ไปแล้ว ขออย่าได้ไปลับ ทั่นหัวหน้ารัฐประหารผันตัวเองเป็นนายกฯ คนที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ผู้ดีรัตนโกสินทร์ชมว่า “เป็นคนตั้งใจทำงานมาก”
(http://www.dailynews.co.th/politics/378647)
หากแต่เจ้าตัวอวดสรรพคุณตัวเอง (ฝากไปถึงวงการโซเชียลมีเดีย) ให้รู้ไว้ซะด้วยว่า เป็นอะไรต่ออะไรหลายอย่าง แต่ “ไม่ใช่หมู หมา กา ไก่” นะตะเอง
จะใครเสียอีกนอกไปจาก ‘บิ๊กตุ๊ดตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนที่ AMM -แอนดรูว์ ม. มาร์แชล แซวว่า พร่ำภาวนา “prays for somebody to take him seriously.”
เขาผละจากประเทศไทยเมื่อตอนเช้าของวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พร้อมด้วยคณะ “อาทิ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี” โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไรแก่ผู้สื่อข่าวเหมือนก่อน
“ไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ (U.S.-ASEAN Leaders Summit) ณ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๘ ก.พ. ๒๕๕๙” โดยมีกำหนดการหารือแบ่งออกเป็น ๓ หัวข้อ คือ
วันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๕๙ ช่วงบ่าย การหารืออย่างเป็นทางการครั้งที่ ๑ หัวข้อ ‘การส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคผ่านนวัตกรรมและประกอบการธุรกิจ’ จากนั้นจะเป็นการหารือระหว่างอาหารค่ำในหัวข้อ ‘ทิศทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค’
และในช่วงเช้าวันที่ ๑๖ ก.พ.นี้ จะเป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ ๒ ในหัวข้อ ‘การรักษาสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงในเอเชีย-แปซิฟิก”
(http://www.thairath.co.th/content/577289)
กำหนดการเพิ่มเติม จากทวี้ตของ Deep Blue Sea @WassanaNanuam เผยอีกว่า “ที่ CA นายกฯ จะได้เปิดโอกาสให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ไทยที่ทำงานที่ NASA และบริษัท Amazon เข้าพบ ณ รร.ที่พัก ที่ Sunnylands ด้วย”
แล้วก็เรื่องของการเดินทางคุณวาสบอก “บินด้วย TG 676 ไปโตเกียว ต่อ NH6 (สายการบิน ANA ของญี่ปุ่น) ไป LA...ไกล..ใช้เวลาเดินทางไปกลับก็ ๒-๓ วัน”
หมายความว่าทั่นหัวหน้าจะมีเวลาอยู่ที่แรนโชมิราจเพียงสองวัน การพบกับเอกชนที่โรงแรมจึงเป็นบ่ายวันอังคาร พวกมิตรรักนักแต่งเพลงคืนความสุขอยากไปให้กำลังใจก็คงต้องที่สนามบิน ‘แอลเอเอ็กซ์’ ล่ะนะ เพราะทางการไม่ยอมเผยว่าที่พักเป็นโรงแรมอะไร ระหว่างริทซ์คาร์ลตันกับเวสตินมิสชั่นฮิลส์รีสอร์ท
อ้อ แล้วก็ตลอดที่มีการประชุมซัมมิตอาเซียน สวนซันนี่แลนด์สเขาปิดสำหรับให้ผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าไปได้ แต่ว่าบริเวณทางเข้าด้านหน้ามีลานกว้างไว้สำหรับให้คนจำนวนมากไปชุมนุมกัน
(อันนี้คงทราบกันบ้างแล้วว่ากลุ่ม ‘เร็ดยูเอสเอ’ เตรียมไปชุมนุมต้อนรับอย่างสมน้ำสมเนื้อแก่ผู้เผด็จการ นอกเหนือจากที่ส่งจดหมายแจ้งความผิดยาวเหยียดไปถึงประธานาธิบดีโอบาม่าแล้วเรียบร้อย ดูนี่ http://thaienews.blogspot.com/2016/02/blog-post_35.html)
ซึ่งตามข่าว น.ส.พ. แอล.เอ.ไทมส์ วันนี้รายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ หลายหน่วยมีความไม่สบายใจ ที่แขกรับเชิญของประธานาธิบดีโอบาม่าจาก ๑๐ ประเทศอาเซียนนี้ มีเพียงสามชาติที่ตัวแทนมาจากการเลือกตั้ง แถมหนึ่งในนั้นมาจากรัฐที่มีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวในทางปฏิบัติ
นอกนั้นล้วนเป็น ‘ผู้เผด็จการ’ ซึ่งจะทำให้การรับเป็นเจ้าภาพของนายโอบาม่าครั้งนี้กลายเป็น “ให้การรับรองรัฐบาลที่กดขี่” ไปเสียฉิบ
หัวหอกสำคัญที่คัดค้านการประชุมสุดยอดผู้เผด็จการแห่งเอเซียอาคเนย์ครั้งแรกที่แรนโชมิราจนี้คือ จอห์น ซิฟตัน แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ ที่กล่าวว่า
“ประธานาธิบดีโอบาม่ารู้ดีว่าสิทธิมนุษยชนถูกกระทำตำบอนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ คำถามมีว่าท่านจะพูดหรือทำอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว”
“ความเสี่ยงอันอาจเกิดขึ้น” แถลงการณ์ของฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์เอ่ยถึงตอนหนึ่ง “อยู่ที่ การประชุมสุดยอดที่ซันนี่แลนด์สจะกลายเป็นการเสริมอำนาจ ทำให้พวกผู้นำอาเซียนที่ปฏิบัติการจับกุมคุมขังสื่อมวลชน ปราบปรามการประท้วงอย่างสันติ และทำลายสถาบันประชาธิปไตยโดยการทำรัฐประหาร กร่างยิ่งขึ้น”
(http://www.latimes.com/…/la-fg-parade-of-dictators-20160212…)
บรรดาผู้นำเจ็ดคนที่เดอะแอลเอไทมส์บอกว่าเป็นพวกเผด็จการนั้น เริ่มด้วยนายฮุนเซ็นจากกัมพูชา ตามติดด้วยประยุทธ์ จันทร์โอชา ของประเทศไทย อันดับสามนายนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย คนที่สี่ ฮัสซานัล โบลกิอะห์ แห่งบรูไน ที่ห้า เตียน เสียน ของพม่า ที่หก ชุ่มมาลี สายสร แห่งลาว และปิดท้ายด้วย เหงียน ทันดัง ของเวียตนาม
ทั้งนี้โดยบรรยายถึงสรรพคุณของแต่ละคนในความเป็นเผด็จการไว้อย่างครบครัน ดังเช่น ประยุทธ์ในวัย ๖๑ ปี ทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี ๒๕๕๗ “เขาได้ปิดปากสื่อและคุมขังนักกิจกรรมเพียงเพราะแค่กระทำการต่อต้านเล็กน้อย
เขายังถูกกล่าวถึงว่าโด่งดังในทางที่เป็น ‘บุรุษเหล็กจอมเซี้ยว’ ด้วยการปราศรัยทางโทรทัศน์ยาวเหยียด แต่จับเอาอะไรไปกระเดียดไม่ได้สักอย่าง เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมาเขาบอกกับผู้ฟังว่าไปรดน้ำมนต์ชำระล้างคำสาปแช่งจากฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว
แม้ว่าสหรัฐยังคงมองว่าประเทศไทยเป็นมิตรยั่งยืน ประยุทธ์ก็ได้หักเหไปหาจีนอย่างฉับพลันเมื่อปีที่แล้ว
รัฐบาลในกรุงเทพฯ ได้ดำเนินการจัดส่งชาวจีนที่ต่อต้านรัฐบาลของตนอย่างน้อยสองคนกลับไปให้จีนอย่างเป็นทางการ และส่งผู้ลี้ภัยมุสลิมอัยกูร์นับร้อยคนที่หนีการกดขี่ข่มเหงกลับไปให้จีน ที่ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนชี้ว่าพวกเขาอาจกลับไปเจอกับการกักกันและทรมานอีกก็ได้”
แบบนี้ไม่ใช่หมูหมากาไก่แน่นอน แต่จะเป็นเสือสิงหืกระทิงแรด หรือว่างูเงี้ยวเขี้ยวขอ เรื่อยไปถึงเลื้อยคลานอย่างใหญ่ ตะเข้ตะกวด ก็ไม่แน่
