ไม่ต้อง ‘งง’ เลยสักนิดว่า ปชป.
ต้องออกมา ‘ดิ้น’ กันใหญ่กับการที่ นคร
มาฉิม โพสต์ ‘อวย’ วันเกิดทักษิณ
และสดุดีประชาธิปไตยขนาดนั้น
รวมทั้ง “นายทุนขุนศึกอำมาตย์...คงแค้นแทบกระอัก” และ “สลิ่มคลั่งทั้งประเทศ
แม้วซื้อไปแล้ว” ดังที่ Atukkit
Sawangsuk ทายไว้ทันทีเมื่อมีข่าว
'นคร มาฉิม' อดีต ส.ส.พิษณุโลก
ปชป.โพสต์ขอโทษ 'แม้ว' วันเกิด
ร่ายยาวล้ม 'ระบอบทักษิณ'
ที่นี่ https://www.matichon.co.th/politics/news_1060800
พวกขุนศึกก็แก้ตัวอย่างเซม เซม ตามนิสัยจำเจแก้ไม่หาย ผ่านทางโฆษก
‘ห่านอู’ ของรัฐบาลคณะทหาร ว่าไม่มี้ ไม่มีทฤษฎีสมคบคิด
‘conspiracy theory’ ในหมู่ขุนศึก อำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์
และ ‘สลิ่ม’ เป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ-ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
แต่สำหรับ ‘แมลงสาบ’ นั้นดิ้นไม่เป็นกระบวน
แบบแย่งกันช่วงชิงหน้าจอจนลืมตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ ‘facts checked’ ก่อนพูดว่า “อันที่จริง นคร มาฉิม ด่าเผด็จการมานานแล้วครับ เคยทะเลาะกับไอ้หมอวรงค์เพราะแกปกป้องนโยบายจำนำข้าว
เมื่อปี ๕๙ ก็ถูกทหารบุกค้นบ้าน หาว่าเป็นผู้มีอิทธิพล
แกก็บอกว่าไม่มีอิทธิพล ผิดอย่างเดียวคือนิยมประชาธิปไตยไม่ฝักใฝ่เผด็จการ”
ดูได้ที่นี่ https://www.matichon.co.th/politics/news_190061
ครั้งนั้น “เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.
ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 นำโดย พล.ต.นพพร เรือนจันทร์
ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ร.ต.อนุสรณ์ ศรียะ
และพ.ท.ธีรยุทธ์ สายยืด กองทัพภาคที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุธครบมือ
เข้ามาตรวจค้นบ้านพักของนายนคร มาฉิม”
ลองมาไล่กันดูวิธีการโต้ นคร มาฉิม ของ ปชป. จากเบาไปหาหนัก
เอาจากฝ่ายกฎหมายก่อนที่มีข่าวว่า กำลังตรวจตราหลักฐานเตรียมเช็คบิลนายนครกันอยู่
โดยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมปูทางไว้บ้างแล้ว
“คิดว่าการโพสต์ดังกล่าว พยายามหลบการใช้ถ้อยคำอยู่
ไม่ได้ใช้ความหมายตรงๆ ถึงพรรคปชป.” และ “ยังมีอดีตส.ส. ที่เห็นแก่ได้เห็นแก่เงิน
เห็นแก่ลาปยศ ก็มีบ้าง แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร
ถ้าคนคนนั้นอยากจะเอาดีก็อย่ามาโยนขี้ใส่เพื่อน”
โดยที่หมอวรงค์คนที่อธึกกิตเอ่ยถึง ‘โอด’ ไว้ก่อนแล้ว อดีต ส.ส.พิษณุโลก บอกว่า “ตัวเองสนิทสนมกับนายนครเป็นอย่างมาก
เพราะเป็นคนชวนตัวเองเข้ามาทำงานการเมืองภายใต้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์”
ทั้งเผยด้วยว่า
“นายนครได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี ๕๖ และไปสังกัดพรรคชาติพัฒนา...” แล้วไป “ชนะการเลือกตั้งในปี
๕๗ แต่สุดท้ายผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งช่วงนี้นายนครก็ไม่เคยต่อว่าพรรคประชาธิปปัตย์แต่อย่างใด”
หากแต่ “มาบัดนี้กลับมีท่าทีตรงกันข้าม ตนจึงไม่เข้าใจจริงๆ
ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขาในภายหลัง” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ตัดพ้อ
อีกคนที่ ‘น่าจะ’ อยากจะด่า
แต่ด่าไม่ออก ก็คือ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค
ใช้วิธีวิเคราะห์หาเหตุว่าท่าทีของนายนครเช่นนั้น “แน่นอน เป็นการคิสเครดิตทหาร
เพราะว่าเขาเป็นคนที่ยึดอำนาจ ซึ่งเราคงย้อนเวลากลับไปไม่ได้
เพราะเดินกันไปไกลแล้ว”
แต่มูลเหตุจูงใจของนายนครเพราะอยากไปอยู่พรรคเพื่อไทย “หรือพรรคไหน
แต่เขากลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แล้ว ถ้ามาก็จะอยู่ยาก” นิพิฏฐ์ว่า
แต่ดันไปแตะ ‘ทักษิณ’
เข้าจนได้เมื่อเจอไมค์นักข่าวจ่อปาก
“ถามว่านายทักษิณมั่นใจว่ายังครองหัวใจประชาชนอยู่
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตามผลโพลก็เป็นความจริงอย่างนั้น เขาก็ยังมาเป็นที่หนึ่ง เรื่องนี้เป็นความผิดของฝ่ายผู้มีอำนาจที่ไม่แจ้งความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง
รวมถึงนายกรัฐมนตรียังพูดด่านักการเมืองอย่างเดียว”
ใครว่าบุคคลิกภาพผู้นำไม่สำคัญ
(อันนี้ไม่ได้คิดถึงทรั้มพ์นะ) “หากรัฐบาลไม่สืบต่ออำนาจ เชื่อว่านายทักษิณต้องแพ้
แต่พอรัฐบาลคิดจะอยู่ต่อเขาก็กลับมาชนะ ต้องโทษทหารที่ทำเสียของ”
อ้าวนึกว่า คสช.กำลังไปโลด เห็น ‘ไทยโพสต์’
ตีข่าวใส่ขิง “ฉุดไม่อยู่ เศรษฐกิจไทยสุดร้อนแรง
คลังประกาศขยับจีดีพีเพิ่มเป็น ๔.๕%” แหม่ เขาไม่บอกว่าไปถึง
๕ เปอร์เซ็นต์น่ะถ่อมตนเท่าไหร่แล้ว
ถึงอย่างไร ใครๆ ไม่สะเด็ดเท่า ‘มอลลี่’ ที่ ‘ของเขาแรง’ จวกนครว่าจะไป
‘ซูฮกทักษิณ’ นี่น่ะ “เขามีเงื่อนไขรึว่า
จะต้องด่าให้ร้่ายพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้เสียก่อน
แล้วจึงจะชุบเลี้ยง แบบนั้นไหม”
หล่อนท้าวความตามหมอวรงค์ว่านครออกจาก ปชป. ไปอยู่ชาติพัฒนานาน
‘เป็นชาติ’ แล้ว “ไม่ใช่อดีต
ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกต่อไป” เอ๊ะ ไม่ใช่ได้ไง ก็ตอนเกิดเหตุ ‘conspiracy
theory’ นั่นเขายังสังกัดประชาธิปัตย์อยู่ จะให้บอกว่าเป็นอดีต ส.ส.ชาติพัฒนาได้ที่ไหน
คุณมอลลิกาไม่ต้องงง
คุณนายบุญมีตระกูล มหาสุข ยังฉวยโอกาสเหน็บสื่อ (ไหนไม่รู้)
“สื่อฯ ใหม่ ไม่ควรให้ราคานคร” หาว่าผลประโยชน์ทับซ้อน “ใครๆ ก็รู้โมเดลทักษิณใครอยากรวยใครอยากมีตำแหน่งต้องทำอย่างไร”
ไฮ้ พูดอย่างนี้ไปกระทบกระเทียบกลุ่มสามมิตรเขานะ เดี๋ยวสุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจโกรธแย่ ว่าพวกเขาเอาอย่างโมเดลทักษิณ รุ่นสามมิตรนี่ ๓๐ ล้าน
รุ่นทักษิณเทียบไม่ติดมั้ง
อีกอย่าง เรื่องลอกแบบโมเดลนั่น ‘สมคิด
จา’ (ตุศรีพิทักษ์) ดันนโยบายเศรษฐกิจ ‘ประชารัฐ-ไทยนิยม’ ไม่ได้ลอกแบบจากใคร คิดได้เองเพราะความจำดีเคยเห็นมาก่อนว่าไปอย่าง
มันไม่ได้บังเอิญหรอกนะที่สุริยะและสมคิดต่างก็เคยทำงาน ‘ให้/กับ’
ทักษิณมาก่อน ‘แยกตัว/หักหลัง’ ไปคบทหาร จน (โดยเฉพาะ) สมคิดได้ดิบได้ดี เป็นกูรูเศรษฐกิจ คสช.
เจ้าของทฤษฎี ‘ปีหน้าพุ่ง’
มาสี่ปีแล้วนี่ไง