วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 29, 2559

ตั้งโต๊ะแถลง แฉถูกทหาร-ตร.สั่งยกเลิกให้ใช้ที่จัดเสวนาปมประชามติ ถึง2งาน




ที่มา มติชนออนไลน์
28 ก.พ. 59

ภาคประชาสังคม ตั้งโต๊ะแถลง ถูกสั่งห้ามใช้พื้นที่จัดเสวนา-แสดงความเห็นปมรธน.อย่างสันติ

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่คณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เว็บไซต์ประชามติจัดงานแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้ากดดันไม่ให้มีการจัดกิจกรรม รัฐธรรมนูญใหม่ เอาไงดีจ๊ะ? และแถลงจุดยืนของเครือข่ายเว็บไซต์ประชามติต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญภายใต้บรรยากาศที่เสรีภาพการแสดงความคิดเห็นถูกปิดกั้น ร่วมแถลงข่าวโดย นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ผู้ร่วมก่อตั้งสำนักข่าวไทยพับลิก้า นายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการ iLaw

นายยิ่งชีพ กล่าวถึงแถลงการณ์ “ขอยึดมั่นในหลักเสรีภาพการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชน” ว่า ตามที่เครือข่ายเว็บไซต์ประชามติกำหนดจัดกิจกรรมเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญสองกิจกรรม คือ งานเสวนาสาธารณะหัวข้อ “รัฐธรรมนูญใหม่เอายังไงดีจ๊ะ?” และงานประกวดนำเสนอ PetchaKucha หัวข้อรัฐธรรมนูญที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันและกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ แจ้งมายังหอศิลป์ฯ ว่ากิจกรรมนี้อาจเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง จึงยกเลิกการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมดังกล่าว ทำให้กิจกรรมทั้งสองมีอุปสรรค ต้องย้ายสถานที่จัดงานอย่างเร่งด่วนนั้น ทางเครือข่ายเว็บไซต์ประชามติมีข้อสังเกตดังนี้

“ข้อหนึ่ง เครือข่ายเว็บไซต์ประชามติก่อตั้งขึ้น และดำเนินกิจกรรมโดยตั้งอยู่บนหลักเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปสังคม เพราะเชื่อว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนในบรรยากาศที่เปิดกว้างเท่านั้นที่เป็นเครื่องรับประกันได้ว่ารัฐธรรมนูญและนโยบายสาธารณะทุกรูปแบบจะถูกออกแบบขึ้นโดยสอดรับกับความต้องการของประชาชน นำไปสู่การแก้ปัญหาอันซับซ้อนของสังคมได้จริง

“ข้อสอง ความพยายามปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น หรือการต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อนแสดงความคิดเห็นในประเด็นอันเป็นประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่วิธีการที่จะค้นหาคำตอบให้กับสังคมอย่างยั่งยืนได้ มีแต่จะสร้างความรู้สึกอึดอัดและแตกแยก จนบ่มเพาะให้สังคมเต็มไปด้วยความแตกแยกที่ฝังรากลึกมากขึ้นทุกวัน ช่วงเวลาที่สังคมมีความขัดแย้งสูงอย่างในปัจจุบัน ไม่มีกระบวนการใดที่จะเป็นเครื่องมือพาสังคมเดินหน้าไปได้นอกจากการเปิดพื้นที่ให้ทุกความคิดเห็นได้มีส่วนร่วมในการพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างเป็นอิสระ

“ข้อสาม ในบรรยากาศจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ และกำลังจะมีการทำประชามติโดยประชาชน หลักการเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น หากประชาชนถูกปิดกั้นหรือขัดขวางไม่ให้พูดคุุยในประเด็นรัฐธรรมนูญ ย่อมทำให้กระบวนที่ที่ขาดความชอบธรรมอยู่แล้วยิ่งสูญเสียความชอบธรรมยิ่งขึ้น

“เครือข่ายเว็บไซต์ประชามติยืนยันเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อสร้างบทสนทนาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่เปิดกว้างสำหรับทุกฝ่ายจ่อไปขอชักชวนประชาชนทุกฝ่ายยึดมั่นเสรีภาพการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชนพยายามสร้างพื้นที่พูดคุยและเปลี่ยนความเห็นในประเด็นรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปสังคมมากที่สุด แม้ภายใต้บรรยากาศที่มีข้อจำกัดในนามของความมั่นคงอย่างในปัจจุบัน”

ส่วนตัวเป็นคนประสานกับเจ้าหน้าที่ทางหอศิลป์และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารโดยตรง และเห็นได้ชัดว่าผู้ที่ไม่อยากให้มีการจัดกิจกรรมนี้คือเจ้าหน้าที่ทหาร มีความพยายามจะไม่ออกหน้าเอง โดยให้ตำรวจเป็นผู้ออกสื่อ

“หลังจากที่ตนชี้แจงกับทหาร ทหารก็ชี้แจงว่ากำลังพิจารณาแต่อันที่จริงไม่ได้พิจารณาตามที่กล่าวไว้ และบีบให้หอศิลป์เป็นฝ่ายออกคำสั่งยกเลิกงาน ส่วนตัวคิดว่าทหารควรจะกล้าออกหน้าด้วยครับ” นายยิ่งชีพกล่าวในที่สุด

น.ส.สฤณี กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิด การจะให้ลงประชามติภายใต้บรรยากาศที่มีคำสั่งของ คสช. นั้นเป็นการลงประชามติแบบไม่เปิดกว้าง

นายจอน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นของปวงชนชาวไทย หมายความว่าประเทศนี้มีประชาชนเป็นเจ้าของร่วมกันรัฐธรรมนูญคือการอยู่ร่วมกันของประชาชน ประชาชนต้องมาตกลงกันว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร แต่ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นไม่ได้ร่างขึ้นโดยประชาชนหรือรับฟังความเห็นของประชาชนในระดับกว้าง

“ทางผู้มีอำนาจพยายามให้มีการจัดประชามติเพื่อรับรองรัฐธรรมนูญนี้ ซึ่งประชามติควรเกิดขึ้นหลังจากประชาชนรับรู้ข้อมูลอย่างทั่วด้าน แต่ขณะนี้ การที่ประชาชนจะได้รับทราบรายละเอียดของรัฐธรรมนูญนั้นถูกปิดกั้น ซึ่งถ้าสถานการณ์นี้ยังมีต่อไปจนถึงเวลาประชามติ ประชามติที่ได้มาก็ไม่มีความหมาย เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น” นายจอนกล่าว และว่า ผู้มีอำนาจควรเปิดโอกาสให้คนได้แสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ สื่อมวลชนก็ควรมีสิทธิเสรีภาพในการเสนอมุมมองในส่วนต่างๆ ของสังคม และต่อข้ออ้างที่ว่าการจัดกิจกรรมนี้จะเป็นสาเหตุของความวุ่นวายนั้น คิดว่าเป็นเพียงข้ออ้างของผู้มีอำนาจที่กลัวว่าตนจะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากกว่า เพราะถ้ามองว่าประเทศนี้เป็นของประชาชน ก็ต้องยึดมั่นว่าประชาชนคือผู้กำหนดอนาคตของประเทศชาติ

“เราไม่มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย แต่อยากเปิดเวทีให้ประชาชนได้แสดงความเห็นอย่างสันติเท่านั้น” นายจอนกล่าวในที่สุด

นายเอกพันธุ์ กล่าวว่า ในกระบวนการที่จะเกิดการลงประชามติก็เป็นกระบวนการที่ตั้งบนฐานการตัดสินใจของประชาชน และจะเกิดได้เมื่อประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในอำนาจที่ตนจะได้ใช้ ประชาชนควรรับทราบว่าร่างรัฐธรรมนูญ มีจุดบกพร่องและมีข้อดีอย่างไร

“กระบวนการที่ไม่มีการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนจึงผิดหลักของประชาธิปไตย ทางกลุ่มจึงยืนยันว่าการแลกเปลี่ยนของประชาชนนั้นเป็นส่วนสำคัญมากที่สุด ไม่ว่ารัฐธรรมนูญนี้จะผ่านหรือไม่ แต่ถ้าประชาชนได้ตัดสินใจทำประชามติบนพื้นฐานของความรู้ความเข้าใจ ผลที่ออกมาก็เป็นที่ยอมรับได้แน่นอน” นายเอกพันธุ์กล่าว




ooo




28 ก.พ. | ข่าว 19.00 น.หลังยุติกิจกรรมเสวนาสาธารณะ ในหัวข้อ "รัฐธรรมนูญใหม่เอายังไงดีจ๊ะ" ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานค...
Posted by Thai PBS News on Sunday, February 28, 2016
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews/videos/966352456773814/