วันศุกร์, เมษายน 08, 2559

สงกรานต์ปีนี้เห็นทีจะกร่อย





สงกรานต์ปีนี้เห็นทีจะงานกร่อย ไม่ใช่แค่ห้ามขันแดงขาดหิริโอตตัปปะ แต่ยังห้ามเต้นบนรถกระบะ + ห้ามรถกระบะ + ห้ามแต่งตัวเปิ๊ดสะก๊าด โดนตำรวจจับ แล้ว "เปิ๊ดสะก๊าด" นี่จะตีความเป็นภาษากฎหมายยังไงดีหว่า

ประเพณีสงกรานต์ของชาวบ้านไม่ใช่สงกรานต์ "วิถีไทย" ในหนังสือแบบเรียน ยก อ.ปรานี วงษ์เทศ อีกทีว่า สงกรานต์ไทยแต่โบราณคือวันแห่งการปลดปล่อย ให้คนละเล่นสนุกสนานละเมิดข้อห้ามต่างๆ โดยไม่ถือสา เป็นช่วงที่ปล่อยให้ขบถต่อจารีตประเพณี ไม่ได้มีแค่แต่งชุดไทยรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่อย่างที่สร้างภาพกัน รดน้ำเสร็จก็เมาแอ๋ กลางคืนก็เล่นสะบ้า ถั่วโปน้ำเต้าปูปลา แน่ละพอสังคมเปลี่ยน มันก็มีหลายอย่างเปลี่ยนไป เล่นน้ำเล่นแป้งเล่นน้ำใส่น้ำแข็งเย็นเจี๊ยบ เอาถังขึ้นรถกระบะ แดนซ์กระจาย แต่มันไม่ได้เป็นปัญหาเพราะประชาธิปไตยหรือวัฒนธรรมตะวันตกหรอก ตรงข้ามเลย พอเป็นสังคมเมือง พอเป็นประชาธิปไตย ก็ทำให้มีคนเรียกร้องให้เคารพเสียงข้างน้อย คือคนไม่เล่นแต่เดือดร้อน

รัฐจึงต้องเข้ามาดูแลหลายเรื่อง ตั้งแต่ความปลอดภัย เมาไม่ขับ จำกัดความเร็ว จัดโซนจัดสายถนนเว้นที่จราจรให้พอเหมาะเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิเสียงข้างน้อย แต่ส่วนที่เป็นประเพณี "ปลดปล่อย" ก็ปล่อยให้ชาวบ้านเขาสนุกสนานกันเต็มที่ ใครจะเต้นก็เต้นไป ตราบใดที่ไม่อนาจาร รถกระบะบรรทุกน้ำอย่างภาพที่เห็นไม่ได้เป็นอันตราย (เพราะมันติดหนึบ) จะมีก็ตอนไปวิ่งถนนสายโล่งๆ ซึ่งต้องกวดขันความเร็ว

ไม่ใช่คิดแต่จะให้ใส่ชุดไทยเล่นสงกรานต์ฟอกกี้ ฉีดปี๊ดๆ แล้วเข้าห้างกินอาหารญี่ปุ่นเอาบิลมาลดภาษี นั่นมันสงกรานต์ของผู้ดี๊ผู้ดีที่ไม่เคยรู้รสความสนุกของประเพณีขบถไม่ถือสา

แต่รัฐ ราชการ ขี้เกียจจัดการปัญหาซับซ้อน ต้องใช้สมอง ต้องเปลืองเรี่ยวแรง จึงคิดแต่ว่าห้ามเสียให้หมด ง่ายดี ห้ามตาย ห้ามเต้น ห้ามรถกระบะ (บางจังหวัดห้ามสาดน้ำริมถนนแล้วก็มี แล้วจะให้คนไปเล่นที่ไหน)

แนวคิดแบบนี้มีมาก่อนแล้วละ สมัยยิ่งลักษณ์ตำรวจก็จะห้ามรถกระบะ แต่โดนคนโวยจนถอยไป หมอสมานก็เล่นง่าย ห้ามขายเหล้าให้หมดเลย แต่ไม่มีใครเอาด้วย

จนมาปีนี้ยุคนี้ "สงกรานต์วิถีรัฐ" จึงผงาด ด้วยอำนาจที่ไม่ต้องใช้ ม.44 แค่สั่งห้ามจะมีใครกล้า วิถีรัฐ รัฐศีลธรรม ขนบประเพณีอันดีงาม (สัจธรรมเกี่ยวกับอำนาจที่ไม่ชอบธรรมคือต้องอ้างศีลธรรมอ้างวัฒนธรรมดีงามความเป็นชาติ) พร้อมกับอ้างภัยแล้ง เข้ามจัดระเบียบ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่จัดระเบียบแต่ใช้อำนาจห้ามหมด ง่ายดี

นี่ก็ไม่ต่างกับประชาธิปไตยเลยครับ ประชาธิปไตยมันยุ่งยากนัก ต้องมีความเห็นหลากหลาย ต้องจัดการความขัดแย้ง ฉะนั้นไม่ต้องเป็นประชาธิปไตย ง่ายดี

 Atukkit Sawangsuk