วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 23, 2563

ประชาไทสัมภาษณ์ ‘จ่านิว’ จะไปต่ออย่างไร... การชุมนุมที่กำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง




สิรวิชญ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษา และประชาชนในครั้งนี้ยังคงมีลักษณะเป็นแฟลชม็อบ คำถามสำคัญคือพวกเขาจะเดินหน้าเคลื่อนไหวใหญ่ต่อไปอย่างไร หรือจะเคลื่อนไหวแบบแฟลชม็อบที่เป็นแค่งานกิจกรรมอีเว้นท์รายครั้งต่อไป ข้อสงสัยอีกข้อคือประชาชนออกมาเยอะเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวอย่างขะมักขะเม้นของนักศึกษา หรือเป็นผลของการไม่พอใจรัฐบาลในช่วงนี้ ถ้าหลังจากนี้กระแสของรัฐบาลเงียบหายไป คนจะออกมาเยอะแบบครั้งนี้อีกหรือไม่
.
รูปแบบแบบแผนของทวิตเตอร์คือการสร้างไวรัลให้เร็วที่สุดโดยไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน การอาศัยรูปแบบแผนของทวิตเตอร์บางทีมันไม่ได้มีส่วนในการปลุกเร้า ซึ่งในการชุมนุมต้องการการปลุกเร้ามาก แต่รูปแบบแบบแผนของทวิตเตอร์ใช้การจิกกัด จากตอนแรกอาจจิกกัดฝ่ายตรงข้าม แต่สักพักพอเริ่มมีปัญหาก็เริ่มมาจิกกัดกันเองจนสุดท้ายก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย เท่าที่ตนฟังการปราศัยบนเวทีมองว่าผู้ปราศัยบางคนก็ปราศัยได้ดี แต่บางคนก็ยังใช้ภาษาที่ใช้ในทวิตเตอร์มาจิกกัดฝ่ายรัฐบาลอยู่

“อย่างน้อยการเคลื่อนไหวครั้งหน้าก็ควรที่จะหลุดออกจากโลกของทวิตเตอร์ให้ได้ ต้องไม่ใช่ทวิตเตอร์เป็นกรอบมโนทัศน์หลัก การใช้ทวิตเตอร์อาจต้องปรับปรุงดัดแปลงให้มีรูปแบบแบบแผนใหม่และใช้ประโยชน์ในด้านอื่นให้มากขึ้น” สิรวิชญ์กล่าว
.
“อย่างน้อยตอนนี้เราสร้างแรงกระเพื่อมไปให้ถึงรัฐบาล ตอนนี้กระแสการตอบรับของประชาชนดี แต่รัฐบาลยังมองว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้คุกคามประชาชนและยังเป็นกระบวนการทางกฏหมาย เราต้องทำยังไงต่อไปให้ประชาชนเห็นว่ากระบวนการที่รัฐบาลกกระทำเป็นกระบวนการทางกฏหมายที่ไม่ชอบธรรมให้ได้ อันนี้ฝากเป็นโจทย์ให้ทางผู้จัดไปคิดเพราะถ้ายังไปถึงจุดนั้นไม่ได้ รัฐบาลก็ยังคงลอยตัว ตอนนี้การคุกคามประชาชนของรัฐบาลเป็นไปตามกฏหมาย ไม่ใช่เกิดขึ้นโดย คสช. อีกแล้ว จะทำยังไงให้ในมโนสำนึกของประชาชนรู้สึกว่ามันผิด ยิ่งตอนนี้รัฐบาลแทบจะไม่มียางอายในการกระทำแบบนี้ เรายิ่งต้องทำให้เกิดมโนสำนึกแก่ประชาชนในวงกว้าง” สิรวิชญ์กล่าว
.
“ตอนนี้ผมก็เอาใจช่วยเพราะคนออกมาเยอะ เราก็เคยเป็นส่วนหนึ่งที่เคยต่อต้านทั้งการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าอยากจะให้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและลบข้อครหาจากฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นแค่กิจกรรมอีเว้นท์รายครั้ง เพื่อทำให้รัฐบาลรู้สึกสั่นคลอนและไม่มีความมั่นคงในอำนาจ เราต้องมาคิดว่าจะเซาะเสาหลักในอำนาจของรัฐบาลได้อย่างไร” สิรวิญช์กล่าวทิ้งท้าย

ชวนอ่านบทความเต็มที่ประชาไท
https://prachatai.com/journal/2020/07/88703