หมู่นี้ ‘เฮียตือ’ พี่ใหญ่รัฐบาลทหารกลายเป็นตัวถ่วงให้แผนอยู่ยาวของ คสช. ไม่ราบรื่นนัก นับแต่นาฬิกา
๒๕ เรือน ‘ยืมเพื่อน’ มาผูกข้อมือเป็นปีๆ
ผิดกฎหมาย ปปช. ชัดๆ แต่สำนวนตรวจสอบไม่เสร็จเสียที เป็นต้นมา
หลังจากนั่งหลับในงานพิธีต่อหน้าธารกำนัล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่วาย ‘shoots his foot’ ทำปืนลั่นใส่เท้าตัวเองด้วยคำพูดเหยียดนักท่องเที่ยวที่ตายว่า ‘ทำตัวของตัวเอง’ มาวันนี้พิษเรือขนส่งนักท่องเที่ยวจีนอับปางในทะเลภูเก็ต
สั่นสะเทือนในวงกว้างกว่าคาดคิด
เมื่อนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้แจ้งว่ามีการยกเลิกจองที่พักโรงแรมภูเก็ตกว่า
๗,๓๐๐ ห้อง ในช่วงกรกฎา-สิงหานี้ เป็นเพราะผลกระทบโดยตรงจากกรณีเรือสปีชโบ๊ตบรรทุกนักท่องเที่ยวจีนกว่าร้อยล่มนอกฝั่งภูเก็ต
ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๔๗ คน ตามที่เป็นข่าวใหญ่มาแล้ว
แม้นตัวนายกสมาคมฯ ยังมีความหวังว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นๆ
สัก ๓ เดือนเท่านั้น หลังจากเมื่ออาการตระหนกตื่นกลัวหมดไป “นักท่องเที่ยวจีน ‘อาจ’ กลับเข้ามาท่องเที่ยวปกติ” อีกได้
นายก้องศักดิ์ คู่พงสกร อ้างด้วยว่า ส่วนพวกที่เดินทางมาอยู่ในพื้นที่แล้ว
ก็เพียงเปลี่ยนแผนเดินทาง ‘itinerary’ แต่ก็มีจำนวนมากเลิกเที่ยวทางทะเล
หันไปจับทริปทางบกแทน
นั่นไม่ได้หมายความว่าผลกระทบจะไม่ยืดเยื้อเป็นแรมปีหรือยาวกว่านั้นไปด้วย
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัวหัวหน้าใหญ่ คสช. กลับมาเป็นนายกฯ อีก พร้อมกับการเป็นรัฐบาลของพรรคสม
(คบ) คิด ‘พลังประชารัฐ’
เพราะความทรงจำจากการหยามหมิ่นย่อมลึกกว่าความปลาบปลื้มที่เกิดจากของขวัญปลอบใจ
ดังรายงานของซีเอ็นเอ็น เรื่อง ‘Anger in China over
Thailand's handling of deadly boat accident.’ ที่ประชาไทถอดความออกมาเป็นไทย
“สิ่งที่ทำให้จีนไม่พอใจอย่างหนักคือคำพูดของรองนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ที่พูดให้สัมภาษณ์ในเชิงกล่าวโทษว่าความผิดพลาดมาจากผู้จัดการทัวร์ชาวจีนเอง...
มีการพูดว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ชาวจีนกระทำต่อชาวจีนด้วยกันเองและบอกว่าพวกเขาฝ่าฝืนคำเตือนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
รวมถึงพูดในเชิงปัดความรับผิดชอบให้เป็นของกลุ่มนักท่องเที่ยวเอง”
สื่อไชนาเดลีของทางการจีนถึงกับวิพากษ์รองนายกฯ
ไทยไม่ยั้ง ว่าทั้ง ‘ยั่วโมโห’ และ ‘ไร้ความรับผิดชอบ’ “รวมถึงระบุอีกว่าถึงแม้สิ่งที่ประวิตรพูดจะเป็นความจริง
แต่รัฐบาลไทยเองก็ไม่สามารถสลัดความรับผิดชอบในการการันตีความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวออกไปได้”
ความไม่พอใจถึงขั้นทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจีนที่มีชื่อเสียงบางคนโพสต์ในทำนองว่า
“เดี๋ยวนี้จีนจะถูกข่มเหงรังแกกันง่ายๆ แบบนี้น่ะหรือ
ชีวิตของชาวจีนจะปล่อยให้ถูกเหยียบย่ำอย่างไม่สนใจใยดีเช่นนี้น่ะหรือ”
ด้วยความเป็นพี่เอื้อย
คสช. (อายุมากและอยู่นาน) ของเฮียตือ บวกกับการตรากตรำงานรัฐประหารร่วมกับน้องๆ
มาตั้งแต่ครั้งแย่งอำนาจทักษิณเมื่อปี ๔๙ มาถึงแย่งอำนาจยิ่งลักษณ์ในปี ๕๗ ทำให้ระบอบ
คสช.มองข้ามการพลาดพลั้งเผลอไผลไปได้
แค่ทั่นรองฯ
เวลานั่งในพิธีรีตองของราชการ กระพริบตาปิดแล้วลืมกระพริบเปิดไปบ้างไรบ้างสองสามนาฑี
การพูดกระทบอารมณ์ชาวจีนหยวนกันได้ ตบเงินค่าทำขวัญครอบครัวผู้ตายเสียหน่อย ๓
เดือนคงหายโกรธ
แต่ระบอบทหารเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ทำให้เกิดความกร่าง อวดเก่ง ก้าวร้าว ลงลึกไปถึงระดับลูกน้องและลิ่วล้อด้วย โฆษก
ทบ. ต้องคอยออกมาโต้แย้ง แก้ต่าง ควบคุมความเสียหายด้วยการโกหกบ้าง บิดเบือนพริ้วๆ
บ้าง
เช่นที่ พลทหารรายหนึ่ง
“สังกัดกองพันทหารราบที่ ๒ ศูนย์การทหารราบ
(ค่ายธนะรัชต์) อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำวิดีโอคลิป โอดครวญว่าถูกส่งมาให้เลี้ยงไก่นับร้อย
ถูกตบตีด่าสารพัด หากดูแลไก่ไม่ดี”
ที่ซึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. แก้ตัวว่า
“เป็นเพียงการไหว้วานกัน...นอกเหนือจากงานหน้าที่หลักที่จะต้องดูแลบ้านพักราชการแล้ว
กรณีมีงานเพิ่มเติมอื่นๆ หรืออาจเป็นงานนอกหน้าที่หลักเสริมมา”
และ “อาจต้องพิจารณาคำนึงถึงเรื่องของน้ำใจและความสมัครใจเป็นสำคัญ”