ที่มา FB
บีบีซีไทย - BBC Thai
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ‘อภิสิทธิ์’-‘สุเทพ’ คดีสั่งสลายการชุมนุมปี 2553 ชี้ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน
ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากกรณีสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตามคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ( ศอฉ.) เมื่อปี 2553
คดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวน และส่งสำนวนให้อัยการเป็นผู้ฟ้องจำเลยทั้งสอง โดยศาลชั้นต้นชี้ว่านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ออกคำสั่งขณะดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่การกระทำในฐานะส่วนตัว ถือเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง ต้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลความผิดและยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจในการสอบสวน โดยศาลอุทธรณ์เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น สั่งพิพากษายืนยกฟ้องจำเลย
ooo
ooo
ที่มา
ประชาชนคงพึ่งศาลไทยไม่ได้แล้วจริงๆ
คดีสลายการชุมนุม 2553
โดยการนำของ..
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
และ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานศูนย์ ศอฉ.
สั่งการให้มีการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง
ในวันที่ 10 เมษา และ 13-19 พฤษภาคม 2553
การสลายการชุมนุม ใช้มาตรการ หนักกับประชาชน
มีการใช้กระสุนจริง
ใช้อาวุธสงคราม ยิงประชาชน
ความตาย 100 ศพ
บาดเจ็บกว่า 2000 คน
พิการอีกกว่า 47 คน!
แต่ศาลไทยกลับเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ได้!
วันนี้ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น
สั่งยกฟ้อง นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ!
ผู้ที่สั่งให้มีการสังหารประชาชน
*
ในเมื่อไม่เห็นค่าของความเป็นมนุษย์
ในเมื่อไม่เห็นหัวประชาชนในประเทศ
ในเมื่อไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน
ในเมื่อไม่เห็นแก่ชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชน
ต่อไปคดีนี้ ประชาชนในประเทศไทย คงพึ่งศาลไทยอีกไม่ได้แล้ว!!
//กู่เจิ้ง
ooo
ข่าวเก่าเล่าใหม่...
ที่มา FB
March 4, 2015 ·
"คนตัดสินใจสลายการชุมนุม คือนายกฯ(อภิสิทธิ์ฯ) ผมอยู่ในกระบวนการรู้เห็นเท่านั้น"
คือถ้อยคำของ"ลุงป้อม" ลูกผู้ชายชาติทหารนาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม คนปัจจุบัน ครับ
ทหารมีหน้าที่ปฏิบัติ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ดังนั้นเมื่อนายกฯสั่งการอย่างไร ทหารก็ต้องรับปฏิบัติไปตามนั้น เมื่อมีเหตุผิดพลาดประการใด ผู้สั่งการก็ควรจะเป็น"ลูกผู้ชาย"พอ ที่จะรับผิดชอบ ต่อความผิดที่เกิดขึ้น
มีคนส่งคอลัมน์ที่ "แม่ลูกจันทร์" เคยเขียนไว้มาให้ผมอ่าน เป็นคำตัดสินของศาลอาญา ในคดีสังหารหมู่ในวัดปทุมฯ ช่วงการสลายการชุมนุมกลุ่ม"คนเสื้อแดง" ซึ่งมีผู้เสียชีวิต6ศพ ตามนี้ครับ
http://www.thairath.co.th/content/362198
ในคอลัมน์ ได้เขียนถึง ผู้เสียชีวิต ได้แก่ อาสาสมัครพยาบาล, อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง, พนักงานขับรถสนามบิน, เกษตรชาวนา, และอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเข้าไปหลบภัยในวัดปทุมวนาราม ซึ่งประกาศเป็น “เขตอภัยทาน”
ณ วันนี้ ได้มีคำสั่งศาลอาญา ชี้ว่าทั้ง 6 ศพเสียชีวิตเพราะถูก ทหารยิงด้วยอาวุธสงคราม ซึ่ง“แม่ลูกจันทร์” กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลอาญาทำให้ความเคลือบแคลงต่างๆ ได้ข้อยุติ อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน โดยสรุปหลักฐาน และเหตุผลต่างๆ ได้ 7 ประเด็นดังนี้
1, เหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่อยู่บนชั้น 12 ของอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่า หน่วยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ใช้ปืนยิงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนาราม
2, ผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายทั้ง 6 ราย พบกระสุนปืนเอ็ม 16 ตรงกับอาวุธปืนประจำกายของทหารกองพันจู่โจมที่ปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
3, ข้ออ้างว่ามีชายชุดดำ 2 คนยิงปืนก่อน ทหารจึงต้องยิงสวนกลับไป ข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีภาพชายชุดดำที่กล่าวอ้างแม้แต่ภาพเดียว
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในจุดใกล้เคียงได้เบิก ความว่า ไม่พบชายชุดดำในบริเวณดังกล่าวเลย
4, หากมีชายชุดดำอยู่จริงคงไม่ปล่อยให้ทหารยิงฝ่ายเดียวนานถึง 40 นาที อีกทั้งทหารที่ประจำการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสเบิกความยอมรับว่า ไม่มีชายชุดดำในวัดปทุมวนาราม
5, พยานที่อ้างว่ามองเห็นปืนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีน้ำหนักรับฟัง เนื่องจากตรวจพบว่าทหารได้พาพยานปากนี้ไปรับเงินในค่ายทหารแห่งหนึ่งก่อนนำตัวไปให้ตำรวจสอบปากคำ
6, การตรวจเขม่าปืนในมือผู้ตาย ทั้ง 6 ศพ ไม่พบคราบเขม่าดินปืนและไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน
7, การอ้างว่าตรวจพบอาวุธปืนในวัดปทุมวนาราม หลังจากการยุติการชุมนุมผ่านไปเป็นเวลานานหลายเดือน เป็นข้อพิรุธขาดนํ้าหนักให้ศาลเชื่อได้ว่า มีอาวุธปืนสงครามในวัดจริง
สรุป...ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้เสียชีวิต 5 ราย ตายเพราะถูกทหารกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสยิงถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 ที่ประจำการบนถนนพระรามที่ 1 ยิงถึงแก่ความตาย
ทั้งหมดที่สรุปข้างต้นคือความจริง 7 ประการ ที่ศาลอาญาได้มอบความยุติธรรมให้แก่เหยื่อคดีสังหารหมู่วัดปทุมฯ ครบถ้วนทั้ง 6 ราย
“แม่ลูกจันทร์” ขอประทานกราบเรียนท่านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โปรดนำความจริงก้อนนี้ไปต้มรับประทานแก้อาการประสาทชา
ปล.นักข่าวไปถามอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าศาลอาญาได้ชี้แล้วว่าผู้เสียชีวิต 6 ศพ วัดปทุมฯ ถูกทหารยิงตาย
“อภิสิทธิ์” ตีหน้าหล่อตอบว่าศาลระบุว่ากระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือใครยิง
อืมม์...ลีลาแบบนี้เค้าเรียกว่าแถทะลุซอย.
“แม่ลูกจันทร์”
--------------------
วันนั้น"ลุงป้อม"เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำสั่งของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วันนี้"ลุงป้อม" คือพยานปากเอก ที่จะชี้ให้เห็นได้ว่า ใครกันแน่คือผู้สั่งการฯ ตกลงจะเป็นความผิดของ "แถทะลุซอย" หรือเป็นความผิดของ "ทหารชั้นผู้น้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา"
คนไทยทั้งประเทศ รอคำตอบอยู่ครับ
"คนตัดสินใจสลายการชุมนุม คือนายกฯ(อภิสิทธิ์ฯ) ผมอยู่ในกระบวนการรู้เห็นเท่านั้น"
คือถ้อยคำของ"ลุงป้อม" ลูกผู้ชายชาติทหารนาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม คนปัจจุบัน ครับ
ทหารมีหน้าที่ปฏิบัติ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ดังนั้นเมื่อนายกฯสั่งการอย่างไร ทหารก็ต้องรับปฏิบัติไปตามนั้น เมื่อมีเหตุผิดพลาดประการใด ผู้สั่งการก็ควรจะเป็น"ลูกผู้ชาย"พอ ที่จะรับผิดชอบ ต่อความผิดที่เกิดขึ้น
มีคนส่งคอลัมน์ที่ "แม่ลูกจันทร์" เคยเขียนไว้มาให้ผมอ่าน เป็นคำตัดสินของศาลอาญา ในคดีสังหารหมู่ในวัดปทุมฯ ช่วงการสลายการชุมนุมกลุ่ม"คนเสื้อแดง" ซึ่งมีผู้เสียชีวิต6ศพ ตามนี้ครับ
http://www.thairath.co.th/content/362198
ในคอลัมน์ ได้เขียนถึง ผู้เสียชีวิต ได้แก่ อาสาสมัครพยาบาล, อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง, พนักงานขับรถสนามบิน, เกษตรชาวนา, และอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเข้าไปหลบภัยในวัดปทุมวนาราม ซึ่งประกาศเป็น “เขตอภัยทาน”
ณ วันนี้ ได้มีคำสั่งศาลอาญา ชี้ว่าทั้ง 6 ศพเสียชีวิตเพราะถูก ทหารยิงด้วยอาวุธสงคราม ซึ่ง“แม่ลูกจันทร์” กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลอาญาทำให้ความเคลือบแคลงต่างๆ ได้ข้อยุติ อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน โดยสรุปหลักฐาน และเหตุผลต่างๆ ได้ 7 ประเด็นดังนี้
1, เหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่อยู่บนชั้น 12 ของอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่า หน่วยทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ใช้ปืนยิงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุมในวัดปทุมวนาราม
2, ผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายทั้ง 6 ราย พบกระสุนปืนเอ็ม 16 ตรงกับอาวุธปืนประจำกายของทหารกองพันจู่โจมที่ปฏิบัติการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส
3, ข้ออ้างว่ามีชายชุดดำ 2 คนยิงปืนก่อน ทหารจึงต้องยิงสวนกลับไป ข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีภาพชายชุดดำที่กล่าวอ้างแม้แต่ภาพเดียว
ประกอบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในจุดใกล้เคียงได้เบิก ความว่า ไม่พบชายชุดดำในบริเวณดังกล่าวเลย
4, หากมีชายชุดดำอยู่จริงคงไม่ปล่อยให้ทหารยิงฝ่ายเดียวนานถึง 40 นาที อีกทั้งทหารที่ประจำการบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสเบิกความยอมรับว่า ไม่มีชายชุดดำในวัดปทุมวนาราม
5, พยานที่อ้างว่ามองเห็นปืนในกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีน้ำหนักรับฟัง เนื่องจากตรวจพบว่าทหารได้พาพยานปากนี้ไปรับเงินในค่ายทหารแห่งหนึ่งก่อนนำตัวไปให้ตำรวจสอบปากคำ
6, การตรวจเขม่าปืนในมือผู้ตาย ทั้ง 6 ศพ ไม่พบคราบเขม่าดินปืนและไม่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน
7, การอ้างว่าตรวจพบอาวุธปืนในวัดปทุมวนาราม หลังจากการยุติการชุมนุมผ่านไปเป็นเวลานานหลายเดือน เป็นข้อพิรุธขาดนํ้าหนักให้ศาลเชื่อได้ว่า มีอาวุธปืนสงครามในวัดจริง
สรุป...ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้เสียชีวิต 5 ราย ตายเพราะถูกทหารกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสยิงถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ถูกทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 ที่ประจำการบนถนนพระรามที่ 1 ยิงถึงแก่ความตาย
ทั้งหมดที่สรุปข้างต้นคือความจริง 7 ประการ ที่ศาลอาญาได้มอบความยุติธรรมให้แก่เหยื่อคดีสังหารหมู่วัดปทุมฯ ครบถ้วนทั้ง 6 ราย
“แม่ลูกจันทร์” ขอประทานกราบเรียนท่านคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ โปรดนำความจริงก้อนนี้ไปต้มรับประทานแก้อาการประสาทชา
ปล.นักข่าวไปถามอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าศาลอาญาได้ชี้แล้วว่าผู้เสียชีวิต 6 ศพ วัดปทุมฯ ถูกทหารยิงตาย
“อภิสิทธิ์” ตีหน้าหล่อตอบว่าศาลระบุว่ากระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือใครยิง
อืมม์...ลีลาแบบนี้เค้าเรียกว่าแถทะลุซอย.
“แม่ลูกจันทร์”
--------------------
วันนั้น"ลุงป้อม"เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำสั่งของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วันนี้"ลุงป้อม" คือพยานปากเอก ที่จะชี้ให้เห็นได้ว่า ใครกันแน่คือผู้สั่งการฯ ตกลงจะเป็นความผิดของ "แถทะลุซอย" หรือเป็นความผิดของ "ทหารชั้นผู้น้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา"
คนไทยทั้งประเทศ รอคำตอบอยู่ครับ