ความเป็นจริงบ้านเรา "ความเหลื่อมล้ำแทรกซึมทุกอณูของชีวิตคนไทย"

ตุ๊ดส์review
18h

"เงินแต่เพียงน้อยนิด อาจจะเป็นเงินทั้งชีวิตใน 1 วันของใครคนหนึ่ง หรือครอบครัวหนึ่งก็เป็นได้"
1) มีโอกาสได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของ #แจมรชตะ แล้วพบเรื่องราวที่น่าสนใจจากบทสัมภาษณ์ชุดนี้ ทำให้เรารู้จักตัวตนของเขามากขึ้น มากกว่ามุมมองของนักแสดงจากเรื่องคุณชาย เพราะชีวิตจริงของเขาไม่ใช่คุณชาย และต่อต่อสู้เดินทางมากอย่างทุลักทุเล กว่าจะมาโด่งดังอย่างทุกวันนี้ มันไม่ง่ายเลยกับคำว่า 'เด็กต่างจังหวัด'
2) คนต่างจังหวัด ที่ถูกถ่ายทอดมาในมุมของคุณแจม ดูเหมือนเขาจะแค่เล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ผ่านทัศนคติที่ต่อสู้ชีวิตมา แต่กลับกลายเป็นว่ามัน touch ใจเรา เพราะว่าเรื่องที่เขาเล่า กลับสะท้อนภาพ "การเมือง" ที่หยั่งลึกลงไปในวิถีชีวิตของคนจน ในต่างจังหวัด ฉายภาพให้เห็นว่าการใช้ชีวิตแบบคนจน ความเป็นอยู่ของคนต่างจังหวัดลำบากขนาดไหน
3) คุณแจมยกตัวอย่างเริ่มต้นง่ายที่ความเจริญไปกระจุกตัวอยู่ในตัวอำเภอเมือง ไม่ใช่นอกเมือง ทำให้ตลาดงาน หรือการจะไปทำอะไรต้องพุ่งไปในเมือง แต่ก็ติดขัดความลำบากตรงที่ว่า Public Transportation ในจังหวัดของเขา ที่มันลำบาก ไม่มีเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับเขา
4) เพราะะปัญหาการคมนาคม คนต่างจังหวัดจึงจำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัว หรือมอเตอร์ไซค์ เป็นเรื่องปกติ เป็นความตลกร้ายที่น่าขัน เพราะมันคือการผลักภาระต้นทุนชีวิตให้ประชาชนแบกรับ ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายของการผ่อนซื้อรถ ค่า Maintenance และค่าน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น มันไม่ควรเป็นภาระของประชาชน
5) แน่นอนว่า คนไม่มีปัญญาซื้อรถและต้นทุนชีวิตไม่มากพอ พวกเขาลำบากมาก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะประเทศไม่ได้ให้ infrastructure ที่สอดรับกับวิถีชีวิตของประชาชนขนาดนั้น คนไม่มีรถตกเป็นพลเมืองชั้น 2 3 4 ที่ถูกลืมให้ดิ้นรน หาเงินค่ารถเข้าเมือง และนั่นคือต้นทุนชีวิตที่เป็นค่ากิน ค่าอยู่ของเขาในแต่ละวันที่หมดไปกับค่าเดินทาง
6) ถ้าเรามองกลับมาเป็นกรุงเทพฯ เราก็จะเห็นว่า ต่อให้มีรถไฟฟ้า และ Public Transportation สะดวกกว่าต่างจังหวัด แต่อุปสรรคก็เป็นค่าครองชีพอยู่ดี ที่ทำให้คนลำบาก แบกรับค่าใช้จ่ายมหาศาล เพราะค่าเดินทางแต่ละวัน ถ้าไม่ได้อยู่คอนโดในเมือง ก็หลายร้อยเช่นกัน ไม่ได้มีคุณภาพชีวิตดีกว่าคนต่างจังหวัดอย่างแท้จริง
7) ลองกลับมามองต่อไปว่า "ชีวิตดีๆ จะเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน" ได้ยังไง? ในเมื่อโครงสร้างของประเทศติดสลักให้แทบจะขยับไม่ได้ อยากสอบติดที่ดีๆ ก็แข่งขันกันด้วยการเข้าถึงโรงเรียนกวดวิชา ก็ใช้เงินแข่งขัน ไม่มีเงินก็ดิ้นรนลำบากกว่า เพราะต้นทุนชีวิตต่ำกว่า มันพยายามมากแล้ว แต่วนอยู่ในกับดักที่หลุดออกไปไม่สำเร็จ
8 ) ความจนมันโหดร้ายกับคน ไม่ใช่เรื่องน่าซาบซึ้งอะไรเลย และถ้าใครยังเอาบรรยากาศความแร้นแค้นของคนต่างจังหวัดมาทำซึ้ง Romanticize ชีวิตพอเพียง ก็ลองอ่านสัมภาษณ์เต็มๆของคุณแจม เราจะพบความจริงว่า ความลำบากของชีวิตคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์ใดๆ และมันทำให้เขาเหนื่อยยากแค่ไหน กว่าจะปีนป่ายชีวิตของเขามายืนจนถึงจุดนี้ครับ
9) พอพูดเรื่องเรียนพิเศษ ก็น่าเจ็บใจ ที่โรงเรียนดีๆ มหาลัยดีๆ จะเข้าได้ต้องแข่งขันกันกวดวิชา ไปเสียเงินให้กับระบบหลายหมื่นบาท เพื่อเอาชนะในการสอบแข่งขัน ทั้งๆที่สถาบันดีๆควรมีให้เด็กทุกๆคนได้มีโอกาสเข้าถึงได้ ไม่ใช่เรื่องต้องลำบาก ยื้อแย่งกัน หรือใช้เงินซื้อความสำเร็จในการศึกษาของตัวเองขนาดนี้ ทุกจังหวัดควรมีมหาลัยชั้นนำที่รองรับเด็กทุกความถนัดได้มากพอ ไม่ใช่ต้องพุ่งเข้าไปในบางสถาบันการศึกษาที่มีที่นั่งจำกัด และไปแข่งกันด้วยการทำข้อสอบสุดหิน ที่ส่วนใหญ่มีแต่เด็กเรียนพิเศษ หรือไม่ก็หัวกะทิจริงๆเท่านั้นที่เข้าได้
10) คนไม่เคยยากจน หรือไม่เคยสัมผัสบรรยากาศของความลำบากมาด้วยตัวเอง จะไม่เข้าใจเรื่องราวในบทความนี้ที่เราเขียนขึ้นมาเพื่อตีแผ่มุมมองของชีวิตดาราคนหนึ่งที่กล้า speak out ชีวิตตัวเอง กระทบกับสังคมและการเมืองอย่างตรงไปตรงมา จงมองคนทุกคนในสังคมด้วยเมตตาและความเข้าใจ แล้วเราจะพบว่า "การเมืองที่ดี" สำคัญกับพวกเราคนไทยขนาดไหน มันอยู่ในชีวิตประจำวันเราทุกคน ตั้งแต่เกิดยันตาย อย่า ignore ว่าชีวิตฉันไม่เกี่ยวกับการเมืองอยู่เลย
11) แจม รชตะ เป็นดาราที่ call out แบบไม่รู้ตัว เพราะการเล่ารายละเอียดชีวิตของเขา แตะปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคมและการเมือง ตัวแทนของคนจนที่หาโอกาส ปีนป่ายจากต้นทุนชีวิตลำบาก สู่ความสำเร็จ แล้วเขาไม่เคยหยุดพูดปัญหาที่เขาพบในบทสัมภาษณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ โดยที่ไม่ได้ขายดราม่า แต่ใช้ความจริงกระแทกใจคนที่เผชิญ#ThinkTalkLoud
ความเป็นจริง "ความเหลื่อมล้ำแทรกซึมทุกอณูของชีวิตคนไทย"
ขอบคุณคุณแจม ที่เล่าเรื่องราวเหล่านี้สู่สังคม และบทสัมภาษณ์ดีๆจาก LIPS MAGAZINE ครับ
IG : Tootsyreview
TW : ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review
#ThinkTalkLoud