ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
รายงานพิเศษ
31 ก.ค.เป็นปฏิทินวันหย่อนบัตรออกเสียงประชามติ และเป็นวันชี้ชะตาอนาคตร่างรัฐธรรมนูญฉบับนาย มีชัย ฤชุพันธุ์ หัวขบวนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์และ คสช.ให้ผกผัน
ยิ่งร่างแรกรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์จุดอ่อนมากกว่าจุดแข็งถาโถมจากกลุ่มการเมืองพรรคการเมือง และนักวิชาการ โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองซึ่งมีอดีต ส.ส.ในพื้นที่-หัวคะแนน ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนคอยเป็นกระบอกเสียงให้แก่กลุ่มการเมืองขยายแผลและนำไปสู่การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ
ระหว่างทางก่อนเสียงโหวตประชามติจะดังระงม ลมใต้ปีกที่ค้ำยันอำนาจรัฐบาล-คสช. อย่างกองทัพบกของ "บิ๊กหมู" พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเป็น น้องรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ-รมว.กลาโหม จึงซุ่มจัดแคมเปญภายใต้ชื่อโครงการ "รด.จิตอาสา" มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี"58 โดยใช้กลไกของนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ทั่วประเทศกว่า 326,000 คนต่อปี ขณะนี้เปิดรับสมัครนักเรียน รด.เข้าร่วมโครงการแล้ว 83,502 นาย
โครงการนี้เกิดขึ้นมาได้โดยสมมุติฐานที่ว่า นักเรียน รด.สามารถติดต่อกันได้สะดวก-รวดเร็วผ่านแอปพลิเคชั่น เช่น ไลน์ หรือสื่อโซเชียลมีเดีย ได้แก่ เฟซบุ๊ก ทำให้สามารถรวมตัวกัน-ติดต่อกันได้ และเพื่อให้ใช้งานได้ จึงจัดตั้งองค์กรควบคุมอย่างเป็นระบบ ถูกต้อง สังคมยอมรับ ผ่านโครงการ รด.จิตอาสา
โครงการ "รด.จิตอาสา" จึงจัดตั้งขึ้นให้ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1.ศูนย์ฝึกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารซึ่งเป็นสถานที่ฝึกนักเรียน รด. 2.สถานศึกษา โดยมี ครู-อาจารย์ในโรงเรียนที่ได้รับการฝึก-แต่งตั้งเป็นผู้กำกับ นศท. เป็นผู้ปกครอง และ 3.สัสดีประจำอำเภอ
ทั้งหมดได้รับมอบภารกิจร้อนเพื่อสร้างการรับรู้ร่างรัฐธรรมนูญ-กระตุ้นต่อมประชามติให้กับคนใกล้ชิด ได้แก่ พ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนฝูง ในพื้นที่ก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ ซึ่งทำมาแล้วกว่า 2 เดือน
โดยงานสร้างการรับรู้เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ มี "อมร วาณิชวิวัฒน์" โฆษก กรธ. เป็นพี่เลี้ยงคอยป้อนข้อมูล ขณะที่การรณรงค์ให้ออกมาทำประชามติได้ "ประวิตร รัตนเพียร" กกต.ด้านการมีส่วนร่วมจัดทีมออกอีเวนต์ให้กับ รด.จิตอาสา
ขณะที่ต่างจังหวัดมี กกต.จังหวัด ร่วมกับศูนย์ฝึกหน่วยฝึก รด.ทั่วประเทศ อบรมเรื่องการออกมาใช้สิทธิลงประชามติไปแล้วบางส่วน และตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค.จะฝึกอบรมให้ครบทั่วประเทศ จนกว่าจะมีการทำประชามติ
โดยมีห้องติดตามสถานการณ์ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เพื่อรับข้อมูลและกระจายไปทั่วประเทศ
กรอบการทำงานหลัก 5 ด้าน ได้แก่ 1.การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น กิจกรรมปกป้องการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์
2.งานช่วยเหลือสังคมตามขีดความสามารถ เช่น กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์สถานที่สำคัญ
3.งานการบรรเทาสาธารณภัย เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
4.งานสร้างการรับรู้ ได้แก่ โรดแมปของ คสช. ผลงานของรัฐบาล ร่างรัฐธรรมนูญและรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงคะแนนประชามติ
5.งานสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดย รด.จิตอาสา จัดกิจกรรมขึ้นเอง ตามแนวความคิด หรือการเข้าร่วมกับ ชป.มวลชน ของหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ หรือการให้ความร่วมมือศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.)
สิทธิประโยชน์ที่นักเรียน รด.ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับ อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านเวลาเรียน จากการทำกิจกรรม มีสิทธิ์ประดับเครื่องหมาย "รด.จิตอาสา" ที่แขนเสื้อด้านซ้ายของเครื่องแบบฝึก ใต้เครื่องหมาย "รักชาติยิ่งชีพ"
มีสิทธิ์สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาว ประดับตราเครื่องหมาย รด.จิตอาสา ในการปฏิบัติงานที่เหมาะสม เช่น การช่วยเหลือสังคม, การบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น แบบเสื้อยืดคอกลม แขนยาว
นอกจากกลไกนักศึกษาวิชาทหารแล้ว "พล.อ.ธีรชัย" ในฐานะเลขาธิการ คสช. ซึ่งสวมหมวกผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ (กกล.รส.) อีกตำแหน่ง ยังมีกลไกของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1-4 เป็นกลไกสร้างการรับรู้ต่อร่างรัฐธรรมนูญ-รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติ
นอกเหนือจากภารกิจ กกล.รส.เดิม จำนวน 7 เรื่อง ได้แก่ 1.การปฏิบัติต่อเป้าหมายบุคคล และการติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ 2.การติดตามเฝ้าระวังสื่อโทรทัศน์ โทรคมนาคม ระบบการติดต่อสื่อสาร สถานีวิทยุชุมชน และสื่อออนไลน์ 3.การควบคุมระบบคมนาคม การจัดตั้งด่านตรวจจุดตรวจ เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
4.การควบคุมการเคลื่อนไหวการชุมนุม บังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ต่อต้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ และการบริหารงานแผ่นดิน 5.การปฏิบัติการกิจการพลเรือน 6.การปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. และ 7.การปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.กกล.รส.
เมื่อ พล.อ.ประวิตร ลั่นวาจาไว้แล้วว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงต้องผ่านประชามติ ที่เหลือจึงเป็นภาระของ พล.อ.ธีรชัย น้องรักสานฝันพี่ใหญ่ให้ได้ไปต่อ