องมีว่าขณะนี้ พลังดูด สุดแรง หลังจากที่อดีต นปช. อย่าง แรมโบ้จะจุดธูปขอกลับคำสาบานกับ ย่าโม กลับมาเล่นการเมืองร่วมกับสามมิตร ที่พรรคเพื่อไทย อดีตสังกัดของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ร้องเย้วว่า ฮ้า ไปได้ไง

“กลุ่มสามมิตรต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องและให้ คสช.สืบทอดอำนาจซึ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ นปช.ที่รักประชาธิปไตย” แรมโบ้อีสานไม่สน เพราะ

“ณ วันนี้ตนขอร้องให้ทุกกลุ่มทุกสีลืมเรื่องอดีตที่เจ็บปวดไปเสีย แล้วหันหน้ามาปรองดองร่วมมือหาทางออกให้กับประเทศชาติและสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น...ฉะนั้นนับแต่วันนี้จงอย่าแบ่งแยกสีแยกกลุ่มกันอีกเลย”

ฟังแล้วชักจะซึ้ง แต่ว่าถ้อยเก๋ไก๋แบบวาทกรรมยังไม่ค่อยจะหนักแน่นเท่าตอนที่บอกว่า “ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมานานกว่า ๕ ปีแล้ว และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยเห็นคุณค่าของตนเอง และไม่เคยติดต่ออะไรมาเลยในยามที่ตนตกระกำลำบากตลอดระยะเวลา ๔-๕ ปี”


เหมือนอย่างที่พวกสายวิชาการของเพื่อไทยเคยว่าไว้ อดีต ส.ส.ที่รู้ว่าเขาดูดแต่ก็ยอมให้ดูดนั้น มันมีความจำเป็น ไหนจะคดีความที่ คสช. ปักหลังไว้ ไหนจะตายอดตายอยากมาตลอด ๕ ปีเช่นว่า พอมีข้อเสนอ ดีล ดี คดีหลุด แถมเงินก้อนสำหรับหาเสียง อีกทั้งอำนวยความสะดวกต่างๆ นานา ใครล่ะ ไม่เอา

ฉะนั้น เรื่องสาบงสาบาน จุดธูปสามดอกขอยกเลิกก็ได้ ง่ายจะตายไป ใครจะว่าอย่างไร ชั่งหัวมันแม้กระทั่งอย่างที่ อาณาจักร ไบกอน @bygon2 จวกไว้

“กล้าแม้กระทั่งกลับคำสาบาน ??? นับประสาอะไร กับคำสัญญาที่ให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่พลิกลิ้นหรือครับ ถ้าเสือมันก็คือเสือแต่ถ้าหมามันก็คือหมาถูกต้องไหมครับ”

จะเสือหรือหมาไม่รู้ แต่ว่า Somyot Pruksakasemsuk คิดว่าเป็นเรื่องของตัวเล็กๆ เห็บต่างหาก เขาบอกว่า “ตอนนี้เห็บมีมากที่พรรคเพื่อไทย แถวเลย โคราช สุรินทร์ เห็บเป็นแมลงชอบเข้ามาดูดเลือดหมา สัตว์มีขนหรือคนหน้าสัตว์ ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เป็นช่วงที่ความชื้นเหมาะแก่การเติบโต”
 
ถ้างั้นที่สุรินทร์ก็คงชื้นเหมือนกัน นายเทพพนม นามลี แกนนำ นปช.สุรินทร์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง “ตนเป็นฝ่ายเข้าไปหานายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตรเอง เพราะเห็นว่ากลุ่มสามมิตรมีแนวความคิดที่ดี คือการสร้างความปรองดองของคนในชาติ”

เห็นไหมว่าเห็บกับการปรองดองมีความผูกพันกันอยู่มากมายในตอนนี้ ฉะนั้นใครจะมาเป็นนายกฯ คราวหน้าไม่ว่า “แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้ามาอย่างถูกต้องจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยมี ส.ส.ยกมือให้ ตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน” เข้าทางกับดักรัฐธรรมนูญ คสช. ที่ให้มีนายกฯ คนนอกได้พอดี

ทว่านายเทพพนมคนนี้ไม่ได้ซื่อบื้อแบบแรมโบ้อีสาน เขาก้าวไปอีกขั้นในนวัตกรรมของการดูด เมื่ออ้างข้อตกลงกับกลุ่มสามมิตรว่า “ขอได้ไหมสองเรื่อง คือเรื่องแรกอย่าให้พวกผมเปลี่ยนอุดมการณ์ของคนเสื้อแดง และ นปช. เรื่องที่สองอย่าให้พวกผมไปด่านายกฯ ทักษิณ”

ซึ่งเทพพนมยันอีกว่านายภิรมย์ (เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หัวหอกสำคัญในเพทุบายกลับมาเป็นรัฐบาลภายใต้ประยุทธ์อีกครั้ง) “ก็รับปากโดยดี”


ครานี้เพื่อให้สมจริงสมจัง พลังดูดก็เดินหน้าต่อ “แกนนำกลุ่มสามมิตรได้เดินทางไปพบกับนายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติหนึ่งในอดีตแกนนำ กปปส. และศิษย์เอกอดีตหลวงปู่พุทธอิสระ เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในการปรองดองชาติ”
 
ทันทีทันควัน นายสิระแอ่นรับ “เพราะกลุ่มสามมิตร นำเรื่องการปรองดองของคนในชาติขึ้นมาพูดคุย” วุ้ย ทีงี้ปรองดองกันใหญ่ ต้องการ สลายสีเสื้อ ทั้งที่ก่อนหน้ามีเวลาตั้งสี่ปีกว่า จ่าเฉย กันเป็นแถว เมื่อเสื้อสีแดงๆ โน่น ถูกส่งไปอยู่แดน ๒ แดน ๓

“โดยเฉพาะช่วงนี้ทางรัฐบาลได้มีโครงการช่วยเหลือเรื่องปากท้องของประชาชน (อย่างเราๆ) อย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน (ที่รูดอะไรไม่ค่อยออกเนี่ยละ)”

ถ้างั้น “กลุ่มสามมิตรจะขอใช้สถานที่บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ เป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตรในกรุงเทพมหานคร ตนก็ไม่มีปัญหาอะไร ยินดีให้ใช้สถานที่เต็มที่”


โอเค ตกลงที่ว่าดูดๆ นี่น่ะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ดูดเหมือนกันหมดถ้วนหน้า เพื่อการปรองดอง ไม่ต้องทะเลาะกันลั่นซอย ว่าเวจของ แกเหม็นมากกว่า กัน