วันจันทร์, เมษายน 09, 2561

การมุ่งหาอดีต = มองหาอนาคตไม่เจอ - #Reuters บอกว่าการสร้างกระแสหวนหาอดีต ถูกวิจารณ์ว่าเป็นความพยายามส่งเสริมให้คนไทยชื่นชม “ระบอบเก่า” และยังทำให้คนมองข้ามความห่วยของรัฐบาลทหาร




ลิงค์ข่าว
https://www.reuters.com/article/us-thailand-politics-costume/venerating-the-past-traditional-costume-fever-grips-thailand-idUSKBN1HF04S


#Reuters บอกว่าการสร้างกระแสหวนหาอดีต ถูกวิจารณ์ว่าเป็นความพยายามส่งเสริมให้คนไทยชื่นชม “ระบอบเก่า” และยังทำให้คนมองข้ามความห่วยของรัฐบาลทหาร ส่วนอาจารย์ Anusorn Unno มองว่า ชนชั้นนำมักใช้เรื่องราวในอดีต เพื่อตอกย้ำสถานะและอำนาจของตนเองเท่านั้นเอง #สื่อนอกเขามองแบบCriticalThinkingนะ

“But the trend, which began with a ‘winter fair’ initiated by King Maha Vajiralongkorn in February, has also been criticized by some as an attempt to glorify an era of absolute monarchy and gloss over the junta’s shortcomings nearly four years after it took power.”

“History has long been used by the elite to maintain their status in politics,” said Anusorn Unno, Dean of the Faculty of Sociology and Anthropology at Thammasat University.”


Pipob Udomittipong


...

Noom Winya การมุ่งหาอดีต หรืออีกอย่างนึงคือเรามองหาอนาคตไม่เจอ

Jaru Tongsuwan เขาส่วนใหญ่อาจแค่อยากแต่งตัวตามกระแสมั้งคะ

Tawin Wongdaeng ประเทศไทยเป็น สังคมฉาบฉวย ผมว่ากระแสอยู่ได้ไม่เกินกลางปี

Mnut Seree ที่เห็นว่าแต่งชุดไทย ก็เห็นพากันแต่งแต่ชุดของนายทาสกันทั้งนั้น แล้วคนรับใช้ที่เป็นทาสนายหละ ไม่เห็นมีใครแต่งเป็นแบบพวกเขาบ้าง หรือว่าพวกเขาไม่ได้คนไทยงั้นหรือ ?

Poe Wattananon Schmidt กระแสทุกกระแสในไทยทำให้รู้ว่าคนไทยกล่อมง่ายมากกก ละครเรื่องเดียวกล่อมคนได้ไวมาก ตอนนักร้องดังวิ่งขอรับบริจาคก็คลั่งกันทั้งเด๋กทั้งผู้ใหญ่เหมือนเป็นสิ่งๆเดียวที่มีในสังคมตอนนั้น
จะบอกว่าเป็นกระแสโซเชียลด้วยก็น่าจะมีส่วน แต่ประเทศอื่นมันไวและง่ายแบบนี้หรือเปล่า