วันเสาร์, กรกฎาคม 21, 2561

สรุปในวันนี้​ ศาลทหารยังไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวน้องแหวนเนื่องจากเห็นว่าเพิ่งจะสืบพยานนัดแรกเพียง​ 2​ ปาก​ อย่างไรก็ตาม​ ขวัญและกำลังใจของแหวนดีขึ้นอย่างมาก​





สรุปในวันนี้​ ศาลทหารยังไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวน้องแหวนเนื่องจากเห็นว่าเพิ่งจะสืบพยานนัดแรกเพียง​ 2​ ปาก​ สืบพยานนัดต่อไป​ 4​ กย.​ ทีมทนายจะยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง​ อย่างไรก็ตาม​ สิ่งที่เห็นในวันนี้คือขวัญและกำลังใจของแหวนดีขึ้นอย่างมาก​ ในห้องพิจารณาคดีช่วงเช้าแหวนดีใจมากเมื่อรู้ว่าเงินประกันตัว​ 9​ แสนได้ครบแล้ว​ และดีใจมากเมื่อทราบว่าพี่น้องได้เปิดบัญชีเพื่อให้แหวนได้เริ่มชีวิตใหม่​ ในขณะที่แหวนถูกนำตัวออกจากศาลทหารในช่วงบ่ายพี้น้องได้ยืนเรียงแุถวต้อนรับแหวนพร้อมกับปรบมือให้กำลังใจส่งเสียงเชียร์​ "น้องแหวน​ วีรสตรีวัดปทุมๆๆๆ" ผมจะกลับไปเยี่ยมแหวนที่เรือนจำหญิงอีกครั้งในวันจันทร์นี้​ เพื่ิอติดตามอาการป่วยของแหวนและจะมารายงานให้ทราบ​ ท่านที่ต้องการโอนเงินให้แหวนเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่กรุณาโอนเงิน​ ธ.กรุงไทย​ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว​ ออมทรัพย์​ 690-0-54217-4​ ชื่อบช.​รศ.สุดสงวน​ สุธี​สร และนายอนุรักษ์​ เจน​ตว​นิชย์​


Anurak Jeantawanich


...





ทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นในศาลทหารวันนี้จึงไม่อาจเข้าใจได้ และไม่อาจยอมรับได้?

เช้านี้เป็นครั้งแรกที่โบว์ได้พบและสัมผัสพูดคุยกับคุณแหวน ณัฏฐธิดา มีวังปลา พยาบาลอาสาผู้รอดชีวิตและพยานปากสำคัญคดีหกศพวัดปทุม พี่น้องหลายคนไปให้กำลังใจด้วยความหวังเต็มเปี่ยมว่าหลังการระดมทุนโดย”สมาพันธ์นักกฏหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ”จนประสบความสำเร็จด้วยยอดเงินถึง 900,000 บาทที่ศาลได้ตั้งไว้สำหรับการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวแล้ว หัวค่ำวันนี้เราคงจะได้ต้อนรับแหวนสู่อิสรภาพ

แหวนเองก็มีความหวังนั้นเช่นกัน จึงมีรอยยิ้มอ่อนโยนให้ทุกคน ยกมือไหว้ขอบคุณกับทุกข่าวสารที่ได้ยิน น้ำตาไหลเป็นช่วงๆด้วยความอัดอั้นกับชะตากรรมที่เผชิญตลอดกว่า 3 ปี 4 เดือนจากข้อกล่าวหาที่ได้รับ เพียงเพราะเธอยืนยันจะไม่ถอนตัวจากการเป็นพยานในคดีสังหารหมู่ประชาชน แหวนยกมือไหว้บ่อยครั้งจนเราต้องบอกให้หยุด เพราะคือพวกเราต่างหากที่ต้องขอบคุณแหวนสำหรับการยืนหยัดเพื่อความถูกต้องด้วยราคาที่ต้องจ่ายด้วยชีวิต

ทนายวิญญัติและทีมงานก็คงมาถึงศาลด้วยความหวังไม่ต่างกัน ขณะหอบเงินเหยียบล้านที่พี่น้องประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนได้ลงขันกันในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีใครไม่ลำบาก

พี่น้องที่ไปให้กำลังใจถูกห้ามไม่ให้เข้าไปรอในอาคาร มีเจ้าหน้าที่มาไล่ด้วยเหตุผลว่าไม่มีนโยบายให้ผู้มาเยี่ยมนั่งรอข้างใน อันที่จริงศาลทหารก็ไม่ใช่ที่ที่พลเรือนควรต้องข้องแวะแต่แรก ทุกคนจึงนั่งรอตามบันไดและนอกรั้ว ก่อนจะส่งแหวนกลับเรือนจำช่วงบ่าย และรับรู้ภายหลังการพิจารณาว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า”ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” เราคุ้นเคยกับประโยคนี้ดี เพราะได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนเมื่อครั้งมีความพยายามขอประกันตัวไผ่ดาวดิน เป็นจำนวนครั้งที่มากจนไผ่จำต้องยอมรับสารภาพในที่สุด

ความเลวร้ายของสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ คือการทำให้เรื่องของแหวนกลายเป็นกรณีตัวอย่างของการละเมิดหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชนที่สมบูรณ์แบบในยุคเผด็จการ

📌ศาลทหารไม่มีความชอบธรรมที่จะตัดสินคดีพลเรือน การที่รัฐบาลคสช.ยอมรับกับสหประชาชาติเรื่องการยกเลิกการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร แต่กลับยังปล่อยให้คดีที่ค้างอยู่ดำเนินในศาลทหารต่อไป ถือเป็นความกะล่อนที่น่าละอาย

📌สิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน บุคคลต้องได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้รับคำตัดสินเป็นที่สุด

📌คดี 112 นี้เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวแหวนหลังจากตั้งข้อหาไปแล้วถึงสองปี ทั้งที่ระหว่างนั้นแหวนก็ถูกกักขังจากการเป็นจำเลยในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการปาระเบิดศาลอาญา แต่เจ้าหน้าที่กลับอายัดตัวตามหมายจับที่ขอมาในวันที่แหวนได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวจากคดีแรก ส่อเจตนาให้ตั้งคำถามได้ว่าการตั้งข้อหา 112 แล้วไม่ดำเนินการสอบสวนคดีถึงสองปีแต่กลับมาขออายัดตัวในวันที่แหวนได้รับการปล่อยตัว เป็นไปเพื่อแผนยืดเวลาในการกักขังเพื่อไม่ให้พยานปากเอกในคดีที่ทหารถูกชี้ว่ายิงประชาชนคนนี้ได้ออกมามีอิสรภาพหรือไม่

📌 เหตุผลที่ใช้ในการกักขังแหวนตั้งแต่ขั้นอนุมัติฝากขังเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาคือ “ผู้ต้องหาถูกจับตามหมายจับ ประกอบกับการสอบสวนยังไม่เสร็จส้ิน หากปล่อยชั่วคราวแล้วเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาต” นั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นและขัดหลักนิติธรรม แหวนถูกอายัดตัวตามหมายจับทั้งที่ไม่มีหมายเรียก จะคาดเดาว่าแหวนอาจหลบหนีจนเป็นเหตุให้จำกัดอิสรภาพทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความผิดย่อมไม่เป็นธรรม การสอบสวนพยานที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่นโดยที่แหวนไม่ต้องอยู่ในคุก

📌คำกล่าวอ้างของศาลทหารในวันนี้ว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมจึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้งที่แหวนถูกขังมาเป็นปีโดยไม่มีความคืบหน้าของการดำเนินคดี จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจทำความเข้าใจและยอมรับได้ด้วยมโนสำนึกของคนที่เห็นคุณค่าของความยุติธรรม

การที่แหวนต้องเดินทางกลับเรือนจำในวันนี้ พร้อมกับปัญหาสุขภาพกายและจิตที่ทรุดลง โดยแขวนความหวังไว้กับการยื่นขอประกันตัวครั้งต่อไปในอีก 46 วันข้างหน้า จึงเป็นเรื่องโหดร้ายที่คนในเครื่องแบบถืออาวุธได้กระทำกับผู้หญิงมือเปล่าหนึ่งคน เพียงเพราะเธอไม่หยุดที่จะยืนหยัดเพื่อความเป็นธรรม

ช่วงเวลานับจากนี้จนกว่าแหวนจะได้รับสิทธิขั้นต่ำของความเป็นมนุษย์ จึงจะเป็นช่วงเวลาแห่งการร่วมกันยืนหยัดอีกครั้งเพื่อความยุติธรรมและหลักนิติธรรมที่ถูกบั่นทอน เพราะเธอคือตัวแทนของการถูกละเมิดอย่างสมบูรณ์แบบ

#หยุดทำร้ายแหวน #หยุดอยุติธรรม
#StandforTheRuleofLaw



Bow Nuttaa Mahattana




ooo

ศาลทหารไม่ให้ประกันตัวณัฏฐธิดา พยานคดีวัดปทุมฯ ทนายชี้คดีขาดประจักษ์พยาน

20 กรกฎาคม 2561 ศาลทหารกรุงเทพนัดสืบพยานโจทก์คดี 112 ของณัฏฐธิดา หรือแหวน พยานปากสำคัญในคดีผู้เสียชีวิตหกศพที่ถูกสังหารระหว่างการชุมนุมทางการเมืองในเดือนพฤษภาคมปี 2553 ในวัดปทุมวนาราม

ตั้งแต่เวลา 8.00 น. มีกลุ่มประชาชนราว 30 คนมารอให้กำลังใจณัฏฐธิดา แต่เจ้าหน้าที่ขอให้รอบริเวณหน้าอาคารศาลทหารกรุงเทพเท่านั้น เวลา 8.30 น. ณัฏฐธิดาถูกควบคุมตัวมาที่ศาลทหารกรุงเทพและถูกนำตัวขึ้นอาคารศาลในทันที การสืบพยานโจทก์ในวันนี้เป็นพยานคู่ปากพล.ต.วิจารณ์ จดแตงและพล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ โดยศาลสั่งพิจารณาคดีนี้เป็นการลับ

วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายจำเลยกล่าวหลังการพิจารณาคดีว่า วันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์สองปากคือ พลตรีวิจารณ์ จดแตงและพลตำรวจตรีสุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ซึ่งเป็นพยานคู่ต้องสืบให้เสร็จในนัดเดียวกัน จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน สืบตั้งแต่เช้าเสร็จในเวลาประมาณ 14.00 น. โดยไม่มีการพักรับประทานอาหารกลางวัน วิญญัติให้ความเห็นด้วยว่าคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน ทั้งเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหามีเพียงกระดาษพิมพ์ภาพบทสนทนาที่ระบุว่า มาจากแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) ของณัฏฐธิดา โดยไม่มีการตรวจสอบหรือเปรียบเทียบข้อมูลในโทรศัพท์ว่า ถูกต้องและเหมือนหรือต่างกับข้อความในเอกสารหลักฐานแต่อย่างใด

นอกจากนี้หากดูตามคำฟ้องจะระบุว่าข้อความซึ่งเป็นปัญหาในคดีถูกโพสต์วันที่ 8 มีนาคม 2558 แต่มีข้อน่าสังเกตว่าวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ข้อความตามฟ้องถูกโพสต์ณัฏฐธิดาก็ถูกควบคุมตัวซึ่งเธอได้มอบรหัสผ่านไลน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงอ้างว่า ตรวจสอบพบข้อความที่เป็นเหตุในคดีนี้และใช้กระดาษพิมพ์ข้อความใบเดียวกันกล่าวหาณัฏฐธิดา

วิญญัติกล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าวันนี้ทีมทนายจำเลยยื่นหลักทรัพย์ 900,000 บาทขอประกันตัวณัฏฐธิดา แต่ศาลทหารกรุงเทพยกคำร้องขอประกันตัวโดยพิเคราะห์ว่า ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทีมทนายความวางแผนจะยื่นขอประกันตัวอีกครั้งในนัดสืบพยานโจทก์นัดหน้าวันที่ 4 กันยายน 2561

สำหรับเรื่องการระดมเงินประกันตัวณัฏฐธิดาจำนวน 900,000 บาท วิญญัติเปิดเผยว่าทีมทนายใช้เวลาระดมเงินประมาณ 80 วัน โดยเงินที่บริจาคเข้ามาเป็นเงินหลักร้อยและหลักพันทยอยเข้ามาก่อนที่จะเริ่มระดมได้เร็วขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนครบในวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ส่วนสภาพร่างกายและจิตใจของณัฏฐธิดา เธอมีอาการป่วยเป็นกรวยไตและทางเดินปัสสาวะอักเสบ รวมทั้งมีอาการเครียด แต่เมื่อทนายความแจ้งว่า มีเงินประกันครบแล้ว ณัฏฐธิดาดูมีกำลังใจที่ดีขึ้น

ดูรายละเอียดคดีเพิ่มเติม >>> https://freedom.ilaw.or.th/th/case/833

ภาพจากเฟซบุ๊ก Sa-nguan Khumrungrojhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=1756789394406502&set=pob.100002263750390&type=3&theater