หวังว่าสักวันหนึ่ง
จำเลยในวันนี้จะเป็นโจทก์ในวันหน้า
ส่วนจำเลยในวันหน้าก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเสียที
...................
ภาพแรกคือ
ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือ ทนายจูน ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและหนึ่งในคณะทำงานคดี 14 ขบวนประชาธิปไตยใหม่ เข้ารับทราบข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน-แจ้งความเท็จ แล้ว หลังปฏิเสธไม่ให้ ตร. ที่ไม่มีหมายค้นรถตนเองเพื่อยึดโทรศัพท์ขบวนประชาธิปไตยใหม่ โดยระบอบรัฐประหารทำใหทนายความที่ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของลูกความได้กลายเป็น "จำเลย" ที่ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาและลงลายมือไว้เป็นหลัก,าน
ดู
'ทนายจูน' เข้ารับทราบข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน-แจ้งความเท็จ แล้ว
http://prachatai.org/journal/2016/02/63960
ใบแจ้งช่าวสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เข้าร่วมฟังคำพิพากษา คดี “อภิชาต พงศ์สวัสดิ์” ชูป้ายคัดค้านรัฐประหารหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ ซึ่งศาลแขวงปทุมวัน จะมีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง อภิชาต พงษ์สวัสดิ์ นักกิจกรรมและนักวิชาการด้านกฎหมายรุ่นใหม่ เป็นจำเลยในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 8, 11 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557 เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 215 วรรคแรก, 216 และ 368 วรรคแรก เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 (คดีหมายเลขดำที่ 363/2558) จากกรณีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร เพื่อคัดค้านการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557
https://www.facebook.com/naksit.org/photos/a.135675933167580.26339.115427115192462/981739075227924/?type=3&theater
ทั้ง 2 ภาพคือการกลัยหัวกลับหางของกระบวนการยุติธรรมโดยแท้
ภาพแรก ทนายความที่คุ้นครองสิทธิของลูกความ จากเจ้าหน้าที่รัฐ กลับ โดนเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเมิดสิทธิ์ฟ้องในข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน-แจ้งความเท็จ
ส่วนภาพต่อมา คนที่ยืนยันความถูกต้องของกฎหมาย กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในฐานะจำเลย แทนที่จะเป็นโจทก์ฟ้องคณะรัฐประหารที่ทำผิดกฎหมาย
หวังว่า เมื่อระบอบรัฐประหารหมดไป จำเลยที่แท้จริงทั้ง 2 คดี จะต้องเข้าสู่่กระบวนการบุติธรรม ในฐานะจำเลยเสียที
ส่วนจำเลยในระบอบรัฐประหารก็จะกลายเป็นโจทก์ที่แท้จริงด้วย
ที่มา เพจ Thanapol Eawsakul