วันจันทร์, มกราคม 22, 2561

ว้าว กรรมาธิการข้างน้อยแก้ต่างให้ข้างมาก ไอ้เรื่องยืด ๙๐ วันนั่นน่ะ

กรรมาธิการร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. นี่วงดุริยางค์ คสช. เนอะ ทั้งปี่ทั้งขลุ่ยสอดประสาน แถมเสียงข้างน้อยแก้ต่างให้เสียงข้างมากซะอีก

นายเสรี สุวรรณภานนท์ อ้างตนเองและนายวันชัย สอนศิริ เป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เมื่อมติคณะ กมธ. เห็นชอบยืดเวลาบังคับใช้ออกไปอีก ๙๐ วันหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา ว่านั่น เป็นความหวังดีของคณะกรรมาธิการฯ

เชื่อว่าข้อเสนอของคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากก็เป็นความตั้งใจดีที่จะทำให้การเลือกตั้งในครั้งหน้ามีความบริสุทธิ์ยุติธรรม” และ “ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าไม่ได้เป็นใบสั่งใคร”

แน่ะ ช่วยย้ำคำแก้ตัวของหัวหน้าใหญ่เสียด้วย นักข่าวถามบิ๊กตุ่นตอนไปเปิดงานสัมมนานักบริหารระดับสูง ว่า “ยังสามารถจัดการเลือกตั้งขึ้นภายในปีนี้ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆ ว่าไม่ได้มีใบสั่ง และไม่ขอตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
 
ข่าวว่าบรรดากรรมาธิการฯ ทั้งหลายพากันเลี่ยง หลบ ไม่ยอมไขข้อข้องใจเรื่องใบสั่งยืดเวลา นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน โฆษก กมธ. บอก “ไม่ใช่หน้าที่ตนที่จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง” ส่วนกรรมาธิการฯ คนอื่นๆ ไม่ว่านายวิทยา ผิวผ่อง นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ หรือพล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ต่างโบ้ย โนคอมเม้นต์

กระทั่งนายชาญวิทย์ วสยางกูร อ้างว่าขาดประชุมวันนั้นพอดี “จึงไม่สามารถมาให้ข้อเท็จจริงได้” จะมีก็แต่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ คุยว่าใครจะรู้ดีกว่ากรรมาธิการฯ ไม่มี

“เราจะรู้และทราบข้อเท็จจริงอย่างดีที่สุด ว่าการกำหนดวันเวลาหรือการเขียนกฎหมายดังกล่าว มีความจำเป็นหรือเหตุผลอะไร” แต่ “เหตุผลบางอย่างที่มีความจำเป็น ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ทั้งหมด”


เอ ไอ้เหตุผลที่ไม่แสดงออกมา หลักตรรกะวิทยาเขาถือว่า ไม่มีเหตุผล นะ รึว่าติดนิสัย (เสีย) ของ คสช. ไม่ต้องฟังเหตุฟังผล จะทำอะไรต้อง “ตรงตามแผนปฏิรูปประเทศ เพราะแผนก็จะต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ดังที่ประยุทธ์สั่งข้าราชการให้ทำตามอย่างตน “ทุกคืนจะสวดมนต์ให้ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ แต่ทุกวันนี้ต้องสวดมนต์ให้คสช.ด้วย ให้เอาตัวให้รอด

มันจะไม่รอดก็ตรงที่ คสช.ลองผิดมากกว่าลองถูกเยอะเลย อย่างเรื่อง ส่งออกที่คุยนักคุยหนาว่าปีนี้ดีแล้ว ที่ไหนได้ ยังไม่ทันจะพ้นเดือนมกราเจอจนได้ ปัญหารถยนต์ส่งออกไปเวียดนามเจอด่านตรวจมาตรฐาน ติดอยู่ที่ท่ายังเข้าไม่ได้บานเบอะ

รายงานข่าวระบุว่า การที่เวียดนามประกาศใช้มาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อสินค้านำเข้า อาจเป็นผลมาจากรัฐบาลเวียดนามต้องการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ลดการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ”

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ขอให้ “ท่านนายกฯ เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด แม้นว่าเมื่อปีที่แล้ว ในระหว่างการประชุมเอเปค ที่ดานัง “ซึ่งฝ่ายไทยได้แจ้งข้อกังวลเรื่องนี้ไป

ขณะที่นายกฯเวียดนามรับจะอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอน” ให้ อีกทั้ง “เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย H.E. Mr.Nguyen Hai Bang เข้าพบนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเวียดนามได้รับที่จะติดตามเรื่องนี้ให้”


แต่ก็ยังไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า นายพันหรือนายพล เพราะเดี๋ยวนี้ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลายมาเป็นนักการเมืองแล้วนิ ขณะที่ในวงวารทหารยังยำกันเละต่อไป

ล่าสุดที่เข้าตา สตง. เป็นการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกองทัพ ไอแม็ครุ่น ๒๑.๕ นิ้ว 9TANA @9tana แซะว่า “ราคาปกติ 53k VS ราคากองทัพ 139k. 😂😂😂 ย้ำว่าเป็นรุ่นปีที่แล้วเด้อ ไม่ใช่รุ่น Pro

ห้าหมื่นกับแสนสี่นี่ต่างกันกว่าเท่าตัวนะ ลองไปดูที่พวกไอทีเขาคุยกันทางทวี้ตภพ @9tana ว่า “อัพเกรดแบบ full option บวก final cut กับ logic pro ด้วย ก็ยังแค่ 78k.

 
Keerati Andurat @yugioh2500  ตอบ “มีแววว่าจะรวมค่า Software เพราะว่าบริษัทที่ขายเป็นเกี่ยวกับอนิเมชันครับ http://www.atapy.co.th

เบนซ์ (_ಠ) @simplybenz เสริม “ไปค้นดูแล้วเจ้าของบริษัทติดยศพันเอก... #ครุ่นคิด” 9TANA‏ @9tana กลับมาสวน “ประเด็นที่ สตง. เข้าตรวจสอบก็เพราะเรื่องนี้แหล่ะฮะ

เจ้าของบริษัทที่ขายของกับหัวหน้าโครงการเป็นพันเอกคนเดียวกัน” นี่ละที่เขาเรียกว่า ยุทธพาณิชย์